svasdssvasds

"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric

"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric

SKC ICT ผู้พัฒนาระบบ Biometric เพื่อยกระดับการให้บริการภายในสนามบิน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก AOT นำเทคโนโลยี Biometric มาใช้กับ 6 ท่าอากาศยานไทย

SHORT CUT

  • SKY ICT บริษัทเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบินชั้นนำผู้พัฒนาระบบ Biometric 
  • ระบบ Biometric เทคโนโลยีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ตัวช่วยสำคัญในการให้บริการภายในสนามบินเพื่อ ความรวดเร็ว ปลอดภัย และไร้รอยต่อ 
  • ทอท. (AOT) มีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี Biometric และนำมาใช้กับ 6 ท่าอากาศยานไทย เพื่อยกระดับให้ท่าอากาศยานไทยสู่สากล 

SKC ICT ผู้พัฒนาระบบ Biometric เพื่อยกระดับการให้บริการภายในสนามบิน และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก AOT นำเทคโนโลยี Biometric มาใช้กับ 6 ท่าอากาศยานไทย

เคยรู้สึกเสียเวลา กับการเข้าแถวรอคิวเช็กอิน  โหลดสัมภาระ หรือ เข้าแถวช่วงประตูทางออก ก่อนจะขึ้นเครื่องบินกันหรือเปล่า... ?

แต่จากนี้ไปขั้นตอนต่างๆ ในท่าอากาศยานไทยจะรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น  ด้วยระบบ Biometric สุดล้ำ  ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การเดินทางในสนามบินเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ 

\"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ\" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric

Biometric หรือ ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System : Biometric )  เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาการบริการโดย “สกาย กรุ๊ป”  บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)  ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำในประเทศไทย  มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบิน และระบบการจัดการอัจฉริยะ  

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้พัฒนาบริการระบบ Biometric เป็นผู้ที่นำเทคโนโลยีระดับโลกมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยยกระดับท่าอากาศยานไทยให้เป็นสนามบินที่มีความทันสมัยเทียบเท่านานาชาติ

นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)

ประโยชน์ และจุดเด่นของ Biometric 

คือ การจดจำใบหน้า ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition  มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร   ระบบจะทำการสแกนใบหน้า และนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลของสนามบิน  เพื่อช่วยลดเวลาการตรวจสอบในด่านต่าง ๆ ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลารอคิวนาน 

\"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ\" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric

เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเช็กอินจนถึงการขึ้นเครื่อง อย่างการเช็กอินด้วยตนเองผ่านตู้ Kiosk ทำให้ไม่ต้องรอนานในคิวที่จุดเช็กอิน  การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจสอบความปลอดภัย และการเข้าประตูทางออกขึ้นเครื่องอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งปัจจุบันสนามบินหลายแห่งได้นำระบบเทคโนโลยีนี้มาใช้ 

\"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ\" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric

สำหรับประเทศไทย ล่าสุด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT ได้เชื่อมั่นในระบบ Biometric ที่ถูกพัฒนาการบริการจากความเชี่ยวชาญของ SKY ICT  ที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ และให้บริการเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมการบิน เพื่อยกระดับท่าอากาศยานให้ทันสมัย  ซึ่งทางท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.  ได้เล็งเห็นและไว้วางใจ เปิดใช้งานระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric)  อย่างเป็นทางการ โดยได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงการนำระบบ Biometric มาใช้ภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง  ของ AOT ได้แก่

  • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
  • ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
  • ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
  • ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT ได้มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ ได้แก่

  • เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน)
  • เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ)
  • เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ
  • ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร
  • ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง

โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวได้ติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบได้มีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)

ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ ผู้โดยสารภายในประเทศจะสามารถใช้ระบบ Biometric ได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ

โดยทาง ทอท. ได้สนับสนุนระบบนี้ที่ถูกพัฒนาการบริการขึ้นจากความเชี่ยวชาญของ SKY ICT เพื่อยกระดับท่าอากาศยานไทย ให้เป็นสนามบินที่มีความทันสมัยเทียบเท่าสากล ช่วยให้การเดินทางสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น   เพราะ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน)  คือ ผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมการบิน การรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ และแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยบริษัทมุ่งพัฒนา ให้สอดรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบิน ระบบรักษาความปลอดภัย และบริการอำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยานบริษัท

\"รวดเร็ว ไร้รอยต่อ\" แค่แสกนใบหน้า ก็ขึ้นเครื่องบินได้ ด้วยระบบ Biometric