ชวนอ่านขำๆกับ 7 ตำนานความเชื่อแปลกๆปนขำในคืนพระจันทร์เต็มดวง

เรื่องราวตำนานต่างๆเกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกมุมเรื่องบางเรื่องก็มีเค้าโครงเรื่อง บวกกับทฤษฎีสมคบคิดที่ดูเหมือนจะเป็นจริง แต่ในเรื่องราวอีกหลากหลายเรื่องก็ดูจะเป็นเรื่องเพ้อฝันของคนบางกลุ่ม จนกลายมาเป็นเรื่องเล่าขำกันในทุกวันนี้ ช่วงนี้เทศกาลวันลอยกระทงกำลังครื้นเครง จึงอยากชวนไปดูเรื่องราวความเชื่อแปลกๆเกี่ยวกับดวงจันทร์มาให้อ่านกันเล่นๆว่า เออ มันก็มีคนเชื่อแบบนี้ด้วยนะเออ

พระจันทร์เต็มดวงทำให้คลั่ง

ในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ เชื่อกันว่าพระจันทร์เต็มดวงมีส่วนทำให้ผู้คนมีพฤติกรรมแปลกๆหรือวิกลจริต รวมไปถึงการเดินละเมอยามค่ำคืน การฆ่าตัวตาย กิจกรรมผิดกฎหมาย ความรุนแรงบางอย่างและแน่นอนขาดไม่ได้ก็เรื่องการแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่า

อย่างที่เขาว่ากันว่า ความบ้าคลั่ง (Lunacy) และ วิปลาส (Lunatic) เป็นรากศัพท์มาจากชื่อของเทพเจ้าโรมัน เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ (Luna) ผู้ที่ขี่รถม้าศึกสีเงินข้ามท้องฟ้าอันมืดมนยามค่ำคืน

ระยะเวลากว่า 1000 ปี แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเชื่อว่า การเชื่อมต่ออันแรงกล้าระหว่างการคลุ้มคลั่งกับดวงจันทร์ตามคำบอกเล่าของฮิปโปเครตีส (Hippocrates) แพทย์ชาวกรีกหรือบิดาแห่งการแพทย์ที่ได้เขียนอธิบายไว้เมื่อศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลว่า “ผู้ที่ถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกและความวิกลจริตระหว่างค่ำคืนจะถูกเยี่ยมเยียนโดยเทพธิดาแห่งดวงจันทร์” เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เป้ อารักษ์ ยกพวกอาชีวะ บุกเมเจอร์รัชโยธิน ตีแผ่ชีวิตมิตรภาพของลูกผู้ชาย

• แฮร์รี่ พอตเตอร์ จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในหนังครบรอบ 20 ปี

• ร่างทรง หนังสยองเทรนด์ใหม่ สะท้อนความเชื่อ ตัวแทนเรื่องเล่า soft power ไทย

ในศตวรรษที่ 18 บนเกาะอังกฤษ มีการรณรงค์ให้ลดโทษกลุ่มคนที่เป็นผู้วิกลจริตและก่อเหตุฆาตรกรรม ถ้าหากว่าคดีฆาตรกรรมนั้นเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาของพระจันทร์เต็มดวง ในขณะเดียวกัน ผู้ป่วยจิตเวชในโรงพยาบาลเบธเอลเฮมแห่งกรุงลอนดอน (London’s Bethlehem Hospital) ถูกจับใส่กุญแจมือและเฆี่ยนตีให้เหมือนกับมาตรการป้องกันการคลุ้มคลั่งในคืนพระจันทร์เต็มดวง แม้ว่าทุกวันนี้การศึกษาและงานวิจัยสมัยใหม่หลายชิ้นจะโค่นล้มสมมุติฐานเหล่านั้นไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังคงเชื่อว่าพระจันทร์เต็มดวงจะทำให้คนกลายเป็นบ้าและคลุ้มคลั่งได้

เอเลี่ยนอาศัยบนดวงจันทร์

ในปีค.ศ.1820 นักดาราศาสตร์ชาวบาวาเรีย นามว่า Franz von Paula Gruithuisen อ้างว่าเขาได้เห็นเมืองทั้งเมืองบนดวงจันทร์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ของเขา เขาเรียกกลุ่มคนบนนั้นว่า ชาวจันทรคติ (Lunarians) ผู้ที่ช่ำชองในการก่อสร้างถนนและป้อมปราการ เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่เย้ยหยันเขาและไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่เวลาต่อมาเขาได้หลุมอุกกาบาตขนาดเล็กเป็นของตัวเองที่ได้นำชื่อของเขาไปตั้งเป็นชื่อหลุมอุกกาบาต

เซอร์ วิลเลียม เฮอร์เชล (Sir William Herschel) นักดาราศาสตร์และนักแต่งเพลงชื่อดังของอังกฤษ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อว่ามีเอเลี่ยนอาศัยอยู่บนดวงจันทร์และได้เฝ้าสังเกตความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างบนดวงจันทร์อยู่เป็นประจำ ในปี 1835 นิวยอร์กซัน (New York Sun) ตีพิมพ์บทความลวงโลกเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์ ด้วยการเรียกว่า “มหาจอมหลอกลวง” ด้วยการให้เครดิตกับจอห์น ลูกชายของเฮอร์เชลอย่างผิดๆว่าเขาเป็นนักดาราศาสตร์ที่โด่งดังด้วยตัวของเขาเองจากการค้นพบที่น่าตกใจ แต่เรื่องการมีอยู่ของเอเลี่ยนหรือสิ่งมีชีวิตนอกโลก ยังเป็นอะไรที่หาคำตอบไม่ได้ว่าจะมีจริงหรือไม่ เพราะข่าวลือเรื่อง AREA 51 ในสหรัฐฯยังเป็นสิ่งที่สร้างความเคลือบแคลงใจความสงสัยของผู้คนอยู่ทุกวันนี้

พระจันทร์ควบคุมการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง

บางทีอาจเป็นเพราะว่ารอบเดือนกับการโคจรของดวงจันทร์นั้นมีช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน อารยธรรมยุคแรกๆหลายคนเชื่อว่าดวงจันทร์เป็นตัวกำหนดเวลาได้ว่าผู้หญิงจะตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่ เทพธิดาดวงจันทร์จากความเชื่อเรื่องของมาม่าคิลลา (Mama Quilla) แม่ดวงจันทร์แห่งอินคา ตามตำนานเชื่อว่าเธอเป็นผู้ดูแลการแต่งงานและรอบประจำเดือนของผู้หญิงและถือเป็นผู้พิทักษ์สตรี อ่านเรื่องราวของมาม่าคิลลาเพิ่มเติมได้ที่ https://sawadee.wiki/wiki/Mama_Quilla

ในปี 1950 แพทย์ชาวเช็ก ยูจีน โจนาส (Eugene Jonas) สะดุดตากับข้อความในตำราโหราศาสตร์โบราณของชาวอัสซีเรียที่ระบุว่า สตรีจะมีภาวะเจริญพันธุ์ในบางช่วงของดวงจันทร์ เขาวางแผนตระกูลทั้งหมดบนสมมติฐานนี้ และบอกกับคนไข้ว่าไข่จะตกเมื่อดวงจันทร์อยู่ตำแหน่งเดียวกันตอนเราเกิด

อีกทฤษฎีหนึ่งที่สืบสานมาจนถึงทุกวันนี้ พระจันทร์เต็มดวงทำให้อัตราการเกิดเพิ่มมากขึ้น และน้ำจะท่วมหอผู้ป่วยสตินารีกับมารดาที่อยู่ในภาะคลอดบุตร การศึกษาล่าสุดได้ค้นพบหลักฐานทางสถิติเพียงเล็กน้อยสำหรับจำนวนเด็กที่เกิดเยอะขึ้นในช่วงพระจันทร์เต็มดวงหรือจันทรคติ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคิดว่าการเกิดในช่วงของจันทรคติมันเป็นเพียงจินตนาการของคนเท่านั้น แต่จะจริงไหมก็อยู่วิจารณญาณของแต่ละคน ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวครั้งหน้าผู้เขียนจะลองมาให้อ่านกันนะ

ดวงจันทร์เป็นยานอวกาศที่ว่างเปล่า

หนังสือนิยายวิทยาศาสตร์หลายเล่มในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงหนังสือของ H.G.Well เรื่องชายคนแรกบนดวงจันทร์ (The First Men in the Moon) ว่าดวงจันทร์นั้นกลวงและเป็นอยู่อาศัยของมนุษย์ต่างดาว ในปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ชาวโซเวียต 2 คนได้มองก้าวขึ้นไปอีกขั้น เขาบอกว่า จริงๆแล้วดวงจันทร์เป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวที่มีลักษณะคล้ายเปลือกหอยที่สร้างโดยมนุษย์ต่างดาวด้วยเทคโนโลยีและสติปัญญาที่เหนือกว่ามนุษย์เรา เอ๊ะ จริงอ่ะ?

