svasdssvasds

ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา มั่นใจ ก้าวไกล เตรียมความพร้อมไม่ถูกยุบพรรค

ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา มั่นใจ ก้าวไกล เตรียมความพร้อมไม่ถูกยุบพรรค

ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา มั่นใจ ก้าวไกล เตรียมความพร้อมไม่ถูกยุบพรรค ตามอ่านบทสัมภาษณ์ของทั้งคู่ได้ที่ SPRiNG

SHORT CUT

  • พิธา มั่นใจ ไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ อนาคตใหม่ 
  • ช่อ พรรณิการ์ มั่นใจ ก้าวไกลเตรียมความพร้อมรับมือ พิพากษายุบพรรค
  • ทั้งคู่ขอบคุณกำลังใจจากมวลชน

ช่อ พรรณิการ์ ประสานเสียง พิธา มั่นใจ ก้าวไกล เตรียมความพร้อมไม่ถูกยุบพรรค ตามอ่านบทสัมภาษณ์ของทั้งคู่ได้ที่ SPRiNG

'ช่อ พรรณิการ์' ให้สัมภาษณ์ที่อาคารอนาคตใหม่

ช่อ พรรณิการ์ วานิช กรรมการคณะก้าวหน้า ในฐานะอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะกรรมการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ ถึงกิจกรรมที่จะรองรับมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจที่อาคารอนาคตใหม่ วันนี้ ว่า

ทางพรรคจะมีการจัดกิจกรรมเลคเชอร์สาธารณะ ว่าด้วยเรื่องศาลรัฐธรรมนูญและการยุบพรรค โดย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ซึ่งไม่ใช่พูดเฉพาะคดีพรรคก้าวไกล แต่จะพูดถึงการขยายขอบเขตอำนาจ ของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่เกี่ยวกับการยุบพรรค

และวันนี้ หลังอ่านคำวินิจฉัยจบจะมีการแถลงข่าวประมาณ 18.00น. เพราะวันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องรอ สส.เดินทางมาถึงที่พรรค รวมถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญ และหลังจากนั้นจะเป็นการปราศรัยยาวกับมวลชนที่มาเกาะติดบรรยากาศและร่วมรับฟัง ไปจนถึง 21.00น.


พรรณิการ์ ยอมรับว่า ความรู้สึกแรกคือ ‘แค้น’ เมื่อเทียบกับครั้งพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบกับตอนก้าวไกลจะถูกยุบ เพราะ ความฝันความต้องการของพวกเรามันง่ายมาก คือการตั้งพรรคอันดับหนึ่งเพื่อประเทศไทยที่เท่าเทียมกันเท่าทันโลก และคนไทยเท่าเทียมกันพาประเทศไทยไปเท่าทันโลก สร้างสังคมที่เสมอภาคเท่าเทียม และตั้งประเทศไทยที่มีอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ซึ่งไม่ได้เป็นความฝันที่สุดโต่ง มันยากเหรอที่จะเกิดขึ้น แต่ทำไมถึงไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น ทำไมจึงต้องขออนุญาตพวกเขา ในเมื่อบอกว่าประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยที่มีอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน จึงเป็นความแค้นที่รู้สึกอัดอันตันใจ


ส่วนการเตรียมการหลังจากนี้ ตนเองมองว่า คงต้องไปถามพรรคก้าวไกล แต่ในฐานะที่เคยถูกยุบพรรคมาก่อน เชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกลมีการเตรียมพร้อม สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว หากวันนี้ไม่ยุบ ทางพรรคก้าวไกลก็จะเดินหน้าต่อไป “พรรคก้าวไกลจะต้องติดปีกทะยานไปข้างหน้า“ และจะได้นำเอาเวลาและทรัพยากรไปช่วยเหลือประชาชน เพราะการถูกยุบพรรคไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมีแต่เสียเวลาเปล่าและไม่ได้เกิดอะไรที่ดีขึ้นมากับประเทศ แต่หากถูกยุบ ก็เชื่อว่าคงมีการเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วทุกกรณี


สมัยอนาคตใหม่ ต้องใช้เวลา 1 เดือน ถือว่า ยังตั้งรับลำบาก แต่ถ้าเป็นครั้งนี้ก็เชื่อว่าไม่ได้ใช้เวลานานแล้วและไปต่อได้ทันที เป็นความเชื่อแบบนั้น ส่วนก้าวไกลจะเตรียมพร้อมไว้แค่ไหน เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถตอบแทนได้


ส่วนตัวไม่ได้พูดคุย กับ พิธา หรือให้กำลังใจอะไร เพราะทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเอง เชื่อว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพรรคก้าวไกลเองก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องเช่นกัน

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการเตรียมความพร้อมรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวาน (6 สิงหาคม) ตนนอนตั้งแต่ 22.30 น. นอน 8 ชั่วโมงเต็ม ไม่ได้เครียดอะไร ทั้งนี้ ตอนแรกตนเตรียมจะอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางบก ฉบับที่… พ.ศ. … ที่นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. เป็นผู้เสนอ แต่การพิจารณาอาจจะอยู่ในช่วงเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ตนต้องเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ทัน

นายพิธากล่าวต่อว่า อีกเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ที่รัฐบาลมีการคิกออฟไปแล้วประมาณ 1-2 วันที่ผ่านมา ที่หน้าแล้งขนน้ำไปหาคน หน้าฝนขนคนหนีน้ำ โดยตนจะใช้โอกาสนี้ในการปรึกษาหารือ เนื่องจากขณะนี้เกิดสภาวะน้ำท่วมไปแล้ว 37 จังหวัด แต่การเยียวยากลับล่าช้า ประชาชนไม่มีเงินหมุนทันจึงอยากจะเร่งรัฐบาล และอยากใช้โอกาสนี้เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชน

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวางแผนงานไว้อย่างไรบ้าง นายพิธากล่าวว่า “ไม่มีครับ” มีแพลนตามปกติ โดยวันพรุ่งนี้ (8 สิงหาคม) อาจจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านถามกระทู้นายกรัฐมนตรี เพราะครบรอบ 1 ปีในการทำงาน มีอะไรที่อยากจะเสนอแนะรัฐบาลบ้าง ส่วนตนก็ทำงานตามปกติ และแน่นอนว่าหากผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาไม่เป็นคุณ เราก็มีแผนงานอยู่ดี เช่น วันเสาร์-อาทิตย์นี้ก็อยู่ที่จังหวัดราชบุรีอยู่ดี

.

