เป็นไปได้ไหม? ที่ทีมวิศวกรรมอวกาศคีตะของไทย จะผ่านเข้ารอบการแข่งขันเฟสแรกโครงการส่งอาหารไปอวกาศ ‘Deep Space Food Challenge’ ของ NASA การแข่งขันเตรียมอาหารให้นักบินอวกาศ 4 คน ทำงานอยู่นอกโลกนานถึง 3 ปี โดยไม่ต้องพึ่งพาการเติมเสบียงใหม่แม้แต่ครั้งเดียว?
ซีพี ออลล์ ในฐานะภาคเอกชนไทยที่มีนโยบายส่งเสริมการศึกษา พัฒนาเยาวชน ภายใต้ปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน” จึงร่วมสนับสนุนทุนวิจัยทีมวิศวกรรมอวกาศคีตะ พัฒนาเทคโนโลยี “อาหารอวกาศ” นำเสนอภูมิปัญญาอาหารไทย วัฒนธรรมความเป็นไทยในการแข่งขันฯ ซึ่งถือเป็นผลงานความภาคภูมิใจของคนไทยและสานฝันเยาวชนไทยครั้งสำคัญให้เกิดขึ้นจริง
ในภารกิจการสำรวจอวกาศห้วงลึกที่ต้องใช้ระยะเวลานานเช่น การส่งมนุษย์ไปดาวอังคาร หน่วยงานอวกาศต้องคำนึงถึงความต้องการของนักบินอวกาศและปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีพเช่น อาหารที่ต้องมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ควบคู่กับความหลากหลายในรสชาติ และความเหมาะสมในการใช้งานในสภาวะของห้วงอวกาศ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ การขนส่งเสบียงอาหารจากโลกไปเป็นจำนวนมากเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการนั้นเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างมหาศาล รวมถึงความยากลำบากในการผลิตอาหารที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาภายใต้ทรัพยากรที่เหมาะสมนั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากพอสมควร
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration – NASA) และองค์การอวกาศแคนาดา (Canadian Space Agency) และมูลนิธิเมซูเธลา ได้ร่วมมือกันเพื่อเปิดโจทย์นี้ไปยังนักวิชาการ, นักวิทยาศาสตร์, นักวิจัย, และผู้ผลิตอาหารทั่วโลก ภายใต้งานประชันอาหารอวกาศลึก หรือ “Deep Space Food Challenge” หนึ่งในกิจกรรมการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อแสวงหาแนวคิดทางด้านเทคโนโลยีหรือระบบการผลิตอาหารแนวใหม่ โดยใช้ทรัพยาการจำนวนจำกัด ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด เพื่อผลิตอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริโภค มีคุณค่าทางโภชนาการ และรสชาติถูกปากนักบินอวกาศจากนานาประเทศ สำหรับภารกิจที่จะมีระยะเวลาและความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ แม้จะเป็นโครงการทางด้านอวกาศ แต่เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอาจสร้างโอกาสใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมทั่วโลก ทั้งด้านระบบการเพาะปลูก การสกัดสารสำคัญ การพัฒนาอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง รวมถึงการผลิตอาหารในภูมิภาคที่ขาดแคลนหรือประสบภัยพิบัติ
“คีตะ” ทีมวิศวกรรมอวกาศจากประเทศไทย ที่เกิดจากการรวมตัวของสมาชิกหลากหลายหน่วยงานอาทิ SPACE ZAB, ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์, สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ และหน่วยงานอื่นๆ ได้ร่วมกันออกแบบระบบนิเวศขนาดเล็ก ที่นำของเสียภายในยานมาหมุนเวียน เพื่อปลูกพืชสำหรับเลี้ยงด้วงสาคู ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีโปรตีนสูง และทีมได้นำวัฒนธรรมการกินอาหารของไทยมาเป็นตัวชูผ่านเมนูที่แตกต่าง แปลกใหม่ และมีคุณค่าทางอาหาร นำไปผลิตเป็นอาหารสำหรับนักบินอวกาศในลักษณะของระบบวิศวกรรมขั้นสูงที่ทำงานร่วมกัน โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ได้อาหารที่มีความสดใหม่ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าอาหารบางประเภทที่ถูกส่งไปจากโลกเพื่อรับประทานในปัจจุบัน เช่นอาหารแห้ง และอาหารพร้อมทานที่ถูกรีดน้ำออกจนหมด
สามารถร่วมติดตามความคืบหน้าและร่วมให้กำลังใจทีมคีตะ ได้ที่ :
keeta.space
facebook.com/keetaspace
twitter.com/keetaspace
linkedin.com/company/keetaspace