SHORT CUT
จอมพลสฤษดิ์ ชีวิตลับเลี้ยงคนดังวงการบันเทิงและนางสาวไทย ของเจ้าของฉายาจอมพลผ้าขาวม้าแดงที่เป็นตำนานตลอดไป
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของประเทศ และเป็นหัวหน้า "คณะปฏิวัติ" ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในช่วงปี พ.ศ. 2502-2506 ภาพลักษณ์ภายนอกของท่านในช่วงเรืองอำนาจคือผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดขาด และมุ่งมั่นพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตาม ภายหลังถึงแก่อสัญกรรมในปี พ.ศ. 2506 เรื่องราวอีกด้านหนึ่งของชีวิตส่วนตัวของท่านได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน นั่นคือ การมีอนุภรรยาจำนวนมากถึง 81 คน และอาจจะเกือบ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากวงการบันเทิงและเวทีประกวดนางงามต่างๆ บทความนี้จะเจาะลึกถึงภาพลักษณ์ของจอมพลสฤษดิ์ในฐานะนักการเมืองที่เลี้ยงดูสตรีในวงการบันเทิงและนางสาวไทย โดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ในแหล่งข่าว
เมื่อกล่าวถึงจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ คนรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์กับสตรีมากมาย แต่ในยุคสมัยนั้น จอมพลสฤษดิ์ถูกกล่าวขานถึงอย่างมากในเรื่องนี้ จนได้รับฉายาอันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายว่า "จอมพลผ้าขาวม้าแดง" ที่มาของฉายานี้มาจากคำบอกเล่าของผู้หญิงและคนสนิทของท่าน ซึ่งให้ข้อมูลตรงกันว่า ก่อนที่จอมพลสฤษดิ์จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง มักจะใช้ผ้าขาวม้าแดงคาดเอว
จอมพลสฤษดิ์มิได้เพียงแต่มีอนุภรรยาจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังให้การดูแลและปรนเปรอสตรีเหล่านั้นอย่างดี ทรัพย์สมบัติของท่านมากมาย พอที่จะสร้างบ้านได้ทั่วกรุงเทพฯ แม้ว่าจะยังไม่ให้กรรมสิทธิ์จนกว่าจะมั่นใจในความซื่อสัตย์ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ นงคราญ โกลละสุต เด็กสาวจากสงขลาวัย 18 ปี ที่ได้รับตำแหน่งนางงามวชิราวุธานุสรณ์ปี 2504 (เทียบเท่านางสาวไทย) เมื่อได้เป็นอนุภรรยาของจอมพลสฤษดิ์แล้ว เธอได้รับ เงินสด 5 แสนบาท รถเบนซ์ ที่ดิน 150 ตารางวาพร้อมอาคาร แหวนเพชร 5 กะรัต สร้อยเพชร นาฬิกาฝังเพชร และเงินเดือนเดือนละ 3 พันบาท นอกจากนี้ บิดาของเธอซึ่งเป็นนายตำรวจ ก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและย้ายมาประจำที่กรุงเทพฯ
แหล่งข้อมูลชี้ให้เห็นว่าก่อนที่จะมีการคัดเลือก "คุณหนูๆ" ส่งตัวให้จอมพลสฤษดิ์ ลักษณะเด่นที่สำคัญคือ ต้องมีใบหน้าหวานสวย ขนตายาวงอนเด้ง หากใครสวยแต่ขนตาไม่ยาว ก็จะมีการหาขนตามาใส่ให้ยาว นอกจากนี้ สตรีเหล่านี้ยังได้รับการดูแลแต่งองค์ทรงเครื่องจากช่างเสริมสวยจำนวนมาก เพื่อให้สวยงามดูดีทุกครั้งก่อนเข้าพบจอมพลผ้าขาวม้า มีข้อมูลว่า "คุณหนูๆ" ของจอมพลสฤษดิ์มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่หญิงสาวบริสุทธิ์ไปจนถึงผู้ที่ผ่านการจัดหามา บรรดาหญิงงามที่เข้ามาเป็นอนุภรรยาล้วนแล้วแต่มีความสวยระดับนางงาม นางสาวไทย ดารา นักร้อง หรือแม้กระทั่งนักเรียนนาฏศิลป์
ชาวบ้านที่ทันยุคสมัยนั้นเล่าว่า จอมพลสฤษดิ์เคยซื้อบ้านให้อนุภรรยาที่เป็นนางงามถึง 3 คนในซอยเดียวกัน ทำให้สะดวกในการไปเยี่ยมเยียน มีการกล่าวถึงว่า เมื่อมีการประกวดนางงามต่างๆ ทั่วประเทศ จะมี "แมวมอง" ไปนำผู้ที่ได้รับตำแหน่งมาให้จอมพลสฤษดิ์ "เป่ากระหม่อม" รับขวัญด้วยบ้านและรถยนต์หรู นอกจากนี้ ท่านยังซื้อเพชรตั้งแต่สองกะรัตขึ้นไปเป็นจำนวนมากเพื่อมอบให้แก่สตรีเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม มิใช่สตรีทุกคนที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจอมพลสฤษดิ์ อมรา อัศวนนท์ อดีตนางงามและนักแสดงชื่อดัง ได้เล่าว่า เธอเคยได้รับการติดต่อจากจอมพลสฤษดิ์ให้เป็นอนุภรรยา แต่เธอได้ปฏิเสธไป เนื่องจากเธอมีคนรักอยู่แล้ว และมองว่าจอมพลสฤษดิ์มีอายุมากและรูปร่างหน้าตาไม่ตรงกับความชอบของเธอ เรื่องราวของเธอเป็นข่าวใหญ่โตในสมัยนั้น
ภายหลังการถึงแก่อสัญกรรมของจอมพลสฤษดิ์ในปี พ.ศ. 2506 ได้มีการเปิดเผยรายชื่อ อนุภรรยา 81 คน สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ซึ่งสร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ รายชื่อดังกล่าวมีทั้งนางงาม ดารา นักร้อง หญิงบริการ นักศึกษา และนักเรียน การเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ สวนทางกับภาพลักษณ์ของจอมพลสฤษดิ์ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ถูกสร้างให้เป็นผู้นำที่ทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน
เรื่องราวอื้อฉาวเกี่ยวกับการเลี้ยงดูสตรีจำนวนมากนำไปสู่การ แย่งชิงทรัพย์สมบัติมหาศาล ของจอมพลสฤษดิ์ ในที่สุด จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2502 สั่งยึดทรัพย์สินของจอมพลสฤษดิ์ เนื่องจากปรากฏว่าท่านได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เบียดบังและยักยอกทรัพย์สินของรัฐไปเป็นจำนวนมาก
ภาพลักษณ์ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในฐานะนักการเมืองที่ทรงอำนาจและเด็ดขาด ต้องเผชิญกับการเปิดเผยเรื่องราวชีวิตส่วนตัวภายหลังการเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการมีอนุภรรยาจำนวนมากจากวงการบันเทิงและเวทีนางงาม ซึ่งรวมถึงผู้ที่ได้รับการยกย่องเทียบเท่านางสาวไทย การเลี้ยงดูและให้ผลประโยชน์แก่สตรีเหล่านี้อย่างฟุ่มเฟือย รวมถึงฉายา "จอมพลผ้าขาวม้าแดง" ได้กลายเป็นอีกด้านหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ถูกจดจำเกี่ยวกับตัวท่าน เรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงค่านิยมและอำนาจในยุคสมัยนั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการรับรู้ภาพลักษณ์ของจอมพลสฤษดิ์ในฐานะผู้นำประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การแย่งชิงทรัพย์สมบัติและการถูกยึดทรัพย์ในที่สุด ตอกย้ำถึงความไม่โปร่งใสและชีวิตส่วนตัวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพลักษณ์ที่เคยถูกสร้างขึ้นในขณะที่ท่านยังมีอำนาจอยู่
อ้างอิง
Board / จอมพลผ้าขาวม้าแดง / สุดสัปดาห์ / จอมพลสฤษดิ์ / 101 /