ผู้ช่วยผบ.ตร. แจงปมดราม่า 5 กันยายน กฎหมายจราจรใหม่ บังคับคนนั่งแคปกระบะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ระบุข้อมูลคลาดเคลื่อน บังคับรถกระบะแคปรัดเข็มขัดนิรภัยเฉพาะแถวหน้า ส่วนผู้โดยสารอยู่ระหว่างพิจารณาคณะทำงานยกร่างกฎหมาย ก่อนนำเสนอคณะกรรมการใหญ่เห็นชอบและออกประกาศ
กรณีประเด็นสังคมที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันในสื่อโซเชียลที่ระบุว่า..หลังวันที่ 5 กันยายน 2565 กฎหมายมีผลบังคับใช้ ให้เบาะที่2 ต้องคาดเข็มขัด ฝ่าฝืนปรับ 2,000 กรรมจึงมาตกอยู่ที่กระบะแคป ที่ไม่มีเข็มขัด และออกแบบมาเพื่อการใส่ของ ไม่ได้มีไว้นั่ง แต่คนไทยนั่งมาจะร้อยปีแล้ว ทั้งนั่งท้ายกระบะ นั่งแคป คนชนบทที่ซื้อรถแคปมาก็หวังจะได้ซื้อรถราคาถูกกว่า 4 ประตู ใช้งานได้เอนกประสงค์ หวังว่าจะได้เป็นที่หลบร้อน หลบฝน ต้นทุนชีวิตคนเรามันต่างกัน กฎหมายกำลังบีบบังคับ ลอยแพ ผู้ใช้รถแคปอยู่หรือไม่
ล่าสุดวันนี้ ทางด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองหัวหน้าคณะทำงานและคณะทำงานย่อย เพื่อพิจารณายกร่างกฏหมายลำดับรองและเตรียมความพร้อมในการรองรับการบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งข้อเท็จจริง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 65 โดย ตร. จะต้องออกประกาศเกี่ยวกับการโดยสารในกลุ่มรถที่มีที่นั่งที่ไม่สามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ. มีผลใช้บังคับ (ครบกำหนดวันที่ 4 ธ.ค. 65)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ราชกิจจาฯ ประกาศ นั่งเบาะหลัง ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับ 2,000 บาท มีผล 5 ก.ย.นี้
ตำรวจนครบาลชี้แจง ไม่มีการตั้งด่านตรวจคาร์ซีท รอผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้
โดยจะมีคณะทำงานพิจารณายกร่างกฎหมาย ที่มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นที่ปรึกษา และ พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายนนท์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นหัวหน้าคณะ หารือร่วมกันระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดทำร่างประกาศฉบับดังกล่าว ซึ่งในเนื้อหาสำหรับรถกระบะแคปนั้นกำหนดให้รัดเข็มขัดนิรภัยเฉพาะแถวหน้า ในส่วนของแคปไม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่กำหนดให้มีผู้โดยสารไม่เกิน 2 หรือ 3 คน ซึ่งยังอยู่ระหว่างพิจารณาของคณะทำงาน
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ปัจจุบันร่างประกาศฉบับดังกล่าวอยู่ในกระบวนการของคณะทำงานพิจารณายกร่างกฎหมาย ในการนำเสนอร่างให้คณะกรรมการใหญ่เห็นชอบและออกประกาศ ให้มีผลใช้บังคับตามกฎหมายต่อไป ส่วนประเด็นใดที่ไม่ต้องทำระเบียบก็จะบังคับใช้ได้เลยในวันที่ 5 ก.ย.65 เช่น การรวมกลุ่มมั่วสุมเพื่อแข่งรถในทางตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป ถือเป็นความผิดฐานพยายามแข่งรถ , การเพิ่มโทษผู้ทำผิดซ้ำเมาแล้วขับที่ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี