เมื่อไม่กี่วันมานี้ เกิดเหตุการณ์ประท้วงด้วยท่า ‘ฮากา (Haka)’ ในรัฐสภานิวซีแลนด์จนกลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก หลัง ส.ส.ฝ่ายค้านได้ร่วมกันทำฮากาเพื่อต่อต้านกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล เพราะเกรงว่าจะนำไปสู่การตัดสิทธิของชาวเมารีในประเทศ
เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากความพยายามของกลุ่มขวาในซีกรัฐบาลที่ต้องการจะแก้สนธิสัญญาไวตังกิ (Treaty of Waitangi) โดยให้เหตุผลว่าสนธิสัญญาดังกล่าวนำไปสู่ความไม่เท่าเทียม และการแบ่งแยกในสังคม เพราะมอบสิทธิพิเศษบางประการแก่ชาวเมารี
ในที่ประชุมสภานิวซีแลนด์วันนั้น ฮานา-ราวิติ ไมปี-คลาร์ก ส.ส.ฝ่ายค้านเชื้อสายเมารี ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายด้วยการฉีกเอกสาร และลุกขึ้นทำฮากา ก่อนที่สมาชิกฝ่ายค้านและประชาชนที่เข้ามาดูการประชุมจะเริ่มทำตาม โดยหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เจอร์รี บราวน์ลี ประธานรัฐสภานิวซีแลนด์ได้สั่งยุติการประชุมเป็นเวลาชั่วคราว
นอกจากการต่อต้านในสภา มีรายงานว่านอกสภาเองก็มีกลุ่มประชาชนชาวนิวซีแลนด์หลายพันคนในชื่อ hīkoi เดินเท้าจากเกาะตอนเหนือมุ่งหน้าสู่รัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว
สำหรับสนธิสัญญาไวตังกิได้รับการยอมรับว่าเป็นเอกสารสร้างชาติของนิวซีแลนด์ โดยมันร่างขึ้นครั้งแรกในปี 1840 เพื่อรับรองว่าชาวเมารีจะได้รับสิทธิทางกฎหมาย และนโยบายที่คำนึงถึงผลกระทบจากการตกเป็นอาณานิคมของชาวเมารี
กลุ่มชาติพันธุ์เมารีคิดเป็น 20% ของประชากรนิวซีแลนด์ทั้งประเทศ โดยพวกเขายังคบประสบปัญหาด้านสาธารณสุข, อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความไม่เท่าเทียมทางกฎหมาย
สำหรับ ฮานา-ราวิติ ไมปี-คลาร์ก เป็น ส.ส.อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกในรอบ 170 ปีของรัฐสภานิวซีแลนด์ เธอเป็นชาวเมารีโดยกำเนิด และเป็น ‘คาอีเทียคี’ หรือผู้พิทักษ์พื้นแผ่นดินและภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษชาวเมารี เธอยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับการใช้ปฏิทินของชาวเมารีเพื่อรักษาสุขภาพอีกด้วย
ฮากาเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวเมารี โดยรากศัพท์มาจากคำว่า ‘HA’ แปลว่าลมหายใจ และ ‘KA’ ที่แปลว่าจุดประกายหรือเติมพลัง ถึงแม้ท่วงท่าของฮากาจะน่าเกรงขาม มีการทุบอก แลบลิ้น และใช้เสียงดัง แต่อันที่จริง ฮากาไม่ใช่การเต้นรำเพื่อข่มขวัญหรือสร้างความยำเกรง แต่เป็นท่วงท่าสำหรับการต้อนรับแขกต่างหาก