มนุษย์ไม่เคยไปเหยียบดวงจันทร์

แม้จะมีหลักฐานสมมุติฐานมากมายที่ตรงกันข้ามเกี่ยวกับภารกิจของนาซา บางคนก็บอกว่ายานอะพอลโล่ที่ไปลงจอดบนดวงจันทร์เป็นเรื่องที่นาซาแต่งขึ้น ทั้งรูปภาพและฉากวิดีโอ กลอุบายต่างๆเพื่อหลอกลวงประชาชน

ผู้กล่าวอ้างเรื่องราวดังกล่าวเชื่อว่าเทคโนโลยีเรายังไม่ก้าวหน้ามากพอสำหรับนักบินอวกาศที่จะเดินทางไปดวงจันทร์และกลับมาอยู่บ้านอย่างปลอดภัยได้

พวกเขาชี้ให้เห็นถึงกลอุบายในสตูดิโอ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ธงอเมริกันที่ลูกเรืออะพอลโล 11 ปักไว้บนพื้นผิวดวงจันทร์ดูเหมือนจะโบกสะบัดในสุญญากาศของอวกาศที่เชื่อว่ามันไม่น่าโบกสะบัดได้

ในปี 2002 นักบินอวกาศเกษียณอายุ Buzz Aldrin ผู้เป็นบุคคลที่ 2 ที่ได้เดินบนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 เขาโกรธเคืองคนกลุ่มนี้มากและเขาก็เผลอไปต่อยหน้าหนึ่งนั้นได้ด้วย ซึ่งเขาไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด ตอนนี้เขาคนนั้นจะยังไม่เชื่ออยู่อีกหรือเปล่านะ?

พวกนาซีมีฐานลับอยู่บนดวงจันทร์

หลังจบสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War 2) มีข่าวลือแพร่สะพัดว่านักบินอวกาศชาวเยอรมันเดินทางไปยังดวงจันทร์และก่อตั้งสถานที่ลับสุดยอดที่นั่น บางคนถึงกับคิดว่าอดอล์ฟ ฮิตเลอร์แกล้งทำเป็นเสียชีวิตและหนีออกจากโลกไปและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในที่หลบภัยบนดวงจันทร์

ความเชื่อมโยงลักษณะนี้ยังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างพบเห็นจานบินประหลาดบนท้องฟ้า รวมถึงเหตุการณ์ที่มีชื่อเสียงใกล้เมืองรอสเวลล์ ในนิวเม็กซิโก ที่ในปี 1947 มีโครงการพัฒนายูเอฟโอที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของพวกนาซี ทฤษฎีเหล่านี้คาดว่าเป็นพื้นฐานของนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง Rocket Ship Galileo ที่จัดพิมพ์โดย Robert A. Heinlein ในปี 1947

กระต่ายอยู่บนดวงจันทร์

เป็นที่น่าสนใจ ตำนานจากประเพณีต่างๆทั่วโลก ทั้งศาสนาพุทธ ความเชื่อของจีน และคติชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่มีเรื่องเล่าของกระต่ายที่อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ตำนานนี้เกิดจากการตีความจากเครื่องหมายต่างๆบนพื้นผิวดวงจันทร์ (หลุมต่างๆบนดวงจันทร์) และอีกหนึ่งความเชื่อคือ “มนุษย์ในดวงจันทร์”

ช่วงสั้นๆก่อนที่ยานอะพอลโล 11 จะลงจอดบนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 ผู้ควบคุมภารกิจ ฮูสตันได้พูดติดตลกอ้างเรื่องราวของตำนานเรื่องเล่าจีนที่มีกระต่ายบนดวงจันทร์กับลูกเรือบนยานท่ามกลางพาดหัวข่าวใหญ่ของยานอะพอลโลกำลังลงจอดบนดวงจันทร์ เขาเล่าว่ามีคนมาขอดูกระต่ายสาวน่ารักกับกระต่ายตัวใหญ่ ไมเคิล คอลลินส์ นักบินโมดูลจึงออกคำสั่งแบบตลกๆว่า โอเค เราจะจับตาดูกระต่ายสาวอย่างใกล้ชิด อันนี้เป็นมุกกระต่ายบนดวงจันทร์ของเหล่านักบินเฉยๆนะ

มันก็ตลกไปอีกแบบที่ความเชื่อนี้แทบจะเป็นจริงไม่ได้แล้วในยุคปัจจุบันนี้เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าบนโลกใบนี้ยังมีอะไรให้ได้ค้นหาความจริงอีกเยอะ และเรื่องราวตำนานจากทั่วทุกมุมโลกยังคงมีอยู่ทุกแห่งให้เราได้ค้นหาคำตอบและความจริงต่อไป

ที่มาข้อมูล History.com