"ชัชชาติ" แถลงผลงาน 2 ปี กทม. ใช้หนี้ BTS 23,000 ล้าน เอาผิดข้าราชการทุจริต สร้างความเปลี่ยนแปลง 6 ด้านสำคัญ พร้อมให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10 ลุยแก้ปัญหาพัฒนา กทม.ต่อ 3 ด้าน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำผู้บริหารกรุงเทพมหานคร แถลงผลงาน 2 ปี ในหัวข้อ “2 ปี ทำงาน เปลี่ยน ปรับ ยกระดับกรุงเทพฯ เมืองน่าอยู่” ที่หอศิลปวัฒนธรรม
โดยนายชัชชาติ เผยว่า วันนี้เป็นการมารายงานผลงาน 2 ปีให้กับประชาชน และเป็น 2 ปีของความท้าทาย และสิ่งที่ตกผลึกคือ กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าเที่ยวแต่ประสิทธิภาพยังไม่สูงมาก ทั้งความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมีคุณภาพ และที่ผ่านมาเชื่อว่า เราได้พยายามเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพของเมืองเพื่อให้มีความสุขมากขึ้น ซึ่งก็ทำในมิติหลายด้าน นโยบายกว่า 200 โครงการ ได้เดินหน้าไป บางอันก็มีการปรับเปลี่ยน 2 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน
4. การใช้เทคโนโลยี เพื่อมาปรับปรุงการให้บริการ
5. การมีส่วนร่วมกับประชาชนในการทำกิจกรรมต่างๆ ในกทม. ซึ่งมีคนรุ่นใหม่มามีส่วนร่วม เพราะเชื่อส่าเมืองนี้จะเปลี่ยนได้ถ้าทุกคนร่วมกัน
6. กล้าทำปัญหาที่ท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาสำคัญคือ เรื่องหนี้ BTS ที่หมักหมมมานาน กทม.จึงได้มีการจ่ายหนี้ ก้อนแรกไปแล้ว ในงานระบบส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จำนวน 23,000 ล้านบาท รวมถึงโอนกรรมสิทธิ์ โครงการส่วนต่อขยาย มาเป็นของกทม.
ซึ่งสิ่งที่จะต้องทําต่อไปคือ การลดการผูกขาด โดยจะเสนอรัฐบาล ยกเลิกคำสั่ง ม.44 นำระบบรถไฟฟ้ากลับสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและร่วมทุนตามกฎหมายให้โปร่งใส และมีประโยชน์มากที่สุดกับประชาชน รวมถึงความทัาทายเรื่องระบบการศึกษา การพัฒนาระบบสาธารณสุข เพราะเป็นตัวช่วยเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ
ทั้งนี้เชื่อว่าทั้ง 6 ด้าน สิ่งที่เป็นเชิงโครงสร้างที่ทำ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของกรุงเทพมหานคร โดยผ่านนโยบายและโครงการต่างๆ มากมาย ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของเมือง จะเป็นผลในระยะยาว และอีก 2 ปี แม้ตนเองไม่อยู่แล้ว แต่โครงสร้างนี้จะยังอยู่ น่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลง และถ้ามีประโยชน์จะขยายผลไปที่จังหวัดอื่นและระดับประเทศไทย
“ผมเชื่อว่า สิ่งที่ได้ทำมานั้น หากผ่าน 4 ปีไปแล้ว ผมไม่อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังอยู่คือโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว คือให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเสียงของประชาชนมีพลังมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ”
ส่วนสิ่งที่ยังต้องปรับปรุง เนื่องจากปัจจุบันยังมีพฤติกรรมผักชีโรยหน้าอยู่ ซึ่งยังไม่ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงการทุจริตคอรัปชั่น ที่ยังมีกลุ่มผลประโยชน์ที่มีอิทธิพล แต่เราก็ไม่กลัวและเดินหน้าต่อ รวมถึงฝาท่อ ที่กทม.ต้องไปควบคุมคุณภาพ รถที่จอดริมถนน รวมถึงหาบเร่ที่ลงอยู่บนถนน ซึ่งเมื่ออยู่ลนถนนจะเป็นอไนาจของ ตำรวจ ดังนั้นจึงต้องเป็นการบูรณาการ
ทั้งนี้ ผู้ว่าชัชชาติ ยืนยันว่า กทม.ก็จะทำงานเต็มที่ เพื่อให้คนเหนื่อยน้อยลงและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นเพื่อให้คนอยู่ในครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ทั้งนี้ หากให้คะแนนเต็ม 10 ผู้ว่าฯชัชชาติ บอกว่า ก็ขอให้คะแนน 5 คะแนน เพราะจริงๆ คะแนนเป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องให้คะแนน และยังต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป โดยน้อมรับคำติทุกคอมเม้นมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ปละเขื่อว่ายังมีเรื่องในกทม.ให้ทำอีกมาก
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังมองด้วยว่า หลังจากนี้คนจะใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น เพราะต้นทุนชีวิตคือ คนจะใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องไปเสียเวลาการเดินทาง และได้ใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ต้องเอาคุณภาพชีวิตไปเสี่ยงกับมลพิษต่างๆ ซึ่งเชื่อว่า กทม.ไม่ได้มีนโนบายที่เป็นแชมป์เปี้ยนอันเดียว ต้องมีนโยบายเป็นร้อย เพราะไปแตะกับชีวิตคนหลายเรื่อง ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าพัฒนาเมืองหน้าอยู่ในหลากหลายมิติ
กรณีมีกระแสข่าวว่าจะไปตั้งพรรคการเมือง ยืนยันว่า ไม่มีไม่จริง เรื่องพรรคการเมืองไม่มี เพราะเราทำงานแบบนี้เราความสุข เจียมเนื้อเจียมตัวอยู่กับระดับท้องถิ่น เห็นเป็นรูปธรรมให้จริงๆ และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างในโลกนี้เกิดขึ้นที่ระดับเมือง เราเปลี่ยนเมืองแล้วก็ไประดับประเทศ ตอนนี้ทีมงานทุกคนสนุก และการเป็นอิสระก็ดี ซึ่งก็ไม่เคยคิดเรื่องพรรค เพราะเราทำงานกับทุกคนได้ สก.ก็เป็นเหมือนพรรคเดียวไปหมด คือพรรคกทม. ซึ่งเรามีความสุขกับตรงนี้และทำงานตรงนี้ได้มีประสิทธิภาพกว่า จึงไม่มีแนวคิด
เมื่อถามว่า ยังไม่มีแนวคิดที่จะไปจบที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชัชชาติ หัวเราะ แล้วบอกว่า "ผู้ว่ายังเอาไม่รอดเลย ทำผู้ว่าให้ดีก่อน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง