SHORT CUT
กาสิโนถูกกฎหมาย โอกาสทางเศรษฐกิจ หรือหายนะทางสังคม? การศึกษาแนวทางที่ดีและข้อผิดพลาดของเพื่อนบ้านคือทางออกของไทย
การพนันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน แม้รัฐไทยจะออกกฎหมายสั่งห้ามการเล่นพนันหลายประเภท แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงวนเวียนอยู่ในวงจรพนันผิดกฎหมาย รัฐบาลหลายชุดจึงมีแนวคิดผลักดันให้ "สถานบันเทิงครบวงจร" (Entertainment Complex) ที่มีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย โดยหวังว่าจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างรายได้ให้ประเทศ และควบคุมการพนันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยมีข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการมีกาสิโน
ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ: โดยกาสิโนถูกกฎหมายช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ประเทศ และสร้างงาน รัฐบาลไทยชี้ไปที่ความสำเร็จของสิงคโปร์ ซึ่งมีรายงานว่าสถานบันเทิงครบวงจรสามารถดึงดูดการลงทุนได้กว่า 3 แสนล้านบาท และสร้างรายได้ภาษีประจำปีอย่างน้อย 2 หมื่นล้านบาทในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
ควบคุมการพนัน: การนำกาสิโนขึ้นมาบนดิน ช่วยให้รัฐสามารถควบคุมธุรกิจการพนันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการทุจริต และลดปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับบ่อนพนันผิดกฎหมาย
รายได้จากภาษี: รัฐสามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รายได้เหล่านี้สามารถนำไปพัฒนาประเทศ และสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อสังคม
สร้างงาน: ธุรกิจกาสิโนสร้างงานให้กับประชาชนจำนวนมาก ทั้งในสถานที่ดังกล่าวโดยตรง และในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาคบริการ และอาหารการกิน
ถึงแม้กาสิโนจะมีข้อดีแต่ก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน โดยข้อมูลระบุว่ามีข้อเสียดังต่อไปนี้
ผลกระทบทางสังคม: กาสิโนถูกกฎหมายอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมมากมาย เช่น การติดการพนัน หนี้สินครัวเรือน ปัญหาครอบครัว อาชญากรรม และการฆ่าตัวตาย
ทุนสีเทา: นักวิชาการบางส่วนแสดงความกังวลว่าทุนในอุตสาหกรรมการพนันส่วนใหญ่เป็นทุนสีเทา ที่ไม่โปร่งใส ซึ่งรัฐบาลอาจควบคุมได้ยาก
ปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย: แม้จะมีกฎหมายควบคุม แต่ในหลายประเทศก็ยังพบว่าประชาชนในประเทศเป็นกลุ่มที่เข้าไปเล่นในกาสิโนเป็นส่วนใหญ่
การพึ่งพารายได้จากกาสิโน: การพึ่งพารายได้จากกาสิโนมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
ความไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของประเทศ: การเปิดกาสิโนถูกกฎหมายอาจขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเมืองพุทธ
วิธีการจัดการและควบคุมกาสิโนในต่างประเทศ
จากการศึกษาประสบการณ์ของประเทศต่างๆ ที่เปิดให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย พบว่าแต่ละประเทศได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบแตกต่างกันไป รวมถึงมีมาตรการควบคุมและจัดการที่แตกต่างกัน
ผลกระทบเชิงบวก
กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว: สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างรายได้ และการจ้างงานจากธุรกิจกาสิโน
ควบคุมการพนันผิดกฎหมาย: การเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ช่วยควบคุมธุรกิจการพนัน ป้องกันการทุจริต และลดปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับบ่อนพนันผิดกฎหมาย
ผลกระทบเชิงลบ
ปัญหาการติดการพนัน: แม้จะมีมาตรการควบคุม แต่สิงคโปร์ก็ยังประสบปัญหาการติดการพนันในประชากรบางกลุ่ม
แนวทางการควบคุม
จำกัดพื้นที่: อนุญาตให้มีกาสิโนได้เพียง 2 แห่งเท่านั้น นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมุ่งเน้นการพัฒนา Entertainment Complex ให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยจำกัดพื้นที่คาสิโนไม่ให้เกิน 5% ของพื้นที่ทั้งหมด และเน้นการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น สวนสนุก โรงแรม ศูนย์ประชุม และแหล่งช้อปปิ้ง
กำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับประชาชน: ชาวสิงคโปร์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเข้าคาสิโนสิงคโปร์เก็บค่าเข้ากาสิโนอยู่ที่ 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 3,800 บาท (ขณะที่ไทยคาดว่าจะเก็บค่าเข้าใช้บริการ 5,000 บาท) ในขณะที่ชาวต่างชาติเข้าฟรี
มาตรการป้องกันการติดการพนัน: สิงคโปร์มีหน่วยงาน National Council on Problem Gambling (NCPG) ที่ทำหน้าที่ให้ความรู้ ปลูกฝังทัศนคติที่แข็งแรงต่อการพนัน และให้ความช่วยเหลือผู้ติดการพนัน
จำกัดการโฆษณา: อนุญาตให้โฆษณาได้เฉพาะในสนามบิน ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว และเว็บไซต์ของกาสิโน
ระบบการยกเว้นตนเอง: ประชาชนสามารถขอให้ห้ามตนเองจากการเข้ากาสิโนได้
ผลกระทบเชิงบวก
รายได้มหาศาล: มีข้อมูลระบุว่ามาเก๊าได้รับรายได้จากกาสิโนมากที่สุดในโลก แซงหน้าลาสเวกัส
ผลกระทบเชิงลบ
ปัญหาสังคม: มาเก๊าเผชิญปัญหาสังคมจากการพนัน เช่น การติดการพนัน อาชญากรรม และการฟอกเงิน
แนวทางการควบคุม
กำหนดมาตรฐานและระเบียบข้อบังคับ: รัฐบาลมาเก๊าพยายามยกระดับมาตรฐานและควบคุมอุตสาหกรรมกาสิโนให้เข้มงวดขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางสังคม โดยรัฐบาลมาเก๊าเก็บภาษีกาสิโนต่างๆ คิดเป็น 40% ของรายได้จากการเล่นพนัน ซึ่งรวมถึงภาษีโดยตรง 35% และเงินบริจาค 5% สำหรับวัตถุประสงค์ด้านสังคมและสวัสดิการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเติบโตในอุตสาหกรรมการพนันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ผลกระทบเชิงลบ
คนในประเทศเข้าเล่นเป็นส่วนใหญ่: แม้จะมีกฎหมายห้าม แต่ประชาชนชาวลาวเป็นกลุ่มหลักถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ที่เข้าไปเล่นในกาสิโน
แนวทางการควบคุม
โดยรัฐบาลลาวมีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด
ผลกระทบเชิงลบ
คนในประเทศเข้าเล่นเป็นส่วนใหญ่: แม้จะมีกฎหมายห้าม แต่ประชาชนชาวกัมพูชาเป็นกลุ่มหลักที่เข้าไปเล่นในกาสิโน
แนวทางการควบคุม
โดยรัฐบาลกัมพูชามีวิธีการเช่นเดียวกับรัฐบาลลาว มีกฎหมายห้ามไม่ให้คนลาวเข้าเล่นการพนันในกาสิโนเด็ดขาด
ข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจและ ผศ.ดร. ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เสนอแนะว่า ประเทศไทยควรศึกษาบทเรียนจากทั้งข้อดีและข้อเสียของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบการจัดการและควบคุมคาสิโนที่เข้มงวด และประสบความสำเร็จในการลดผลกระทบทางสังคม
จัดทำประชามติ: เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง
ศึกษาผลกระทบอย่างละเอียดรอบคอบ: ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม
กำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคมที่ครอบคลุม: โดยเฉพาะปัญหาการติดการพนัน การฟอกเงิน และอาชญากรรม
จำกัดพื้นที่และจำนวนคาสิโน: อย่างเข้มงวด
กำหนดมาตรฐานและระเบียบข้อบังคับ: สำหรับผู้ประกอบการอย่างเข้มงวด
กำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับประชาชน: เพื่อจำกัดการเข้าถึงของคนในประเทศ
ควบคุมการโฆษณา: อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงของกลุ่มเสี่ยง
จัดตั้งหน่วยงานอิสระ: เพื่อกำกับดูแล ควบคุม และประเมินผลกระทบของกาสิโน
สร้างความร่วมมือกับภาคประชาสังคม: เพื่อให้มีส่วนร่วมในการกำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินงานของกาสิโน
จะเห็นได้ว่าการเปิดคาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ รัฐบาลควรพิจารณาอย่างรอบคอบ รัดกุม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
อ้างอิง
Thaipublica / ประชาไท / Eureporter / กาสิโน / ฐานเศรษฐกิจ 1 / ออนไลน์ / อิสรา / วิโรจน์ เลิศจิตต์ธรรม / ดร. ธีรกานต์ โพธิ์แก้ว / ฐานเศรษฐกิจ 2 /