svasdssvasds

เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง แถลงผลงานรัฐบาล 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10

เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง แถลงผลงานรัฐบาล 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10

พรรคเพื่อไทยแถลงผลงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ‘แพทองธาร’ ยันตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสมไม่รอ 10 เดือน ชี้ ครม.เศรษฐา 2 ถูกฝาถูกตัว แต่ไร้เงาอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สาธารณสุข การต่างประเทศ และเกษตรฯ ร่วมงาน

พรรคเพื่อไทย จัดงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ งานแสดงวิสัยทัศน์และความคืบหน้านโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย หลังจากจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่เดือนที่ 9 พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต โดยภายในงาน มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค , สส. ,ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย และ บุคลากรของพรรค เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าเราตัดสินใจถูกต้องมากที่จัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว ปัญหาปัจจุบันที่หมักหมมไว้จากการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งระบบราชการที่โตเกินไป ความอืดอาดในการทำงาน ด้วยโครงสร้างที่ไม่ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และภัยคุกคามทางความมั่นคงที่พัฒนาไปเร็วมาก รวมถึงภัยต่อเยาวชนชาติ จากยาเสพติด ทำให้ประชาชนของชาติอ่อนแอ ประชาชนขาดโอกาสในการทำมาหากิน เศรษฐกิจใต้ดินสูงเป็นประวัติการณ์

เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง แถลงผลงานรัฐบาล 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10

เพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมากที่สุด หากไม่เป็นแกนนำรัฐบาลผสม คงยากที่ปัญหาหมักหมมจะแก้ไขได้ 

“กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล เรื่องนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายการคลังถูกใช้งานข้างเดียวอย่างหนัก จนทำให้หนี้สูงขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและร่วมมือ ประเทศจะไม่มีทางลดเพดานนี้ได้”

นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า 10 เดือนที่ผ่านมา เราใช้ความพยายามในการวิเคราะห์  เข้าใจ เพื่อแก้ปัญหาที่ยาก และซับซ้อน และก้าวเดินต่อในทุกมิติ เพราะเราเสียเวลาและโอกาสไปถึงเกือบ 2 ทศวรรษจากการรัฐประหาร  เรามั่นใจว่าเราทำได้ และจะทำให้ได้คะแนนเต็ม 10 ก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ในมิติทางเศรษฐกิจ เริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบไปมาก จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน และค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 400 บาท จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว เพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน พรรคเพื่อไทยจะผลักดันเศรษฐกิจในทุกมิติ ไม่ใช่แค่เติมเงินและเพิ่มค่าแรง แต่รวมไปถึงเม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศจะเข้ามาจากการลงทุนและการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคน โดยการนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน 

ในมิติของการบริหารราชการแผ่นดิน จะเปลี่ยนจากรัฐบาลอุ้ยอ้าย อืดอาด ไม่โปร่งใส เป็นรัฐบาลดิจิทัล บริหารด้วยความรวดเร็ว โปร่งใสตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆได้ และมี Super App ในการบริการ ทุกมิติของภาครัฐ และเราจะปรับโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม ใหม่อีกครั้งหนึ่งเร็วๆ นี้ พร้อมจะแก้กฎหมายทางเศรษฐกิจอีกหลายฉบับ  ทั้งการยกเลิกกฎหมายล้าสมัย เขียนกฏหมายใหม่ให้ไทยกลับมาเป็น Hub ทั้งการบินและการเงิน ของอาเซียนให้ได้

ในด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ จะผูกมิตรกับทุกมหาอำนาจ และยินดีให้ไทยเป็นที่เจรจาความขัดแย้งจากทุกฝ่าย 

พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ มีนโยบายที่ดี มีรัฐมนตรีที่เก่ง สร้างอนาคตให้ประเทศไทย และที่สำคัญ จะต้องสามารถผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต แม้คู่แข่งพยายามทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเรา ด้อยค่าในสิ่งที่เราทำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ ในสมัยไทยรักไทย เกิดวาทกรรม “30 บาทตายทุกโรค” แต่ทุกอย่างผ่านไป ด้วยการทำงานนโยบายสำเร็จ ผลงานเท่านั้นจะพิสูจน์ ไม่ใช่วาทกรรม หรือการใส่ความต่อว่าจากใคร เพราะ 30 บาทรักษาทุกโรคใช้ได้จริง และกำลังเดินหน้าพัฒนาครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี เป็น 30 บาทรักษาทุกที่

นางสาวแพทองธาร ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์ พรรคเพื่อไทยในอนาคต จะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ มีนโยบายที่ดี  สร้างอนาคตให้ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว ทีม PTP Academy  อย่างไม่เป็นทางการ (Soft Launch) หน่วยงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ เปิดพื้นที่เชื่อมโยงการทำงานของพรรคกับหน่วยงานข้างนอก ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้วระยะหนึ่ง มีการจัดอบรมเพิ่มองค์ความรู้ให้กับ สส.ของพรรค เพื่อให้การทำงานการเมืองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

“พรรคเพื่อไทยจะครองสติ ไม่หวั่นไหว ไม่เล่นเกมส์โต้ตอบไปมาเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เรามีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบอยู่ในมือซึ่งกำลังลงมือทำ และเราทำได้ อย่างแน่นอน ในขณะที่นโยบายกำลังเดินไปข้างหน้า พรรคเพื่อไทยก็กำลังพัฒนาไม่หยุดยั้งเพื่ออนาคตของประเทศไทย  รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม.  ซึ่งมีเสียงจากนักวิชาการหลายท่านที่น่าเชื่อถือได้ให้คำยืนยันว่า ถูกฝาถูกตัวมากที่สุด ทุกอย่างกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่มีทางเลยที่เราจะแย่กว่าเดิม  เรารู้ว่าการทำงานให้บ้านเมืองนั้น เป็นงานที่ Thank Less and End Less ต้องทุ่มเทและไม่มีวันสิ้นสุด แต่เราเต็มใจที่จะทำ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อความเจริญของประเทศ” นางสาวแพทองธาร กล่าว 

 

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ โดยยืนยันว่า 10 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ปล่อยเปล่า แม้ช่วงจัดตั้งรัฐบาล จะเจอวาทะกรรมต่าง ๆ แต่หน้าที่หลังที่พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง ก็มีความมั่นคง มีความมุมานะในการทำงาน และดูแลประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง และทำอย่างเต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้ พร้อมมั่นใจว่า 10 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีผลงานที่เป็นที่ประจักษ์แล้ว และไม่ได้เสียโอกาสไป 10 เดือน ทั้งการแก้ปัญหาและป้องกันน้ำท่วมจังหวุดอุบลราชธานี ที่เคยท่วมเป็นประจำ, การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ฝ่ายความมั่นคงแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเต็มที่ และรัฐบาล ยังดูแลเรื่องความมั่งคั่งอีกมิติหนึ่ง ทั้งการเปิดชายแดน เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ให้ประชาชน สามารถทำมาหากินได้ และเป็นความหวังให้กับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ, การแก้ไขราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทั้งราคาหอมแดง ราคาข้าว และยาง กะหล่ำปลี รวมถึงสินค้าเกษตรอื่น ๆ ที่จะต้องมีการเปิดตลาดใหม่ ให้ความสำคัญเท่าเทียมกับพืชหลักอื่น ๆ พร้อมยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่รัฐบาลเสนอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด และเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น 

เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง แถลงผลงานรัฐบาล 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะประชาชนมีความต้องการ และรัฐบาลจะผลักดันให้เกิดขึ้น รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ที่รัฐบาล มีการเจรจากับธนาคาร 4 แห่ง เพื่อปรับลดดอกเบี้ย แม้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะยึดความเป็นอิสระจากรัฐบาล แต่ก็ไม่สามารถอิสระจากความทุกข์ของประชาชนได้ พร้อมยอมรับว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รัฐบาลนี้ยังทำไม่สำเร็จ แต่ตนมีความมุ่งมั่น ที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ให้สำเร็จ ระยะเวลา 4 ปีให้ได้ 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันถึงระยะเวลา 3 ปีที่เหลือของรัฐบาลว่า รัฐบาล ยังมีนโยบายอีกหลายอย่างต้องทำ และอาจจะต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจังในทุกมิติ พร้อมเชื่อว่า หากทุกคนในรัฐบาล มีความมุ่งมั่น ความสามัคคี เข้าใจซึ่งกันและกัน เห็นใจเขาเห็นใจเรา ถนนที่เดินไปข้างหน้าก็จะสะดวกขึ้น และง่ายขึ้น พร้อมยอมรับว่า การทำงานของพวก สส.รวมกับคณะทำงานในพรรค คณะทำงานในฝ่ายบริหาร 7-8 เดือนที่ผ่านมา เกือบไม่มีการประสานงานกัน แต่วันนี้ รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น จึงอยากให้ความสำคัญกับส่วนที่ดีที่พรรครักกัน เข้าใจกัน ปรารถนาดีต่อกัน 

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงความตั้งใจในการมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยทุกคน มีจิตใจที่อิงอยู่กับประชาชน และเชื่อว่า นโยบายที่พรรคฯ ได้ทำไป เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่า พรรคฯ มีความตั้งใจจริง แม้ระหว่างทางจะมีช่วงที่มีขึ้น มีลงบ้าง แต่ก็เป็นธรรมดาของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างในพรรคฯ กันเอง หรือกับประชาชน แต่พรรคฯ ก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการดูแลประชาชนให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ยังมี สส. และรัฐมนตรีขึ้ยมาแถลงวิสัยทัศน์และความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ได้แก่ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึง การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ การปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์
การลดภาษีสุราพื้นบ้าน ลดค่าธรรมเนียมซื้ออสังหาริมทรัพย์ การพักหนี้เกษตรกรและการลดดอกเบี้ยกลุ่มเปราะบาง, ฟรีวีซ่าไปกับคาซัคสถานและอีกหลายประเทศที่กำลังเจรจา, รวมไปถึงการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในงานมหาสงกรานต์ 

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ 4 ลูกกระจายเงิน 500,000 ล้านบาทจากผู้บริโภคสู่ร้านค้า จากร้านค้าสู่ร้านค้าใหญ่ จากร้านค้าใหญ่สู่ผู้ผลิต และทำให้คนเข้าถึงระบบเทคโนโลยีดิจิทัล 

เศรษฐา -อุ๊งอิ๊ง แถลงผลงานรัฐบาล 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10

ทพ.หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ  ประกาศทำนโยบาย “30บาทรักษาทุกที่” ให้ครบทุกจังหวัดภายในเดือนธันวาคมนี้

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. และนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะผลักดัน พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและระบบขนส่งสารธารณะ โดยภายในปี 2568 ค่าโดยสารต้องเป็น 20 บาททุกสาย มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ติดแอร์รถไฟชั้น 3 และเชื่อมต่อระบบรถ-ราง-เรือ-รันเวย์ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์

นายณพล เชยคำแหง สส.หนองบัวลำภู ประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติด เพื่อคืนลูกหลานสู่ครอบครัว

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสักนักนายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้านโยบายดักดัน "Soft Power" ด้วย พ.ร.บ.THACCA สร้างโอกาส 12 อาชีพและเปิด TCDA 14 แห่ง

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ประกาศยุทธศาสตร์แก้ "รัฐธรรมนูญ" ผ่านสองขาคือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อยกเลิกผลพวงรัฐประหาร ได้รัฐธรรทนูญใหม่ในยุคเศรษฐา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related