ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงมาตรการ “ ชิม ช้อป ใช้” ว่า หากให้คะแนนเต็ม 100 ของให้แค่ 2 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนความพยามยามกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมีการใช้งบประมาณมากถึง 19,000 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อวิกฤตทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และการแจกหว่านเงินครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะเจาะที่ประชาชนกลุ่มไหน มีการกำหนดเงื่อนไขลงทะเบียนในแบบใครมาก่อนได้ก่อน
ซึ่งมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ยุ่งยากซับซ้อน คนจะลงทะเบียนได้ต้องมีมือถือ มีอินเทอร์เน็ตที่ดีมีประสิทธิภาพ มีเวลาพอมานั่งจ้องลงทะเบียน ทำให้คนที่ได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงแค่คนชั้นกลางที่อยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงระดับฐานราก นอกจากนี้ยังพบปัญหาความไม่ไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล เพราะการลงทะเบียนมีการเก็บข้อมูลจากประชาชน ที่มีการแสกนใบหน้า
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตมาตรการนี้ออกมาเพื่อเก็บข้อมูลแบบยิงนัดเดียวได้นกหลายตัวหรือไม่ และข้อมูลที่เก็บไปปลอดภัยหรือไม่ หรือจะเอาไปทำอะไร ดังนั้นมาตรการนี้ถึงจะเป็นมาตรการระยะสั้นที่ดูดี
แต่ยังไม่เพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นในภาพรวมเศรษฐกิจไม่ได้ทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นการสร้างความนิยมกับประชาชนเพราะรัฐบาลอยู่ในสภาวะที่สั่นคลอนอย่างมากในเรื่องความนิยมที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล เห็นได้จากการเฟซบุ๊กไลฟ์สดของนายกรัฐมนตรีที่มีคนเข้ามาคนกดโกรธจำนวนมาก ซึ่งแสดงความรู้สึกของประชาชนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นมาตรการนี้ไม่ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจแต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาล