ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ทำ Apple อยากร่วมวงด้วย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Apple ได้เผยโมเดลรถยนต์ไร้พวงมาลัยและคันเร่ง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง คาดเปิดตัวปี 2025
มีข่าวลือมาว่า Apple จะผลิตรถไม่มีพวงมาลัยหรือคันเหยียบ และภายในรถจะออกแบบที่นั่งเป็นรูปตัวยู และมีแผนเร่งผลักเข้าสู่ตลาดรถยนต์เร็วๆนี้และคาดว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองได้ในปี 2025
โครงการยานยนต์มีข่าวลือจากบริษัทเทคโนโลยีมากมาย ที่ได้ตอกย้ำความทะเยอทะยานของผู้นำคนใหม่ของ Apple ที่กำลังผลักดันให้รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเต็มรูปแบบเกิดขึ้นจริงโดยไม่มีพวงมาลัยหรือคันเหยียบใดๆเลย ภายในรถจะได้รับการออกแบบสำหรับการขับขี่แบบ Hand-off หรือไม่มีการจับพวงมาลัยและได้ออกแบบที่นังผู้โดยสารให้ล้อมรอบกันเป็นรูปตัวยู
บริษัทร่วมลงทุนด้านรถยนต์ภายใต้การดูแลของ Apple หรือที่รู้จักกันในชื่อ Project Titan ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเมื่อผู้บริหารที่รับผิดชอบด้านการพัฒนา อย่าง ดั๊ก ฟิลด์ (Doug Field) ได้ย้ายค่ายไปร่วมกับค่ายรถยนต์ Ford
Doug เป็นสมาชิกอาวุโสคนที่ 4 ของทีมผู้ผลิตรถยนต์และผลิตภัณฑ์ iPhone ที่ได้สละตำแหน่งในApple เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังเคยทำงานกับ Elon Musk ในการออกแบบTesla Model 3 ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จีนไล่ตามสหรัฐฯติดๆ ผลิตโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ตามรถแท็กซี่บินได้
เป็นไปได้ไหมที่ราคารถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะถูกลง? Story of Green Ep.3
สหภาพยุโรปออกเงินช่วยประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ทำยอดขายไตรมาสที่ 3 พุ่ง
แท็กซี่บินได้ : นวัตกรรมการเดินทางแห่งอนาคต เกาหลีใต้คาดเปิดใช้งาน 2025
แต่ผู้ผลิต iPhone ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับความท้าทายในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูงที่สำคัญมากๆไปในปีนี้
Bloomberg รายงานว่า ความทะเยอทะยานนี้มาจากผู้มาแทนที่ดั๊ก ฟิลด์ คือผู้บริหารซอฟแวร์ Apple คนปัจจุบันอย่าง Kevin Lynch เขาเป็นผู้ตั้งเป้าในการออกแบบและเตรียมผลิตรถยนต์ไร้คนขับให้ออกมาสมบูรณ์แบบให้ได้ภายใน 4 ปี ถ้าหากว่าบริษัทสามารถดึงระบบขับเคลื่อนด้วยตนเองออกมาได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว หรือกล่าวง่ายๆว่า ถ้าพวกเขาสามารถสร้างนวัตกรรมขับเคลื่อนอัตโนมัติเองได้ภายใน 4 ปี
“เรายังคงเชื่อมั่นว่ามันถึงเวลาแล้วที่ Apple จะต้องเข้าสู่ตลาดแข่งขันด้านรถยนต์ไฟฟ้าบ้าง”
Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities บริษัทการลงทุนของสหรัฐฯกล่าว เขาเสริมว่า มันน่าจะดีกว่าการไปร่วมมือกับคู่แข่งอย่าง Tesla หรือ Volkswagen เนื่องจากความท้าทายที่ Bloomberg รายงานเอาไว้เรื่องของการลาออกของนักพัฒนารายใหญ่ เราอยากเห็นพันธมิตรของ Apple บนเส้นทาง EV มากกว่าการสร้างยานพาหนะหรือโรงงานของตัวเอง เนื่องจากส่วนต่างของกำไรและแบบจำลองทางการเงินนั้นมีผลกับท้องถนนมากกว่าแต่ก็ควบคู่ไปกับความเสี่ยงด้านผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์จากการเป็นผู้ผลิตรายใหม่
รายงานจาก Bloomberg ยังระบุอีกว่า บางคนที่ร่วมทำงานในโครงการนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจในไทม์ไลน์เท่าไหร่ แม้ว่าจะประกาศออกไปแล้วว่าจะต้องได้การคอมเฟิร์มประสิทธิภาพเร็วๆนี้ เช่น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ชิปประมวลผลและเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำขั้นสูง อีกทางเลือกหนึ่งคือการเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปหรือเริ่มขายรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่มีฟังก์ชันน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า Apple ได้เริ่มพัฒนาตัวชิปสำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของรถยนต์แล้ว แม้ว่าการออกแบบจะไม่มีพวงมาลัย แต่ทาง Apple ก็ยังหารือกันไม่เลิกถึงการปรับรูปแบบให้เข้ากับรถในกรณีเข้าสู่โหมดการควบคุมฉุกเฉิน
รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนจำนวนมาก นั่นจึงช่วยให้ Elon Musk ซีอีโอของเทสลากลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและได้การประเมินมูลค่าตลาดหุ้นที่น่าตกใจแก่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้รัการพิสูจน์ เช่น Lucid และ Rivian ผู้ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดเทียบกับบริษัทที่ก่อตั้งมานานหลายทศวรรษซะอีก
หนึ่งในการตกแต่งภายในของรถที่ Apple ออกแบบนั้นกำลังเป็นที่เคร่งเครียดสำหรับบริษัทรับออกแบบอย่าง Canoo ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านรถยนต์ไฟฟ้า และได้รับโจทย์ให้ออกแบบให้เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ผู้คน ด้วยการออกแบบที่นั่งให้เป็นตัวยู
Apple ร่วมงานกับ Titan มาตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็มีรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับการร่วมทุน ผลพวงของการลาออกของตัวแทนและผู้บริหารคนอื่นๆสำหรับการรายงานความคืบหน้า อย่างไรก็ตามในปี 2015 สำนักข่าว The Guardian ก็เคยเผยว่า Apple กำลังซุ่มผลิตยานพาหนะที่ไร้คนขับและกำลังสำรวจพื้นที่ทำการทดสอบที่ปลอดภัยแถวบริเสณอ่าวซานฟรานซิสโกอยู่
ช่วงนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังแข่งขันกันอยู่ในระดับที่สูงมากและกำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกาคาดการณ์เทคโนโลยีในอนาคตกับภาวะโลกร้อนและระบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น Apple ผู้ผลิต IOS เป็นส่วนใหญ่จึงต้องเริ่มลงมาเล่นกับตลาดรถยนต์บ้างเพื่อตอบรับการตลาดที่โตขึ้นในหลายๆด้าน แล้วคุณล่ะอยากลองขับไหม
ที่มาข้อมูล the guardian และ Bloomberg