svasdssvasds

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

พัฒนาการประกันสังคม จากบิสมาร์ค ถึงจอมพล ป. สู่วันที่ประชาชนเรียกร้องหาความโปร่งใส แถมมีข้อครหาเรื่องการทำงานที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน

SHORT CUT

  • กองทุนประกันสังคมมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค บิสมาร์ค และ จอมพล ป.พิบูลสงคราม
  • กองทุนประกันสังคมก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตของลูกจ้างและแรงงานไทย โดยมีหลักการ "การเฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข" ซึ่งลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาลร่วมกันจ่ายเงินเข้ากองทุน
  • แต่กระนั้นกองทุนประกันสังคมกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านความยั่งยืนทางการเงินในอนาคต หากไม่มีการปรับปรุงแก้ไข กองทุนอาจมีเงินไม่เพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิประโยชน์ด้านชราภาพ

พัฒนาการประกันสังคม จากบิสมาร์ค ถึงจอมพล ป. สู่วันที่ประชาชนเรียกร้องหาความโปร่งใส แถมมีข้อครหาเรื่องการทำงานที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน

ระบบประกันสังคมเป็นกลไกสำคัญในการสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคม ระบบประกันสังคมช่วยลดความเสี่ยงและแบ่งเบาภาระที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การเจ็บป่วย การว่างงาน หรือการเกษียณอายุ

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

SPRiNG พาไปค้นหาเรื่องราวการกำเนิดของประกันสังคมทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย พัฒนาการของระบบประกันสังคมไทย รวมถึงปัญหาและความท้าทายที่ระบบกำลังเผชิญ และแนวทางแก้ไขเพื่อสร้างความยั่งยืนและความเป็นธรรมแก่ผู้ประกันตน

จุดเริ่มต้นของประกันสังคมในต่างประเทศ

แนวคิดเรื่องการประกันสังคมมีรากฐานมาจากการ ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสังคม ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่แรงงานต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ นำไปสู่การเรียกร้องให้มีหลักประกันทางสังคมที่เป็นระบบ

ประเทศเยอรมนีถือเป็นประเทศแรกที่นำระบบประกันสังคมมาใช้ อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1883 ในสมัยของ อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค นายกรัฐมนตรีเหล็กและรัฐบุรุษของเยอรมนี

แนวคิดของบิสมาร์คคือการสร้างระบบที่รัฐมีบทบาทในการดูแลและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ในด้านสุขภาพและการทำงาน

ระบบประกันสังคมของเยอรมนีในยุคแรกครอบคลุม การประกันสุขภาพ การประกันอุบัติเหตุ และการประกันชราภาพ

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

ความสำเร็จของระบบประกันสังคมในเยอรมนีได้ เป็นต้นแบบให้แก่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปและทั่วโลก ในการพัฒนาระบบประกันสังคมของตนเอง

ปัจจุบัน ระบบประกันสังคมได้ มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละประเทศ

จุดเริ่มต้นของประกันสังคมในประเทศไทย

ขณะที่ประเทศไทยนั้นแนวคิดเรื่องประกันสังคมในประเทศไทย เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 หรือ ค.ศ. 1952 ช้ากว่าเยอรมนี 69 ปี ในสมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม

รัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายที่จะให้ประชาชนมี หลักประกันที่มั่นคงทางสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน

ได้มีการตราพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นกฎหมายประกันสังคมฉบับแรกของประเทศไทย

มีการจัดตั้ง "กรมประกันสังคม" ขึ้นในกระทรวงการคลัง เพื่อ ดำเนินการตามกฎหมายประกันสังคม

กฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 2497 ครอบคลุมการประกัน 6 ประเภท ได้แก่ การคลอดบุตร การสงเคราะห์บุตร การเจ็บป่วย การพิการและทุพพลภาพ การชราภาพ และการฌาปนกิจ

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

อย่างไรก็ตาม กฎหมายประกันสังคมฉบับนี้ไม่ได้รับการบังคับใช้ เนื่องจากมีการขัดขวางจากหลายฝ่าย ทำให้การผลักดันระบบประกันสังคมต้องหยุดชะงักไป

ต่อมาในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ได้มีการ รื้อฟื้นแนวคิดประกันสังคม และผลักดันจนกระทั่งมีการออกพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

มีการจัดตั้ง "สำนักงานประกันสังคม" ขึ้น สังกัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (ปัจจุบันคือกระทรวงแรงงาน) เพื่อ ทำหน้าที่บริหารจัดการระบบประกันสังคม

พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ถือเป็น จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการวางรากฐานระบบประกันสังคม ในประเทศไทย

พัฒนาการของประกันสังคมไทย

พ.ศ. 2533: เริ่มจัดเก็บเงินสมทบจากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาลในอัตราร้อยละ 4.5 ของค่าจ้าง

พ.ศ. 2537: ขยายความคุ้มครองไปยังสถานพยาบาลของรัฐ

พ.ศ. 2541: ขยายความคุ้มครองไปยังผู้ประกันตนที่ออกจากงาน (มาตรา 39)

พ.ศ. 2542: เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ (บำเหน็จ บำนาญ)

พ.ศ. 2558: ขยายความคุ้มครองไปยังแรงงานนอกระบบ (มาตรา 40)

