svasdssvasds

สรุปดราม่า นายกฯ ก้มหน้าอ่านไอแพด ตอกกลับคนวิจารณ์ ขายหน้าหรือมืออาชีพ?

สรุปดราม่า นายกฯ ก้มหน้าอ่านไอแพด ตอกกลับคนวิจารณ์ ขายหน้าหรือมืออาชีพ?

ดราม่า! หลังปรากฏภาพ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก้มหน้าก้มตาอ่านสคริปต์ บนไอแพด ระหว่างเจรจากับผู้นำต่างประเทศในการประชุม ACD Summit ครั้งที่ 3 ฝั่งนายกฯ ขอคนวิจารณ์ เปิดใจกว้าง-ลดอคติ

จากกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ ACD Summit ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์  ซึ่งเป็นการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศครั้งแรก โดยระหว่างระหว่างการหารือ นายกรัฐมนตรีนำไอแพดขึ้นมาอ่าน โดยนายกรัฐมนตรีก้มหน้าอ่านข้อความที่ใช้สื่อสารกับนายมัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างในโลกโซเชียลโดยตั้งประเด็นถึงความเหมาะสม และลามไปถึงภาวะความเป็นผู้นำ

ต่อมาวันที่ น.ส.แพทองธาร ได้โพสต์ภาพในไอจีสตอรี “ingshin21” พร้อมแชร์รูปภาพผู้ใช้ X รายหนึ่งทวีตภาพนายกฯก้มหน้าอ่านไอแพดและข้อความว่า “อย่างน้อยศึกษาข้อมูลให้มีในสมองบ้างครับ ก้มหน้าอ่านจากไอแพด มันดูน่าขายขี้หน้าประเทศ ประยุทธ์ว่าแย่แล้ว คนนี้แย่พอหรือแย่กว่าด้วย”

โดย น.ส.แพทองธาร เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ รบกวนดูข่าว ข้อมูลเยอะๆนะคะ เวลาประชุมแบบนี้ทั่วโลกเขาอ่านกันค่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องบันทึก อ่านทุกคน ตั้งแต่ Sheikh ถึง Minister เลยค่ะ ลองหาข้อมูลเพิ่มดู ถ้าเป็นทวิภาคีส่วนใหญ่จะจดหัวข้อไป แล้วพูดกันแบบไม่ต้องอ่าน จะเกิดการสร้าง Connection (การเชื่อมต่อ) ที่ดี ดูแค่หัวข้อให้ครบถ้วน ไม่มีใครแย่กว่าใครหรอก ทุกคนมีความสามารถกันคนละด้านค่ะ เปิดใจกว้างๆ ลองให้โอกาสตัวเอง ลดอคติลงจะมีความสุขขึ้นค่ะ”

ชี้แจงนิดหน่อยละกันเนาะ คือตอนก่อนไป ก็เตรียมตัวค่ะ ว่าต้องอ่าน หรือต้องเป็นรูปแบบไหน คนอื่นเค้าทำยังไงกันไม่ใช่ไปเฉยๆ ไม่ทำการบ้านค่า งานระดับประเทศ จะไปแหวกแนวคนอื่นเค้า ก็คงไม่ใช่”
 

โฆษก กต. ชี้นายกฯ อ่านไอแพด ระหว่างหารือ เป็นเรื่องปกติ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการไม่ใช้ล่ามแปลภาษาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีอิหร่าน ในห้วงการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือ ACD Summit ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ว่า ตามปกติในการหารือทวิภาคี ระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย จะตกลงกันก่อนในเรื่องภาษาและการใช้ล่ามล่วงหน้า แต่ด้วยการหารือในครั้งนี้มีเวลาอันจำกัด และนายกรัฐมนตรีสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงได้ตกลงกันว่าจะใช้ล่ามภาษาอังกฤษแต่เพียงฝ่ายเดียว

ส่วนกรณีที่นายกฯ นำไอแพดขึ้นมาอ่าน ระหว่างการหารือนั้น นายนิกรเดช กล่าวว่า เวลานายกรัฐมนตรี หรือผู้แทนนายกรัฐมนตรีไปประชุมต่างๆ กระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำประเด็นให้ทุกท่านอยู่แล้ว การจะนำประเด็นดังกล่าวมาทบทวนความจำ จึงถือเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้ประเด็นครบถ้วนถูกต้องทุกประการ ซึ่งบางท่านก็ถนัดในรูปแบบของกระดาษ ขณะที่บางท่านก็ถนัดใช้ไอแพด หรือ โทรศัพท์มือถือ ด้วยเหตุนี้ จึงมองว่าการใช้ไอแพดเป็นเรื่องปกติ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำยุคใหม่

 

"จิรายุ" ขออย่าวิจารณ์ ปมนายกฯ อ่านไอแพด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีมีผู้วิพากษ์วิจารณ์ที่นายกรัฐมนตรีใช้ iPad อ่านเวลาประชุมผู้นำ ACD ที่ผ่านมาว่าเรื่องนี้ไม่น่าที่จะมีผู้วิจารณ์ถ้าเข้าใจหลักการและเหตุผล การประชุมระดับนานาชาติที่เป็นสาระสำคัญหรือแถลงการณ์  ซึ่งผู้นำของโลกจะต้องอ่านทุกตัวอักษรที่สรุปมาเนื่องจากเป็นข้อตกลงที่ไม่สามารถนำไป "บิด" จากข้อความของภาษาพูดเหมือนการปราศรัย หรือแสดงวิสัยทัศน์ ทั่วๆไปได้

 

 

นายจิรายุกล่าวอีกว่า โดยปกตินายกรัฐมนตรีก็เป็นคนพูด หรือปราศรัยโดยไม่มีสคริปอยู่แล้ว และท่านนายกฯ ก็เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปปราศรัยหรือเวทีใดๆก็ไม่ได้อ่านอยู่แล้ว แต่การพูดด้วยการอ่านเอกสารบนเวทีประชุมระดับโลกจำเป็นต้องอ่านซึ่งมีลักษณะจะคล้ายกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ต้องอ่านตรงตามตัวอักษรทุกประการ ตนจึงไม่เห็นว่าเป็นสาระสำคัญที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กัน ซึ่งวันนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าเพื่อยืนหนึ่งให้ได้ในโลก”

 

“ภูมิธรรม” วอนอย่าใช้อคติจับผิดนายกฯ เพราะมันไร้สาระ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม กล่าวถึงกรณีดราม่าที่นายกรัฐมนตรีอ่านไอแพดในเวทีประชุมผู้นำ ADC มีความคิดเห็นเรื่องนี้ ว่า ตนมองว่าควรสนใจสาระมากกว่ารูปแบบ เพราะสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ที่แต่ละประเทศจะต่อรองกัน มันอยู่ที่สาระ ไม่ได้อยู่ที่ใช้ไอแพด หรือ ไม่ใช้ จะเปิดดู หรือไม่เปิดดู ที่จริงแล้วตามวัตรปฏิบัติที่ทำกันมา ก็ไม่ได้มีปัญหา ก็เปิดดูเพราะสปีดหรือการพูดที่เป็นทางการมากๆ ไม่มีใครพูดสด อ่านกันทั้งนั้น บางทีเห็นผู้นำระดับโลกยืนพูดมีพร๊อมเตอร์ (prompter) ให้เห็นทั้งนั้น

อย่าใช้อคติ มาจ้องเล่นเรื่องรูปแบบ มันไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ แต่ถ้าสาระไปเจรจา แล้วได้เปรียบเสียเปรียบ ประโยชน์ต่อประเทศมันเกิดหรือไม่เกิด อันนั้นมันน่าคุยกว่า ผมอยากเชิญชวน มาแก้ไขด้วยสาระ เพื่อแก้ไขปัญหามากกว่า จะมาคอยจับผิด จับถูก ว่าสำเนียงเป็นยังไง เสียงเป็นยังไง แต่งตัวเป็นยังไง ในสายตาผมมันไร้สาระ

 

