เช็กลิสต์ 6 พฤติกรรม เมื่อทำแล้ว อาจทำให้โทรศัพท์ของคุณโดนแฮกได้

1.ไม่ใส่รหัสผ่านที่โทรศัพท์
- เคยมีคนบอกว่า โทรศัพท์มือถือไม่ได้มีข้อมูลสำคัญ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องล็อกรหัสเพื่อความยุ่งยาก ซึ่งในปัจจุบันใช้คำกล่าวนั้นไม่ได้ เพราะตอนนี้หลายแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เรา มีทั้งข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน รวมไปถึงการยืนยันรหัสผ่าน 2 ชั้นก็ต้องทำผ่านโทรศัพท์หมือถือเช่นกัน ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดการโดนแฮกในอนาคต จึงควรตั้งรหัสผ่านโทรศัพท์ เพื่อป้องกันการโดนเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้

2. ไม่ใช้ระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น
- แม้การเพิ่มขึ้นตอนที่ต้องยืนยันให้มากขึ้น จะเป็นเรื่องที่ชวนเสียเวลาและมาพร้อมกับความยุ่งยาก แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยที่มากขึ้นด้วย สำหรับบแอปพลิเคชันบางตัว ที่ต้องให้ความสำคัญกับข้อมูล หรือแอปพลิเคชัที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้น ก็ควรจะทำการเปิดระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้นไว้ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของตัวเอง

3. โหลดแอปพลิเคชันที่อยู่นอก Google Play หรือ App Store
- การติดตั้งโปรแกรมที่โหลดจากเว็บไซต์ อาจจะมีการตรวจพบมัลแวร์ก็เป็นได้ เพราะส่วนใหญ่แอปพลิเคชันที่มาจาก Official Store จะมีการตรวจสอบแอปพลิเคชันที่ชัดเจน จนสามารถยืนยันได้ในระดับหนึงว่าจะไม่เจอมัลแวร์หรือไวรัสต่างๆ แต่ทั้งนี้ควรเป็นแอปพลิเคชันที่มาจาก DEVELOPER ที่น่าเชื่อถือ ที่อยู่ภายใน GOOGLE PLAY หรือ APP STORE เท่านั้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

• แฮกเกอร์เจาะระบบล้วงประวัติคนไข้โรงพยาบาล ถูกแจ้งความแล้ว

• แฮกเกอร์ ประกาศขายข้อมูลส่วนตัวคนไทย อ้างมี 30 ล้านรายชื่อ!

• สรุป 4 ประเด็นจากเหตุ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์โดนแฮกข้อมูล และแนวทางรับมือ

• มาดู 4 สัญญาณเตือน ว่าโทรศัพท์มือถือของเรานั้นอาจจะโดนแฮกข้อมูลอยู่!!!

• How to เช็กก่อนรับ ตรวจสอบก่อนรับเพื่อนในสื่อโซเชียล กันโดนแฮก

4. ไม่ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส
- การติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้รักษาความปลอดภัยในโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องทำงานช้าแต่อย่างใด กลับเป็นแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมที่มีติดเครื่องไว้เป็นเรื่องที่ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะในบางครั้งมัลแวร์มักโผล่มาโดยที่เราไม่รู้ตัว การที่มีติดเครื่องไว้ จะช่วยตรวจจับไวรัสและไม่ทำให้เราโดนแฮก ดังนั้นความเชื่อที่บอกว่ามีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสติดเครื่องไว้ จะทำให้โทรศัพท์อืด จึงเป็นความเชื่อที่ผิด และควรเลิก

5. ไม่อัปเดตซอฟต์แวร์มือถือ
- รู้หรือไม่ การอัปเดตโทรศัพท์มือถือเครื่องที่เราใช้งาน คืออีกหนึ่งทางช่วยที่จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับทรัพย์สินของคุณ เพราะการอัปเดตระบบการรักษาความปลอดภัยที่มาจากค่ายโทรศัพท์ มักเป็นการแก้ปัญหาที่มีช่องโหว่ ที่เกิดขึ้นกับเวอร์ชันเดิมๆ

6. ใช้ Wifi สาธารณะ โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย
- การใช้บริการ Wifi ฟรี ที่เปิดให้ใช้งานตามพื้นที่สาธารณะ อาจเป็นหนึ่งช่องทางที่ทำให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงโทรศัพท์เราได้มาขึ้น เพราะในบางครั้งอาจจะแฝงเข้ามาเพื่อดักจับข้อมูลและฝังมัลแวร์ไว้ที่โทรศัพท์ และอาจเกิดการขโมยข้อมูลส่วนตัวของเราได้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ อาจจะต้องใช้งานผ่าน  VPN

ที่มา : บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)