'มาดามเดียร์' ซัดร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แตกต่างจากที่เสนอไว้ตอนแรก เตือนรายได้ภาษีที่รัฐบาลคิดว่าจะได้เพิ่ม อาจเป็นแค่ภาพลวงตา
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ หลังเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน และปรับปรุงแก้ไขร่างพ.ร.บ.ตามความคิดเห็นจากการรับฟังความเห็นจากประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลหวังให้โครงการนี้เป็นโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ โดยขั้นตอนต่อไปร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ล่าสุด น.ส.วทันยา บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เดียร์ วทันยา บุนนาค แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยระบุว่า
เดียร์มีข้อกังวลพอสมควรสำหรับร่างกฎหมายฉบับล่าสุด หากหวังแค่ออกกฎหมายเพื่อเปิดทางให้มีกาสิโน แต่ไม่เร่งบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการพนันใต้ดินให้สิ้นซาก สุดท้ายก็อาจกลายเป็นว่า “ที่อยู่ใต้ดินก็ไม่ขึ้นมา ขณะที่บนดินก็เก็บภาษีไม่ได้ และกฎหมายเอาผิดไม่ได้อีกด้วย” รายได้ภาษีที่รัฐบาลคิดว่าจะได้เพิ่มก็อาจเป็นแค่ภาพลวงตา
แท้จริงแล้วเป็นคนละเรื่องกัน และในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการยกธุรกรรมใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน จะต้องทำการปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายไปพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นว่า “ที่อยู่ใต้ดินก็ไม่ขึ้นมา ในขณะที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้อีกต่อไป” รายได้ภาษีที่รัฐบาลคาดว่าจะเก็บได้ก็ไม่สามารถเก็บได้ตามที่คิด ในขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่สามารถเป็นเสาหลักให้สังคมได้
ควรชัดเจนว่า เราต้องการเปิดกาสิโน “เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว” หรือ “เพื่อสกัดการพนันผิดกฎหมาย” หากต้องการทำทั้งสองอย่าง รัฐบาลควรแยกแผนงานให้เป็นระบบ โดยเฉพาะแผน บังคับใช้กฎหมาย สำหรับบ่อนเถื่อนและพนันออนไลน์ รวมถึงมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้คนไทยเข้าไปติดหนี้ก้อนโต
2.1 อำนาจการกำหนดพื้นที่กาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์เป็นของคณะกรรมการ ไม่มีการกำหนดพื้นที่เป็นกรอบนโยบายไว้ใน ร่าง พ.ร.บ.เลย ซึ่งควรจะมีสัดส่วนกำหนดว่าเป็นกาสิโนเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นกฎหมายกาสิโนอย่างเดียวที่พูดถึงแค่การตั้งกาสิโน ทั้งๆ ที่ส่วนที่จะทำรายได้ให้ประเทศคือพื้นที่ส่วนเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ กาสิโนเป็นเพียงจุดดึงดูด
2.2 หากรัฐบาลอ้างอิง พ.ร.บ.กาสิโนของสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ แนวทางของประเทศอื่นๆ จะกีดกันคนในประเทศตัวเองไม่ให้เข้าไปเล่นได้ง่าย โดยการตั้งกำแพงค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่ในร่าง พ.ร.บ. กลับให้อำนาจทั้งหมดในการกำหนดค่าธรรมเนียมกับคณะกรรมการ โดยไม่มีการกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ มีแต่กำหนดเพดานค่าธรรมเนียมไว้
2.3 กระบวนการเยียวยา หรือการรับเรื่องร้องทุกข์ ผลกระทบจากการดำเนินการกาสิโนไม่ชัดเจน ในขณะที่หลายประเทศจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าร้องเรียน หรือกระทั่งยื่นชื่อของบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อกีดกันไม่ให้เข้าสถานดำเนินการได้ แต่ใน พ.ร.บ. กลับไม่มีการระบุถึงนโยบายในส่วนนี้เลย
ในบางประเทศ ประชาชนสามารถร้องเรียนความเสียหายที่เกิดจากกาสิโนได้ ทั้งยังมีระบบ “Self-Exclusion” หรือ “Third-Party Exclusion” เพื่อห้ามคนบางกลุ่มที่มีปัญหาสังคมหรือปัญหาหนี้สินเข้าถึงกาสิโน แต่ในร่าง พ.ร.บ. ของไทย ขาดแนวทางและข้อกำหนดชัดเจนในส่วนนี้ ซึ่งอาจทำให้คนที่มีปัญหาจากการติดพนันไม่มีหน่วยงานรองรับ
2.4 อำนาจการพิจารณาผู้รับใบอนุญาต การต่อใบอนุญาต การยกเลิกใบอนุญาตทั้งหมดเป็นของคณะกรรมการนโยบาย
ถึงแม้จะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 6 ตำแหน่ง แต่อำนาจการแต่งตั้งและปลดผู้ทรงคุณวุฒิเป็นของนายกรัฐมนตรี ควรทบทวนและเปลี่ยนให้สัดส่วนเป็นภาคประชาชนมากขึ้น และให้ผู้ทรงคุณวุฒิมาจากกระบวนการคัดเลือกที่ไม่เกี่ยวกับภาคการเมืองเพื่อป้องกันการแทรกแซงผลประโยชน์ทางการเมือง
สุดท้ายหวังให้ กระบวนการขั้นตอนทางรัฐสภาได้เอาข้อเสนอนี้ไปทบทวนต่อเพื่อให้ร่างกฎหมายนี้มีความรัดกุมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากขึ้น
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ได้แก่ กำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท
โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี
ทั้งนี้ได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
ที่มา : Facebook เดียร์ วทันยา บุนนาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง