SHORT CUT
ลุ้นโผคณะรัฐมนตรี "อุ๊งอิ๊งค์ 1" หลังศาลตั้งบรรทัดฐานมาตรฐานจริยธรรมในคดี นายกฯ เศรษฐาแต่งตั้งพิชิต ทำเอาหลุดทั้ง ครม. อีกหนึ่งชื่อที่ผู้เสนออย่างพรรคเพื่อไทยยังเป็นกังวลก็คือ "เดชอิศม์ ขาวทอง" หรือ "นายกชาย"
นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สส.สงขลา ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้เคยเป็นอดีตนายกฯ อบจ.สงขลา จนกลายเป็นชื่อเล่นติดปากว่า "นายกชาย" เคยสังกัดพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2548 โดยใช้ชื่อว่า "วรวิทย์ ขาวทอง" ก่อนที่จะย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ในเวลาต่อมา จากโปรไฟล์ที่ดูเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์ดีกับพรรคเพื่อไทย และการเมืองท้องถิ่น แต่เขากลับถูกมองว่าเป็น "ผู้มีอิทธิพล"
ทั้งการที่มีภาพถ่ายร่วมเฟรมกับ “โทนี่ เตียว” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินผิดกฎหมาย และมีชื่ออยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดนออกหมายจับ เป็น “หมายแดง” ของตำรวจสากล หรือ “อินเตอร์โพล” ที่ทั้งรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลจีนต่างต้องการตัว จนสุดท้ายถูกทางการไทยส่งตัวให้รัฐบาลจีนไปดำเนินคดี
นายโทนี่ เตียว ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และบ่อนการพนันในพื้นที่ด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งมีข่าวว่ามีแกนนำพรรคการเมืองใหญ่ในภาคใต้ ใช้พื้นที่สถานบริหารขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นสำนักงาน และเป็นเซฟเฮาส์ในการประชุม หรือพบปะผู้สนับสนุนในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ออกมาระบุว่า มีข้อกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับกระบวนการ “ลักลอบค้าน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ภาคใต้” ซึ่งตอนนี้คำร้องในชั้นไต่สวน อย่างไรก็ตามคำร้องหรือข้อกล่าวหานี้ ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน ยังไม่มีการชี้มูล จึงไม่มีผลทางกฎหมาย และยังไม่ได้สรุปว่ามีมูลความผิดแต่อย่างใด แต่ประเด็นนี้ก็น่าคิดว่าหากมีการร้องศาลรัฐธรรมนูญจะเข้าข่ายละเมิดมาตรฐานจริยธรรม หรือส่งผลต่อการรับรู้ของวิญญูชนทั่วไปหรือไม่
อีกทั้งยังมีการขุดคดีเก่าที่เคยมีการกล่าวหา นายเดชอิศม์ ตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อเดิมว่า “วรวิทย์” เคยถูกกล่าวหาจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เมื่อปี 2548 ว่า นายวรวิทย์ มีความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่หลังจากที่ DSI ทำสำนวนการสอบสวนและสรุปส่งให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2549 อัยการกลับสั่งไม่ฟ้อง ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2550 และส่งสำนวนคืนให้ DSI
ขณะที่ ก่อนหน้านี้ สำนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งฟ้อง นางณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง หรือเจ๊อ้อย พี่สาวของนายเดชอิศม์ กับพวกรวม 5 คน ประกอบด้วยนายชาญชญา จันทร์สว่าง สามี นายกอง จันทร์สว่าง บุตรชายนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนครและคนขับรถแบคโฮอีก 2 คน คดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อยด้วยการขุดพื้นที่เป็นหลุมลึกประมาณ 20 เมตรห่างจากฐานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1,400 ปี 34 เมตรในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถานและ พ.ร.บ.ป่าไม้
โดย นายเดชอิศม์ แถลงข่าวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีกล่าว หากมีการสอบสวนแล้วพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง-เขาน้อยเพียง 0.01 % จะลาออกจาก สส. ทันที และจะเลิกเล่นการเมืองทุกระดับตลอดชีวิต ทั้งนี้ตนมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน 12 คน อยู่ต่างจังหวัด และต่างอำเภอ และมีขบวนการที่พยายามโยงให้ตนเข้าเกี่ยวข้องให้ได้
อ้างอิงข้อมูลที่ใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1142959
https://www.nationtv.tv/politic/378947969