SHORT CUT
2 ทศวรรษไฟใต้ งบ 5 แสนล้าน ความรุนแรงเกือบหมื่นครั้ง กับอนาคตที่รอวันสันติ เพื่อพัฒนาสู่เมืองและพื้นที่ที่น่าอยู่สำหรับทุกคน
สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานกว่าสองทศวรรษ แม้รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหา แต่สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย บทความนี้จะวิเคราะห์สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ระเบิดแสวงเครื่อง รวมถึงงบประมาณที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่
การลอบวางระเบิดเป็นยุทธวิธีหลักที่ผู้ก่อความไม่สงบใช้มาตั้งแต่ปี 2547 ระเบิดส่วนใหญ่เป็นระเบิดแสวงเครื่อง (Homemade Bombs) ที่ประกอบขึ้นเองจากอุปกรณ์ที่มีในท้องถิ่น
ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2547 มีการก่อเหตุรุนแรงด้วยระเบิดแล้ว 5,484 ลูก จาก 4,369 เหตุการณ์ ปีที่เกิดเหตุระเบิดมากที่สุดคือปี 2550 จำนวน 468 เหตุการณ์
จังหวัดนราธิวาสเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุระเบิดมากที่สุด ยกเว้นปี 2558 ที่จังหวัดยะลามีเหตุระเบิดมากกว่า สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะนราธิวาสเป็นจังหวัดใหญ่ที่สุดใน 3 จังหวัด
ในปี 2567 มีการใช้ระเบิดที่บรรจุในถังแก๊สถึง 58 ลูก ซึ่งมากกว่าการใช้ท่อเหล็ก การใช้ระเบิดถังแก๊สสะท้อนถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ เนื่องจากมีขนาดใหญ่และมีอานุภาพทำลายล้างสูงกว่า
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 เกิดเหตุระเบิดที่ด่านตรวจในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 6 นาย และเด็กสามขวบโดนลูกหลง 1 คน คนร้ายซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ในกล่องใส่แบตเตอรี่บนป้ายไฟ “หยุดตรวจ” เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับวาระ 21 ปีเหตุการณ์ปล้นปืนจากค่ายทหารในอำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 ซึ่งถือเป็น "ปฐมบท" ของไฟใต้รอบปัจจุบัน
ในช่วง 22 ปีงบประมาณ (2547-2568) มีการใช้จ่ายงบประมาณดับไฟใต้ไปแล้ว 510,365 ล้านบาท ปีงบประมาณที่ใช้งบมากที่สุดคือปี 2559 จำนวน 30,512.80 ล้านบาท ในสมัยรัฐบาล คสช.
รัฐบาล คสช. จัดหมวดหมู่งบดับไฟใต้ใหม่ เรียกว่า "แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้" เริ่มในปีงบประมาณ 2560 อย่างไรก็ตาม มีการตรวจสอบพบว่า งบประมาณดับไฟใต้ถูกซุกซ่อนอยู่ใน "แผนงานอื่น" ด้วย
งบประมาณส่วนหนึ่งถูกใช้เป็น "งบเยียวยา" เพื่อชดเชยเหยื่อไฟใต้ ข้อมูลถึงวันที่ 3 มกราคม 2568 มีการจ่ายเยียวยาไปแล้ว 4,468.8 ล้านบาท
มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 5,936 ราย (ประชาชน 3,644 ราย และเจ้าหน้าที่รัฐ 2,292 ราย)
มีผู้บาดเจ็บ 13,129 ราย (ประชาชน 6,442 ราย และเจ้าหน้าที่รัฐ 6,687 ราย)
มีผู้พิการทุพพลภาพ 903 ราย (ประชาชน 465 ราย และเจ้าหน้าที่ 438 ราย)
มีการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือด้านชีวิตและร่างกายมากที่สุด (3,411.9 ล้านบาท) ส่วนที่เหลือ (1,056.8 ล้านบาท) เป็นค่าชดเชยทรัพย์สินที่เสียหาย
ภาพรวมความรุนแรงเกิดขึ้น 9,948 ครั้ง มีผู้ได้รับผลกระทบรวม 19,968 ราย
สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและท้าทาย แม้รัฐบาลจะทุ่มงบประมาณจำนวนมาก แต่ความรุนแรงก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยความเข้าใจในบริบทของพื้นที่ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการแสวงหาแนวทางที่ยั่งยืนเพื่อสร้างสันติสุขอย่างแท้จริง
อ้างอิง