จับตาศึกซักฟอกยกแรก วัดใจ “ขั้วรัฐบาล-ขั้วฝ่ายค้าน” จะเดินหน้าอย่างไร จะยอมแก้ไขญัตติ เอาชื่อ “ทักษิณ” ออก หรือจะยื่นญัตติใหม่ พ่วงชื่อ “รัฐมนตรี” รายอื่นเข้ามาด้วย
จากกรณีข้อพิพาทการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หรือ ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’ ภายหลังพรรคร่วมฝ่ายค้าน ใส่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะบิดา เพื่อซักฟอกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลูกสาว แต่เพียงผู้เดียว
โดยระบุเหตุผลว่า “นางสาวแพทองธารสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการ อันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”
หลังจากนั้น สส.เพื่อไทย หลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวไปในแนวทางเดียวกันว่า ไม่สมควร เพราะนายทักษิณไม่มีโอกาสชี้แจงในสภา พร้อมทั้งขู่ว่าหากมีการพาดพิงเกิดขึ้น ก็อาจจะมีการฟ้องร้องตามมา
ต่อมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือให้แก้ไขข้อบกพร่อง ด้วยการนำชื่อ "บุคคลภายนอก" ออกจากญัตติ
หลังจากนั้นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือโต้แย้งกลับ พร้อมแนบเอกสารการกล่าวถึงบุคคลภายนอกในสภาฯ ทั้งบริษัทเอกชน สถาบันการเงิน ประเทศเพื่อนบ้าน ข้าราชการ รวมถึงปัจเจกบุคคลต่างๆ
โดยมองว่า ประธานสภาฯ ควรตรวจสอบเฉพาะข้อบกพร่องเชิงรูปแบบ และข้อเท็จจริงเท่านั้น รวมถึงควรแจ้งให้แก้ไขภายในเวลาที่กำหนด หรือ 7 วัน
ดังนั้นการกระทำเช่นนี้คือ ‘ลุแก่อำนาจ’ หรือใช้อำนาจในทางปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ และตั้งข้อสังเกตว่า นี่ถือเป็น ‘การเล่นบทบาทการเป็นผู้คุ้มกันให้กับฝ่ายบริหาร’ แทนการถ่วงดุลตรวจสอบหรือไม่
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ให้ฝ่ายค้านตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ออกจากญัตติ เผยว่าได้คุยกับคุณพ่อแล้ว เขาไม่ว่าอะไรเลยเพียงแต่ถามเฉยๆ ว่าเข้าได้หรือเพราะไม่ได้อยู่ในสภาฯ หรือจะให้เขาไปสภาฯเป็นการถามเล่นๆ ไม่ได้มีอะไร พร้อมบอกด้วยว่าหรือจะให้ไปตอบในสภาฯหรืออย่างไร แต่ก็เข้าไม่ได้อยู่แล้ว
เอาข้อเท็จจริงอย่าใช้อารมณ์เลย หลักการ กฎ คืออะไรดีกว่า ถ้าเราไม่ทำตามกฎตามหลักการ ตั้งกฎตั้งหลักการไว้ทำไม ถ้าสมมติว่าหลักการมันเข้าได้ ได้เลย เราจะห้ามอย่างไร แต่ถ้าหลักการเข้าไม่ได้จะฝืนหลักการก็ไม่ได้
เมื่อถามว่า จะชี้แจงสาธารณชนว่านายทักษิณ ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหาร ท่านทักษิณ จะแถลงเพื่ออะไร แต่ถ้าเพื่อให้มีประเด็นอื่นต่อไป ไม่จำเป็น ท่านทักษิณ เป็นคุณพ่อของนายกฯ คนที่ 31 เท่านั้นเอง ไม่ได้เป็นนายกฯ ด้วย จะไปอภิปรายท่านหรือให้ท่านตั้งโต๊ะแถลง แต่ถ้าฮอลลีวูดชวนท่านไปเป็นดาราท่านแถลงได้
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนย้ำจะไม่นำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยขอร้องฝ่ายค้านว่า หากต้องการให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ ฝ่ายค้าน ก็ควรปรับแก้ญัตติ ซึ่งสมัยที่ตนทำงานกับพรรคก้าวไกล นายชวน หลีกภัย ขณะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำแนะนำให้แก้ไข ฝ่ายค้านก็ปรับ
แต่หากพรรคประชาชนไม่แก้ประชาชนก็จะสงสัย และตนก็สงสัยว่า ฝ่ายค้านมีข้อมูลเฉพาะนายทักษิณอย่างเดียวหรือไม่ ไม่มีข้อมูลอื่น ซึ่งหากไม่มีชื่อนายทักษิณ ก็จะอภิปรายไม่ได้หรือไม่ และทุกคนจะมองว่า พรรคประชาชนหาเรื่องล่มสภา ทำให้วาระไม่ถูกบรรจุ และโยนความผิดให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดี พรรคประชาชนต้องแก้ไข ซึ่งไม่ได้มีความเสียหายใด ๆ หากยอมแก้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุม และความเห็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถได้อภิปรายตามหน้าที่
