"พิชิต ชื่นบาน" ลาออกจากรัฐมนตรี แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังถูก 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญสอบคุณสมบัติ
วันที่ 21 พฤษภาคม มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยระบุเหตุผลไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง อันจะทำให้กระทบต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาล
หลังจากถูกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 40 คน ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชิต ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นว่า ด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ล่าสุดได้มีจดหมายลาออกโดยระบุข้อความว่า
ข้าพเจ้า นายพิชิต ชื่นบาน ตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันชีวิตยึดมั่นในความบริสุทธิ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประกอบวิชาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย เมื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยความชอบตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมเป็นที่สำคัญ ข้าพเจ้าเนว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนยังต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่องหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเชื่อมั่นโดยสุจริตแล้วว่า ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้มีการพาดพิงไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดินต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีที่มีความจำเนต้องเดินหน้าด้วยความต่อเนื่อง ข้าพเจ้าจึงไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ในลักษณะยึดถือประยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม
แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้าพเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเชื่อมั่นโดยสุจริตแล้วว่า ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้มีการพาดพิงไปถึงท่านนายกรัฐมนตรีหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดินต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีที่มีความจำเนต้องเดินหน้าด้วยความต่อเนื่อง ข้าพเจ้าจึงไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ในลักษณะยึดถือประยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม
ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ให้ถือเป็นเจตนาของข้าพเจ้าที่มีต่อนายกรัฐมนตรี "ข้าพเจ้า ขอลาออกจากการดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี " เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
อนึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการลา พระเถรานุเถระ กรรมการมหาเถระสมาคม พระอาจารย์ที่เคารพนับถือข้าราชการ และประชาชน ที่ให้กำลังใจต่อข้าพเจ้ามาโดยตลอด นับแต่นี้ขอใช้โอกาสส่วนตัวทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาสีบต่อไปจนชีวิตข้าพเจ้าจะหาไม่
สำหรับคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับเรื่องวินิจฉัย เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกหรือพ้นจากตำแหน่งก่อนการพิจารณารับเรื่อง มีดังนี้
นายพิชิต ชื่นบาน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้เดินออกจากห้องทำงานที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อขึ้นรถประจำตำแหน่งออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเหตุผลการลาออกว่ามาจากอะไร นายพิชิตได้ระบุว่าเหตุผลใบที่แจ้งลาออกแล้ว
เมื่อถามว่ามีใครมากดดันให้ลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่าไม่มีใครกดดัน และไม่มีอะไร
เมื่อถามว่าแต่ช่วงเช้าแสดงความมั่นใจว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง นายพิชิต กล่าวว่าเมื่อเช้า ก็บอกแล้วไง ก่อนจะพูดปัดว่าไม่มีอะไร
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะไปดำรงตำแหน่งอะไร นายพิชิตหันกลับมาตอบผู้สื่อข่าวว่าจะให้ทำงานอีกหรือ ก่อนที่จะหัวเราะ โบกมือลาสื่อมวลชน และกล่าวว่าชื่นบาน ชื่นบาน
เมื่อถามว่าสรุปแล้วได้คุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่เกี่ยวกับการลาออก นายพิชิต กล่าวว่าสบายๆ ไม่มีอะไรกดดันเลย พร้อมกับกล่าวว่า ตัวผมไม่ยึดติดกับตำแหน่ง
เมื่อถามว่าออกจากตำแหน่งแล้ว คดีของนายกฯ ที่เหลืออยู่จะถูก ศาลรัฐธรรมนูญจำหน่าย และไม่พิจารณาต่อในภายหลังหรือไม่ นายพิชิต ไม่ตอบ เพียงแต่โบกมือและกล่าวว่า บ๊ายบายสื่อฯ ก่อนขึ้นไปบนรถ ก่อนที่จะลดกระจกลงและโบกสื่อฯอีกครั้ง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "อยู่ให้คนรักจากให้คนคิดถึง สโลแกนพี่ทำงานจริงจัง คบได้จริงใจ"
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามต่อว่า สาเหตุที่ลาออก เพราะต้องการเซฟเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายพิชิตปิดกระจกรถและไม่ตอบคำถามก่อนที่รถจะเคลื่อนออกจากทำเนียบรัฐบาลในทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง