ชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก เมื่อพบว่าผู้ป่วยโควิดในอินเดียติดเชื้อ ราดำ (Mucormycosis หรือ Black Fungus) เกินหลักหมื่นคน และโรคนี้มีนัยสำคัญต่ออัตราการเสียชีวิตของคนอินเดีย จนเรียกกันว่า ‘ราดำมรณะ’
โควิดระบาดระลอกสองที่กำลังหนักหน่วงในอินเดีย หากดูข้อมูลวันนี้ชี้ว่า สถานการณ์น่าเป็นห่วง เพราะมีผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 27 ล้านราย ยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 3 แสนราย ราดำ ที่เคยเป็นโรคหายาก ยังมาซ้ำเติมในวิกฤตนี้ ชาวภารตะยิ่งตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากขึ้นไปอีก
Source : Xinhuathai
ราดำ...มันร้าย
ราดำ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พบมากในดินและซากพืช เช่น เศษซากใบไม้ร่วง หากไปสัมผัสโดนเยื่อของเชื้อราดำที่อยู่ในดิน หรือที่กระจายอยู่ในอากาศ ตลอดจนเชื้อที่อยู่ในจมูกหรือน้ำมูก ก็สามารถแพร่กระจายในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น คัดจมูก เลือดออกจมูก สายตาพร่ามัว บวมหรือปวดตา เปลือกตาตก หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ไอเป็นเลือด อาจสูญเสียการมองเห็นหรือนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ทำไมราดำกำชัยชนะในวิกฤตโควิด
จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันในอินเดียที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก ส่งผลให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ การใช้เครื่องช่วยหายใจ ท่อออกซิเจน เป็นเวลานาน หรือการใช้งานอุปกรณ์หมุนเวียน ไม่รักษาหรือทำความสะอาดให้ดี ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขอนามัย ทำให้ราดำแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
ตอนนี้ขาดยารักษา ราดำ
ราดำกำลังเข้าลุกลามจนกลายเป็นโรคระบาด (epidemic) ในหลายรัฐ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อินเดียขาดแคลนยา Amphotericin B ยาปฏิชีวนะต้านเชื้อราที่มีการบุกรุกเข้าสู่เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายอย่างรุนแรง จัดเป็น 'ยาความเสี่ยงสูง' ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
ผู้ป่วยติดเชื้อราดำส่วนใหญ่เป็นหลังหายจากโรคโควิด 12-18 วัน การรักษาก็ต้องให้ยาต้านเชื้อราทุกวัน นานประมาณ 4-6 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค) ซึ่งทางอินเดียก็ไม่ได้มียาตัวนี้มากนัก จึงต้องเตรียมนำเข้ากว่า 7 แสนขวด
ราดำ ลามหนักที่รัฐใด
ที่มา :