ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
จากเหตุการณ์ฝนถล่มเมืองกรุง จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นเพราะขยะที่ทิ้งไม่เป็นที่ทำให้อุดตันท่อระบายน้ำ แต่ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ได้นำเสนอบทความทางวิชาการ ที่วิเคราะห์เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไว้ดังนี้
เหตุการณ์น้ำท่วมหนักๆ ถี่ๆ บอกอะไรเราครับ ผมเขียนเรื่อง Sinking Bangkok ได้อาทิตย์กว่าๆ กรุงเทพก็เจอน้ำท่วมหนัก จำเลยที่สังคมพูดถึง คือขยะ คือฝนหนัก คืออุโมงค์ระบายน้ำ ซึ่งใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ ปัญหาหลักคือกรุงเทพกำลังจม ใช่ครับ เรากำลังจม จมเหมือนจาการ์ตาจม และอินโดก็พึ่งประกาศย้ายเมืองหลวงแล้ว เพราะ “เอาไม่อยู่” เหตุหลักๆ
1. ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น จาก climate change
2. ที่ผ่านมา เราโง่เขลามากที่ถมสร้างตึกสูงมากมาย บนพื้นดินที่เป็น “โคลน” น้ำหนักที่ถูกกดทับมากขึ้นทุกปี ทำให้ฐานเมืองแข็งๆด้านบนทีเสาเข็มเกาะอยู่ จมลงในโคลนด้านล่างมากขึ้นๆ
3. กรุงเทพมีพื้นที่สีเขียวน้อยมาก ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาเทลงทะเลซะหมด โดยถนน ลานปูน พื้นปั้มน้ำมันที่เป็นปูน ตึก ซีเมนต์มากมายนั้นทำให้ “ดิน” ด้านล่างที่ควรจะมีความชื้นเพื่อให้ยืดหยุ่นเกิดการแห้ง ทรุด และร่อน
จำเลยคือใครครับ? บนความคิดที่ว่า “ไม่รู้ไม่ผิด” แต่ “ถ้ารู้แต่ไม่ทำ นั่นคือผิด” ผังเมือง และที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. ตลอด 10 ปีนี่แหละครับ ที่ปรับผังเมืองกรุงเทพตอนในในมีสีแดงเข้มมากขึ้นๆจนเมืองร้อน รถติด และทรุดหนัก เพราะปล่อยให้กลุ่มทุนอสังหาเข้ามาแทรกแซงการคัดค้าน แทนที่จะเป็นแผน “กระจายออก” และสร้างหลุมขนมครก แนวพื้นที่สีเขียวตามแบบที่ท่านอดีตผู้ว่าพิจิตต รัตตกุล ท่านเคยฝากไว้ อีก 15 ปีข้างหน้า น้ำท่วมหนักจะเป็นปัญหาถาวร และหากไม่ทำอะไรภายใน 50 ปี กรุงเทพจะเป็นส่วนหนึ่งของชายทะเลอ่าวไทยครับ #SinkingBangkok