ปัจจุบัน: ผู้ประกันตนมี 3 รูปแบบ ได้แก่

มาตรา 33: ลูกจ้างในสถานประกอบการ

มาตรา 39: ผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และสมัครใจ

มาตรา 40: แรงงานนอกระบบ

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

ปัญหาและความท้าทายของประกันสังคมไทย

แม้ว่าระบบประกันสังคมไทยจะมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายหลายประการ

ความเสี่ยงด้านโครงสร้างประชากร: ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ทำให้อัตราส่วนของประชากรวัยทำงานต่อผู้สูงอายุลดลง ส่งผลให้มีผู้จ่ายเงินสมทบลดลง ในขณะที่มีผู้รับเงินสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น

ความเสี่ยงด้านการเงิน: รายจ่ายด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและเงินบำนาญชราภาพ ทำให้กองทุนมีความเสี่ยงที่จะมีเงินไม่เพียงพอในอนาคต

ความเสี่ยงด้านการลงทุน: การบริหารจัดการเงินกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงิน

ความท้าทายด้านการบริหารจัดการ: การบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผู้ประกันตนเกิดความเชื่อมั่น

งานวิจัยหลายชิ้น ชี้ให้เห็นว่าหากไม่มีการปรับปรุงแก้ไข กองทุนประกันสังคมอาจมีเงินไม่เพียงพอจ่ายสิทธิประโยชน์ในอนาคต

เช่น งานศึกษาของวีณา (2541) พบว่ากองทุนชราภาพจะเริ่มใช้เงินสะสมในปี 2579 และเงินกองทุนจะหมดลงในปี 2586

งานศึกษาของเอื้อมพร (2554) และ เพ็ญศรี (2558) พบว่าเงินกองทุนจะหมดลงในปี 2582 และ 2586 ตามลำดับ

เปิดประวัติ ประกันสังคม จาก บิสมาร์ค ถึงจอมพล ป.

ปัญหาความไม่เพียงพอของเงินกองทุน มีสาเหตุจากหลายปัจจัย

เพดานค่าจ้างในการจ่ายเงินสมทบไม่ได้ถูกปรับมาเป็นเวลานาน: เพดานค่าจ้าง 15,000 บาทต่อเดือน กำหนดตั้งแต่ปี 2533

อัตราเงินสมทบที่จัดเก็บอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป: อัตราเงินสมทบรวม 3 ฝ่าย (ลูกจ้าง นายจ้าง รัฐบาล) อยู่ที่ร้อยละ 12.5 ของเงินเดือน ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินสมทบต้นทุน

อายุผู้มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพต่ำเกินไป: กำหนดให้ผู้ประกันตนมีสิทธิขอรับเงินบำนาญได้ตั้งแต่อายุ 55 ปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้น

แนวทางแก้ไขปัญหาและความท้าทาย

เพื่อแก้ไขปัญหาและความท้าทายต่างๆ ที่กองทุนประกันสังคมกำลังเผชิญ นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขหลายประการ

การปรับโครงสร้างกองทุน: เป็นแนวทางที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

การปรับเพดานค่าจ้าง: ยกเลิกเพดานค่าจ้างสูงสุดและปล่อยให้เพดานค่าจ้างปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ต่อปี

การปรับอัตราเงินสมทบ: ปรับอัตราเงินสมทบแบบขั้นบันได โดยทยอยเพิ่มอัตราเงินสมทบในแต่ละช่วงเวลา

การขยายอายุเกษียณ: ขยายอายุผู้มีสิทธิรับบำนาญ โดยค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นทีละน้อย

การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุน

การลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย: กระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น

การบริหารจัดการต้นทุน: ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

การสร้างความโปร่งใส: เปิดเผยข้อมูลและผลการดำเนินงานของกองทุนให้สาธารณชนได้รับทราบ

การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบ

การแก้ไขกฎหมายประกันสังคม: ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

การออกระเบียบที่ชัดเจน: กำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างความเข้าใจและความร่วมมือ

การให้ความรู้แก่ผู้ประกันตน: สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ประกันตน

การสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน: สร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ

การประเมินความมั่นคงของกองทุนอย่างสม่ำเสมอ: กำหนดให้มีการประเมินความมั่นคงของเงินกองทุนโดยยึดหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย

ระบบประกันสังคมเป็น กลไกสำคัญในการสร้างหลักประกันและความมั่นคง ในชีวิตของประชาชน ประเทศไทยได้พัฒนาระบบประกันสังคมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 จนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ระบบประกันสังคมไทยกำลังเผชิญกับ ความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านโครงสร้างประชากรและการเงิน

การแก้ไขปัญหาและความท้าทายเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการปรับปรุงโครงสร้างกองทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับผู้ประกันตน การดำเนินการอย่างทันท่วงทีและเหมาะสมจะช่วยให้ระบบประกันสังคมไทย มีความยั่งยืนและสามารถเป็นหลักประกัน ให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง

การ ปรับปรุงระบบประกันสังคม ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้ระบบประกันสังคมสามารถ ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และเป็น หลักประกันที่มั่นคง สำหรับอนาคตของสังคมไทย

อ้างอิง

ThaiPublica / วิวัฒนาการประกันสังคม / SSO /

related