ส่วนกรณีที่ผู้นำฝ่ายค้านกังวลหากไม่ระบุชื่อนายทักษิณลงญัตติ ก็จะเกิดการประท้วงระหว่างการอภิปรายนั้น นายสุทิน เห็นว่า เป็นเรื่องธรรมชาติในสภาฯ เพราะการอ้างถึงบุคคลภายนอก ถ้ามีพองามเป็นสีสัน ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมแนะนำในฐานะที่เคยอภิปรายมามากว่า การจะพูดถึงคนภายนอก ไม่ต้องเอ่ยชื่อประชาชนก็รู้หมด
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณที่ฝ่ายค้านย้ำจะไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนนอกว่า เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการใส่ชื่อบุคคลภายนอก ที่ไม่มีโอกาสเข้ามาตอบโต้ หรือชี้แจงในสภา และหากประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม ก็เป็นการประทับตราว่า สภาฯ สามารถอภิปรายถึงบุคคลภายนอกได้เลย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
การอภิปรายถึงบุคคลภายนอก โดยที่บุคคลนั้นไม่สามารถมาตอบโต้ได้ ก็ต้องดูตามเนื้อหาที่จะเอามาอภิปรายในสภาฯ ด้วย แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมอยู่แล้วในการมาชี้แจง หากประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุ พวกตนในฐานะที่เป็น สส.พร้อมอยู่แล้ว
จะต้องถามกลับไปยังพรรคฝ่ายค้าน และให้ประชาชนตั้งคำถามด้วยว่า สรุปแล้วการยื่นญัตติครั้งนี้หวังผลอะไร เพราะหากหวังจะให้ได้ผลดีกับประเทศ ในการปรับเปลี่ยนการทำงานของนายกรัฐมนตรีจริง หรือมีการเสนอแนะในการบริหารราชการแผ่นดิน พวกตนก็ไม่มีปัญหา แต่ประเด็นตอนนี้ตนเองค่อนข้างผิดหวัง เพราะหวังที่จะเห็นการเมืองใหม่ ๆ แต่สุดท้ายก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม นอกจาก อภิปรายเพื่อลดความน่าเชื่อถือของอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้เกิดผลทางการเมือง
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ เผยว่า ฝ่ายค้าน ยืนยันตามเดิม เป็นไปตามหลักการข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ที่ฝ่ายค้านบรรจุชื่อของบุคคลภายนอกในญัตติได้ ซึ่งก็ต้องมีการพูดคุยกับประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตกลงยืนยันข้อกฎหมายถูกต้อง หรือเป็นอำนาจที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร สามารถทำได้จริงหรือไม่ และคงต้องหาทางออกร่วมกันในเรื่องนี้
ท้ายที่สุดหากประธานผู้แทนราษฎรไม่ยอมบรรจุวาระ ฝ่ายค้านจะยอมแก้ไขญัตติหรือไม่นั้น ยืนยันว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านทำ ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ต้องรอดูว่าจะคลี่คลายแบบไหน
หลายคนมองเกม “ขั้วรัฐบาล” ย่อมดูออกว่า การเอาชื่อ “ทักษิณ” มาอยู่ในญัตติซักฟอก เพราะ “พรรคสีส้ม” คาดหวังจะลักไก่ เปิดทางให้อภิปรายบุคคลที่สามได้ หากยอมปล่อยผ่าน โอกาสจะเสียแต้มทางการเมืองมีสูง
จับตาศึกซักฟอกยกแรก วัดใจ “ขั้วรัฐบาล-ขั้วฝ่ายค้าน” จะเดินหน้าอย่างไร “พรรคประชาชน” จะยอมแก้ไขญัตติ เอาชื่อ “ทักษิณ” ออก หรือจะยื่นญัตติใหม่ พ่วงชื่อ “รัฐมนตรี” รายอื่นเข้ามาด้วย
หาก“พรรคประชาชน”ไม่ยอมถอยแก้ญัตติ โอกาสที่ “ขั้วรัฐบาล” จะยอมอ่อนข้อให้ มีน้อยมาก ทำให้โอกาส “ล้มศึกซักฟอก” หรือถูก“เลื่อนไทม์ไลน์” ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน