บังกลาเทศ สั่งหยุดเรียนเพิ่ม 1 วันต่อสัปดาห์ เมื่อประเทศเจอวิกฤตพลังงาน

ลองจินตนาการดูว่า หากประเทศไทย มีคำสั่งให้ หยุดเรียนเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 2 วัน และให้ลดระยะเวลาทำงานในสำนักงานจากวันละ 8 ชั่วโมง เป็นวันละ 7 ชั่วโมง เพื่อเป็นแนวทางประหยัดพลังงานผ่อนคลายปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า จะเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคม ? ...แต่สิ่งนี้ที่กล่าวมา มันได้เกิดแล้วที่ ประเทศ บังกลาเทศ หนึ่งในสมาชิกในทวีปเอเชียใต้ 

ดูเหมือนว่า ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน จะไม่ใช้เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปแล้ว และมันอาจจะเป็นภาพกระจกสะท้อน ให้เห็นภาพปัญหาใหญ่ของโลกในองค์รวม  และทำให้โลกทั้งโลกตระหนัก และ keep the World กันมากขึ้น  หากเราทุกคนมองประเทศ บังกลาเทศ เป็นสารตั้งต้นของเรื่องนี้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• จะเป็นอย่างไร ถ้ามีการเก็บภาษีเนื้อ ราคาอาหารสูงขึ้น เพื่อลดโลกร้อน

• ทุกๆ 1 นาที มีต้นไม้ถูกไฟป่าเผา ในพื้นที่ราว 16 สนามฟุตบอลในปี 2021

• นักวิชาการเผย ไทยเสี่ยงน้ำท่วมหนักสิ้นปีนี้ โลกร้อนและลานีญายาวนานขึ้น

โดยทั่วไปแล้ว , โรงเรียนในประเทศบังกลาเทศจะเปิดเรียนสัปดาห์ละ 6 วัน หยุดเรียนในวันศุกร์ แต่นับจากนี้ไป ในช่วงที่เกิดปัญหา วิกฤตพลังงาน รัฐบาลบังกลาเทศ ในยุคนายกรัฐมนตรี ชีค ฮาซิน่า Sheikh Hasina จะให้หยุดเรียนเพิ่มอีก 1 วัน นั่นคือ วันเสาร์  

สรุปแล้ว บังกลาเทศ จะหยุดเรียน ในวัน ศุกร์ และ วันเสาร์  (ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องปกติเหมือนกับไทยที่หยุด 2 วันต่อสัปดาห์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับบังกลาเทศ มันคือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิมไปพอสมควร  )  
 

การเพิ่มวันหยุดเรียนและลดเวลาทำงานสำนักงาน มีขึ้นขณะบังกลาเทศกำลังเผชิญวิกฤตพลังงานขาดแคลน หลายพื้นที่ของประเทศถูกตัดการจ่ายไฟวันละ 2 ชั่วโมง เมื่อรัฐบาลได้สั่งปิดโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมันดีเซลทุกโรง ซึ่งคิดเป็น 6% ของปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งประเทศ เนื่องจากราคานำเข้าน้ำมันดีเซลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน เวลาทำงานของสำนักงานทั้งภาครัฐ และธนาคาร ให้ลดจากวันละ 8 ชั่วโมง เป็นทำงานวันละ 7 ชั่วโมง แต่ภาคเอกชนสามารถกำหนดชั่วโมงทำงานเองได้ความเหมาะสม รัฐบาลจะยังจัดหาไฟฟ้าให้กับประชาชนในระดับหมู่บ้าน รวมทั้งในช่วงชั่วโมงเช้าตรู่ที่มีการทดน้ำเข้าแปลงเกษตร 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2022 รัฐบาลบังกลาเทศ พยายามแก้วิกฤตปัญหาพลังงานมาแล้ว โดยได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิลมากกว่า 50% ส่วนน้ำมันดีเซลและน้ำมันก๊าด ราคาเพิ่มขึ้นตามอีกกว่า 40% ทำให้ชาวบังกลาเทศชุมนุมประท้วงอยู่หลายสัปดาห์ 

แต่รัฐบาลยืนยันจำเป็นต้องขึ้นราคาน้ำมัน เพราะปัญหาขัดแย้งในสงครามรัสเซีย - ยูเครน  ทำให้ราคาน้ำมันนำเข้าแพงขึ้น ซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อและเศรษฐกิจประเทศให้หนักหน่วงขึ้นอีก  รวมถึงปริมาณเงินทุนสำรองสกุลเงินต่างประเทศของบังกลาเทศทำให้กลายเป็นประเทศที่ 3 ในโซนเอเชียใต้ ที่ต้องขอกู้เงินพยุงเศรษฐกิจจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ต่อจากศรีลังกา และปากีสถาน