เมื่อถามว่า ยังเดินหน้าทำงานการเมืองต่อใช่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ยังทำงานทางการเมือง แน่นอนว่าเป็นนักการเมือง เป็น สส. ก็ทำงานการเมือง แต่ตนยังมั่นใจแนวทางในการต่อสู้ ยังมั่นใจในข้อเท็จจริง และยังมั่นใจเรื่องข้อกฎหมาย ที่คิดว่าจะได้รับการเป็นธรรมในบ่ายวันนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยก็ขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้สมกับที่ประชาชนเลือกมาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเช็กสัญญาณอะไรไว้แล้วบ้างหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่ได้เช็กอะไร เมื่อคืนนี้ก็หลับปกติ และก่อนหน้านั้นก็กินเลี้ยงกับเพื่อนๆ สส.

'พิธา'  เผยที่สภา

เมื่อถามถึง บรรยากาศการประชุม สส.พรรคเมื่อวานนี้ นายพิธากล่าวว่า ยังมีความเป็นเอกภาพ เป็นความรู้สึกเหมือนกับชิล ไม่กังวล แต่ก็ไม่ประมาท เข้าใจว่าพรรคเรายังไปต่อได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าซื้องูเห่า นายพิธากล่าวว่า ตนมีโอกาสได้เห็นหลักฐานบ้าง จากโทรศัพท์ของคนอื่นที่มีมาจากหลายพรรค บ้างก็เป็นจำนวนเงิน บ้างก็มาในเรื่องของตำแหน่ง เช่น ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ซึ่ง สส.ที่เอามาให้ดูก็บอกว่า เขายินดีที่จะเดินทางไปต่อกับพรรค ก.ก.

“เงินและตำแหน่งซื้อเขาไม่ได้ เพราะคือความไว้วางใจที่ประชาชนให้มา เขาจะไม่นำไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน ซึ่งผมก็เบาใจ แต่ก็อยากให้ประชาชนได้ทราบว่า มีการเมืองใต้เข็มขัด การเมืองสกปรกแบบนี้อยู่จริงๆ ในบ้านเมืองเราในช่วงเวลาเช่นนี้ ซึ่งคนที่พยายามจะซื้อตัว สส.จากพรรคก้าวไกล เขาทำไปเพราะอยากสร้างให้อนาคตเป็นเช่นนั้นแต่หากเราไม่ยอม อนาคตก็จะเป็นแบบที่เราต้องการ” นายพิธากล่าว

เมื่อถามว่า คนที่พยายามจะมาซื้อตัว ยังเป็นคนเดียวกับที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ออกมาเปิดเผยเมื่อวานหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ตนคิดว่ามากกว่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าอุดมการณ์ของพรรคจะทำให้ไปต่อได้ นายพิธากล่าวว่า ไม่ใช่แค่อุดมการณ์อย่างเดียว แต่คือนโยบายและคือความเชื่อใจของประชาชนด้วย ตนยังเชื่อใจใน สส. และว่าที่ผู้สมัครทุกคนที่เรายังมีการถามคำถามอย่างเข้มข้นว่า ทำไมจึงอยากมาเล่นการเมือง ทำไมต้องมากับพรรค ก.ก. ทำไมต้องมาสมัยนี้ ด้วยความที่ย้ำแล้วย้ำอีกเขาก็คงเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นและเชื่อใจได้ว่า เขายังจำได้ว่าเขามาเล่นการเมืองเพราะอะไร

เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรหรือไม่ เพราะวันนี้มีการตีความว่า พรรค ก.ก. จะโดนยุบแน่นอน นายพิธากล่าวว่า ยังมั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และทำทุกอย่างเต็มที่อย่างที่เป็นไปได้ ซึ่งต้องมีสมาธิในการประชุมสภาในช่วงเช้าก่อน ฉะนั้น ย้ำว่าไม่มีกังวลอะไร ไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้าไว้ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึง พรรคสำรองซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล นายพิธากล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้ขอโฟกัสแค่เรื่องการประชุมสภา และไปฟังคำตัดสินของศาลในช่วงบ่าย

เมื่อถามว่า เสียกำลังใจหรือไม่ เพราะมีนักวิชาการหลายคนออกมาวิเคราะห์ว่าอย่างไรก็โดนยุบ นายพิธากล่าวว่า เราไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรกัน เพราะสถิติข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้น ตั้งแต่ปี 2549 มีพรรคที่ถูกยุบไปแล้ว 33 พรรค แต่ก็ยังมีข้อเท็จจริงว่ามีหนึ่งพรรคที่รอดคือพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น จึงคล้ายกับข้อต่อสู้ที่พรรค ก.ก.มีอยู่ตอนนี้ เพราะ กกต.ไม่ได้ทำตามระเบียบ ทำให้ตนไม่มีสิทธิที่จะไปชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหาในชั้นของ กกต.

ผู้สื่อข่าวถามว่า หวังว่าจะไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์กับพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์

related