เปิด 4 ประเภทสเก็ตบอร์ด สำหรับมือใหม่ ที่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยตัวเอง
สเก็ตบอร์ด หรือ SKATEBOARD ในสายตาหลายคนอาจจะมองว่าเป็นแฟชั่นที่แพร่กระจายได้ในหมู่เพศชาย แต่บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ต้องอาศัยการฝึกซ้อมอย่างหนักมาก! เรียกได้ว่าต้องสละทั้งแรงกายและแรงใจเพื่อสิ่งนี้เลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เป็นงานอดีเรก มาเริ่มต้นเรียนรู้ขั้นพื้นฐานอย่างประเภทของสเก็ตบอร์ดกันเลยดีกว่า
สเก็ตบอร์ด เริ่มขึ้นในแถบ Califonia ตั้งแต่เมื่อปี 1950 ที่เป็นการดัดแปลงมาจากนักเล่นเซิร์ฟที่พยายามจะหาวิธีการเล่นบนถนน เพื่อที่จะเล่นในวันที่คลื่นสงบนั่นเอง ซึ่งเจ้าสเก็ตบอร์ดเนี่ยก็หลายมาเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของแฟชั่นสตรีทมาจนถึงปัจุบัน มีทั้งความนิยมในเด็ก, วัยรุ่น และผู้ใหญ่ แต่จะบอกว่าการเล่น “สเก็ตบอร์ด” นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งในวันนี้ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 4 ประเภทของสเก็ตบอร์ด เผื่อว่าใครที่สนใจ จะอยากไปทดลองเล่นกัน
เริ่มด้วยตัวเบสิกที่หลายคนรู้จัก เพราะเป็นต้นกำเนิดของกีฬา สเก็ตบอร์ด ที่นำมาเล่นแทนเซิร์ฟ เรียกได้ว่าคลาสสิคตั้งแต่รูปทรงยันล้อ ตัวบอร์ดทำมาจากไม้เมเปิ้ล มีขนาดความกว้างตั้งแต่ 7.5 - 8.5 นิ้ว ส่วนความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 32 นิ้ว สำหรับมือใหม่อาจจะเลือกบอร์ดที่มีขนาดแผ่นใหญ่หน่อย จะได้ยืนถนัดเวลาเล่น
ลองบอร์ด อีกหนึ่งประเภทที่ผาดโผนและเล่นยากพอตัว ด้วยไซส์ที่กว้างถึง 8 - 8.5 นิ้ว และมีความยาวถึง 34 - 40 นิ้ว ที่เป็นตัวทำให้เคลื่อนไหวได้ยากในอีกระดับหนึ่ง ส่วนตัวล้อจะยื่นออกมานอกแผ่นบอร์ดอย่างชัดเจน ซึ่งสำหรับบอร์ดตัวนี้ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของความท้าทายในการเล่นบอร์ดเลยทีเดียว
เพนนีบอร์ด อีกหนึ่งขวัญใจสาวๆที่หลงรักกีฬา สเก็ตบอร์ด ตัวบอร์ดเป็นการผสมระหว่างรูปแบบลองบอร์ด+สเก็ตบอร์ด แต่มาในขนาดที่เล็กกว่าเดิมและมีให้เลือกเพียงแค่ 2 ไซส์ คือ 22 นิ้ว และ 27 นิ้ว เจ้าเพนนีบอร์ดนี้ถือกำเนิดมาจากออสเตรเลีย ที่วัสดุทำมาจากพลาสติกและล้อยางขนาดใหญ่ ที่ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าสเก็ตบอร์ดทั่วไปที่ทำมาจากไม้
ปิดท้ายด้วยบอร์ดตัวจิ๋วอย่าง ฟิงเกอร์บอร์ด หรือ สเก็ตบอร์ดนิ้ว ที่จัดว่าเป็นบอร์ดที่มีขนาดเล็กที่สุด เพราะมีความยาวเพียงแค่ 4 นิ้ว เท่านั้น แต่ด้วยความสวยและเท่ ทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะซื้อมาสะสมไว้ แต่ถึงแม้จะเป็นสเก็ตบอร์ดมีล้อเหมือนกัน แต่ความพิเศษก็คือต้องใช้นิ้วมือเล่นเท่านั้น! และวิธีการเล่นก็ไม่ต่างจากการใช้ขา เพียงแต่ว่าต้องควบคุมทิศทางให้ดีเท่านั้น
หลายคนที่กำลังสนใจในสเก็ตบอร์ดก็สามารถเลือกซื้อในแบบที่ชอบมาเพื่อฝึกฝนก็ได้ อาจจะไม่ต้องเก่งถึงขนาดเข้าแข่งขันแต่ก็สามารถใช้เป็นงานอดิเรกได้เช่นกัน เหมือนอย่างเช่นการฝึกทักษะของเหล่านักสเก็ตบอร์ดได้ในรายการ “อยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้” ตอน "จากยุคมืดของสเกตบอร์ด สู่กีฬาโอลิมปิก"
โดนไล่ หาว่าเป็นแหล่งมั่วสุม จากยุคมืดของสเกตบอร์ด สู่กีฬาโอลิมปิก