นายกฯ วอนเข้าใจประชุมใหญ่ระดับโลก ทุกคำทุกประโยคต้องฟิก

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงหลังมีดราม่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก้มอ่าน iPad และสคริปต์ในเวทีประชุมACD ซึ่งตัวนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปตอบคอมเม้นต์พร้อมกับนำเอาโพสต์นั้นไปแขวนในไอจี stories จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีภาวะผู้นำ ว่าที่จริงการทำงานของตนเองมองกระแสก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งการทำงานให้สำเร็จเป็นเรื่องใหญ่แต่บางทีก็เข้าใจตัวเองว่าถูกเข้าใจผิด หรือข้อมูลยังไม่ไม่ครบก็อยากอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น

ที่จริงเรื่องที่ผู้สื่อข่าวถามมาก็ไม่ได้คิดว่าเป็นการแขวนหรืออะไร เพราะทุกคนสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของตัวเองได้อยู่แล้ว และก็รู้สึกว่าแค่อยากอธิบายหัวข้อนี้ว่า บางทีเราด่วนในการตัดสินใจจะตัดสินคนอื่นเกินไป มันต้องมีข้อมูลด้วยในการที่จะพูดแบบนี้ซึ่งได้ชี้แจงไปและคิดว่าการใช้ iPad ที่ทุกคนก็ใช้กันทั่วโลกใช้หรือไม่ใช้ก็แล้วแต่บุคคล

แต่ถ้าการประชุมหลักๆ สำคัญ ระดับประเทศ ควรจะใช้เพราะจะได้ครบประเด็นและถูกต้องอันนี้คือสิ่งที่สื่อไป แต่อีกอย่างหนึ่งคือกระแสการทำงานเป็นผลพลอยได้ เมื่อกระแสดีแน่นอนทุกคนมีกำลังใจไม่ว่าจะภาคส่วนไหนทั้งราชการ ดารา นักการเมืองทุกคน นายกรัฐมนตรีก็เช่นกัน กระแสดีมีกำลังใจเราเป็นมนุษย์ ถ้ากระแสลมก็เสียใจเป็นเรื่องธรรมดาแต่เสียใจ เสียใจแล้วต้องไปต่อ อย่างไรต้องทำให้นโยบายไปต่ออย่างไรจะอยู่เฉยเฉยก็ไม่ได้ เพราะเรามีระยะเวลาของเราที่ต้องทำให้ดีที่สุด จึงขอโฟกัสการผลักดันเรื่องนี้ต่อไป ส่วนจะให้อธิบายอย่างไรก็สามารถอธิบายได้แบบที่นักข่าวสัมภาษณ์ 

และที่มางานของปาฐกถาวันนี้ ก็มีใช้ iPad อยู่บ้างแต่ไม่ได้มากเหมือนเหมือนไปประชุมใหญ่เพราะมันไม่เหมือนกัน เวลาไปพูดกับต่างประเทศจะมีภาษาอังกฤษ และคำศัพท์เฉพาะ และเรื่องกฎหมายหรือความเซนซิทีฟระดับประเทศ เป็นคำภาษาอังกฤษซึ่งตนเอง ก็รู้เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีอันนี้คือเรื่องจริง ก็คืออ่านเห็นว่าคำศัพท์นี้ใช้เฉพาะเฉพาะในเรื่องนี้แต่ถ้าเป็นภาษาไทยรู้อยู่แล้วจะสบายกว่าเยอะไม่ต้องใช้ก็ได้

เมื่อตอนพูดปาฐกถาบนเวทีก็ใช้แต่ดูแค่หัวข้อยกตัวอย่างเวลาคุยกันระหว่างประเทศ ก็ใช้แบบนี้เช่นกัน ดูหัวข้อแต่ถ้าเป็นเรื่องกฎหมายหรือเรื่องละเอียดอ่อนตนเองอ่านทั้งประโยคเลย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และเกิดความละเอียดอ่อนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากถ้าผิดทีก็เป็นลมเลย หากมีมาให้ก็อ่านตามนั้นเลยแต่หลังจากนั้นมีการถามเรื่องการลงทุนก็ปิด iPad แล้วก็ตอบ แต่สปีดที่นั่งบนโต๊ะประชุมใหญ่ต้องอ่านหมดทุกคำอันนี้คือทั่วโลกทำ เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมา ต้องอ่านตามนั้นให้ที่ประชุมทุกคนรับรู้ตรงกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related