ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
ที่ห้องประชุมรัฐสภาชั่วคราว อาคารทีโอที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านว่า ตนอาจจะพูดเร็วไปนิดหนึ่ง พูดไม่ชัดบ้าง กลืนน้ำลายบ้าง ตนเป็นมนุษย์ ถ้าท่านพูดเก่งก็เรื่องของท่าน แต่ตนพูดแล้วทำไปด้วย เรื่องแรกคือเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เราได้ดำเนินการมาตลอด มีการบริหารจัดการน้ำทุกจังหวัดทั่วประเทศ นี่คือสิ่งที่เราได้ปฏิบัติ เพราะพูดอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ปัญหาคือน้ำไม่เพียงพอ เพราะฝนไม่ตก การเกษตรก็ทำเกินกว่าปริมาณน้ำ รัฐบาลก็จะแก้ไข้ด้วยการหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมต่อไป แต่มันก็ไม่ได้ง่ายนักในการจะทำทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจะติติงเพียงอย่างเดียวโดยไม่สร้างสรรค์คงไม่ได้ และที่บอกว่าต้องหาน้ำให้ได้ แต่บางพื้นที่เจอปัญหาส่งน้ำไปไม่เพียงพอ อยู่ในที่สูงส่งไปไม่ถึง ตอนนี้ก็ส่งไปจนเกินเกณฑ์ก็จะมีปัญหาต่อน้ำอุปโภคบริโภค
ตนเสียงดังไปหรือเปล่าไม่รู้ เพราะไม่ได้พูดนานแล้ว ตนมีตัวตนของตัวเองเหมือนกัน เขาบอกให้ตนพูดอย่างสุภาพ แต่ตอนนี้ตนกำลังยิ้มอยู่ เรื่องต่อไปท่านบอกว่าต้องการงบประมาณ ต้องถามว่างบประมาณจากไหน ถ้าไม่ใช่จากภาษีและเงินกู้ ที่ตั้งงบประมาณขาดดุลไว้ก็เป็นการเผื่อ หากมีความจำเป็นจะกู้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ที่ผ่านมากี่รัฐบาลตัวเลขก็ 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลใครก็ไม่รู้ แต่ทำไมไม่เกิดถนนหนทาง รถไฟ รถไฟฟ้า อย่างที่ตนทำวันนี้ ทำไมไม่เกิด EEC งบประมาณใกล้เคียงกัน หนี้ทั้งหมดที่สร้างมาเป็นหนี้ที่เกิดรายได้ ร่วมกับเอกชน และรัฐบาล
จากนั้นนายกฯ ได้พูดถึงเรื่องรายได้ของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ 2.7 ล้านล้านบาท และตั้งเผื่อไว้ที่ 3.3 ล้านล้านบาท มีคนเสียภาษีที่แท้จริงเพียง 4 ล้าน อะไรที่เป็นของคนจนเราจะไม่ได้ภาษี ได้เพียงจาก VAT 7 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ลุกขึ้นประท้วง ว่านายกฯ ยังไม่ได้กล่าวถ้อยคำกับประธารสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบว่า “ขอบคุณและขอโทษ เพราะอาจจะเคยชินไปหน่อย แต่ก็ให้เกียรติประธานรัฐสภาอยู่แล้ว” ก่อนทำเป็นหันไปพูดกับ นายชวน หลีกภัย สร้างเสียงหัวเราะให้กับสมาชิกรัฐสภาอย่างมาก ก่อนบอกต่อว่า บางคนอาจไม่เคยชินกับตน แต่ขอถามว่างบประมาณ 2 ล้านล้านบาท ก่อนหน้าที่ทำอะไรได้บ้าง กู้แล้วเกิดรายได้หรือไม่ วันนี้ไม่อยากก้าวล่วงใคร เพราะมีคดีค้างอยู่กว่าพันคดี เตรียมตัวไว้แล้วกัน เรื่องอะไรไม่รู้
ทั้งนี้เมื่อนายกฯ กล่าวถึงนโยบายทางด้านความมั่นคงว่า ตนให้เกียรติกับทุกคน แต่บางครั้งอาจดูเสียงดังบ้าง เพราะมันกดดัน พวกท่านบอกให้ตนรักษากิริยา แต่บางครั้งพวกท่านก็ไม่มีกิริยาให้ตน เรื่องการซื้อยุทโธปกรณ์ซื้อในสิ่งที่เราใช้ได้และมีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องการทุจริต ก็ไปหาหลักฐานมา ไปฟ้องมาเพื่อดำเนินคดี โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดมาถึงตรงนี้ก็ได้ชี้นิ้วไปยังผู้ประท้วง ซึ่งเป็นอดีตนายทหารและพูดว่าพวกท่านก็รู้ดี เพราะเป็นลูกน้องตนมาก่อน เป็นทหารเหมือนกันขอให้เข้าใจ ก่อนที่ประธานรัฐสภาจะเตือนว่าไม่ควรชี้นิ้ว นายกฯ จึงได้หัวเพราะพร้อมกล่าวขอโทษ และบอกว่ารูปแบบในสภาฯ อาจเปลี่ยนไปบ้างต้องขออภัย ตนจะทำตัวให้ดีกว่านี้
ทั้งนี้ตลอดทั้งวัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้นั่งฟังในห้องประชุมและจดรายละเอียดอยู่ตลอด ซึ่งบางช่วงนายกฯ มีการแสดงออกทางสีหน้า แต่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่นั่งอยู่ด้านข้าง ได้คอยสะกิดเตือน และยิ้มให้ จนพล.อ.ประยุทธ์ คลายอารมณ์ได้