กรมวิชาการเกษตร ผลิตหัวพันธุ์ "มันฝรั่ง" ปลอดโรค เพื่อให้ได้หัวพันธุ์ที่สะอาด ปลอดโรค และมีคุณภาพดี ทดแทนนำเข้า
“มันฝรั่ง” เป็นพืชเศรษฐกิจพืชหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่นในเขตภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันความต้องการมันฝรั่งเพื่อส่งโรงงานได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมแปรรูปมันฝรั่งในประเทศไทย ทําให้มีการขยายพื้นที่ปลูกมันฝรั่งเพื่อส่งโรงงานไปยังจังหวัดอื่น เช่น ลําพูน ลำปาง ตาก ในการปลูกมันฝรั่งส่งโรงงานเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูง ไม่ใช่ต้องการให้ได้ผลลิตสูงเพียงอย่างเดียวแต่เรื่องคุณภาพของหัวมันฝรั่งก็เป็นสิ่งสำคัญที่เกษตรกรจะต้องคำนึงถึงด้วย
ปัจจุบัน มันฝรั่ง ในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการอุตสาหกรรมแปรรูปมันฝรั่ง ทำให้มีมูลค่าการนำเข้ามันฝรั่งและผลิตภัณฑ์ ปี 2564 ปริมาณ 1.64 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 4,163 ล้านบาท ซึ่งเป็นหัวพันธุ์มันฝรั่ง ปริมาณ 7,099 ตัน คิดเป็นมูลค่า 207.4 ล้านบาท นำเข้าจาก สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย แคนนาดา เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา การขาดแคลนผลผลิตส่วนใหญ่เกิดขึ้นในฤดูฝน เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกจำกัดและฤดูกาลไม่เหมาะสม ทำให้มีผลผลิตและคุณภาพค่อนข้างต่ำ
ทั้งนี้ที่ผ่านมา "กรมวิชาการเกษตร" ได้รับรองพันธุ์ และให้การแนะนำมันฝรั่ง 2 พันธุ์ ได้แก่ กวก. เชียงใหม่ 1 และ กวก. เชียงใหม่ 2 ซึ่งเป็นพันธุที่มีหัวกลมเนื้อในสีขาว–ขาวครีมให้ผลผลิตสูงถึง 3,608 กก./ไร่ได้เกรดส่งเข้าโรงงานแปรรูป สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี โดยดำเนินการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งตามเทคโนโลยีการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่งปลอดโรคของกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ได้หัวพันธุ์ที่สะอาด ปลอดโรค และมีคุณภาพดี ส่งเสริมให้สหกรณ์ผู้ปลูกมันฝรั่ง และ กลุ่มเกษตรกรที่ทำสัญญากับบริษัท/ผู้ประกอบการ นำไปผลิตเป็นหัวพันธุ์และวัตถุดิบส่งเข้าโรงงานแปรรูป ทำให้มีหัวพันธุ์คุณภาพปลอดโรคในประเทศเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรมีการผลิตหัวพันธุ์หลัก (G0) ประมาณปีละ 2-5 แสนหัว เพื่อนำไปผลิตเป็นหัวพันธุ์ขยาย (G1) ปีละ 20-60 ตัน โดยศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ขยายผลให้ภาคเอกชน/เกษตรกร เช่น บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ฟูดส์ จำกัดสหกรณ์ผู้ปลูกมันฝรั่งเชียงใหม่สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริดอยแบแล ผลิตหัวพันธุ์รับรอง(G2และG3)
ราคาจำหน่ายหัวพันธุ์หลัก (G0) หัวละ 6 บาท หัวพันธุ์ขยาย (G1) กิโลกรัมละ 25 บาท ผลิตหัวพันธุ์รับรอง G2 ราคา 20 บาท/กิโลกรัมและ G3 ราคา 18 บาท/กิโลกรัม โดยหัวพันธุ์ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศมีราคาถูกกว่าการนำเข้า ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งจากต่างประเทศ เป็นการลดต้นทุนการผลิตที่มาจากหัวพันธุ์มีราคาแพง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์มันฝรั่งทอดกรอบขายแข่งในตลาดโลกได้