ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลวิเคราะห์ผลงานรัฐบาล 90 วันแรก ชมคิดได้ทำดี การช่วยเหลือตัวประกันที่อิสราเอล-แก้หนี้ แต่หลายเรื่องยัง "คิดไปทำไป-คิดสั้นไม่คิดยาว-คิดใหญ่ทำเล็ก-คิดอย่างทำอย่าง"
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐาในวาระ 90 วัน ซึ่งนายพิธาย้ำว่าไม่ใช่การประเมินหรือการตัดเกรด แต่เป็นการวิเคราะห์ผลงานของรัฐบาลเพราะรัฐบาลไม่มีโรดแมพให้เห็นอยางชัดเจน แต่ฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกที่ทำงานสร้างสรรค์มีทั้งการชืนชมผลงานที่ดีของรัฐบาลและแนะนำการทำงานที่ยังไม่คิดยาวเพื่อให้รัฐบาลได้นำไปปรับเปลี่ยนตามข้อสเนอแนะ
โดยแบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 5 กรอบคิด คือ
คิดดี ทำได้ ชื่นชมรัฐบาลทำงานได้ดี
คิดไป ทำไป รัฐบาลเปลี่ยนเงื่อนไขของนโยบายไปมา
คิดสั้น (ยัง)ไม่คิดยาว ยังไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นลมและยังไม่สามารถแบ่งเบาภาระให้พี่น้องประชาชนได้
คิดใหญ่ ทำเล็ก การเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารประเทศ
คิดอย่าง ทำอย่าง
นายพิธา ย้ำว่า โจทย์หินของรัฐบาล คือเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจีดีพีที่ไม่แน่ใจว่าจะถึง 2% หรือไม่ เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตที่อยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา เรื่องของการท่องเที่ยวที่รายได้ไม่ถึง 4 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย แม้จะมีคนมาท่องเที่ยว 27 ล้านคนก็ตาม การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนที่คาดไว้ในระดับ 60% ดังนั้นมาตรการฟรีวีซ่าอย่างเดียวไม่เพียงพอ คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาล หากรัฐบาลฟังประชาชนบ้าง ฟังเพื่อนนักการเมืองบ้างว่ามีความจำเป็นว่าจะต้องทำงานแบบมีโรดแมป
ตรงกันข้าม นายพิธา กล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านว่า ได้ยื่นกฎหมายสำคัญๆ ไปหลายเรื่องตามวาระที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน เช่น ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่การทำงานในสภาที่ตั้งใจไว้อาจจะทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะสภาล่ม และปีหน้าพรรคก้าวไกลและฝ่ายค้านจะวางแผน 1 ปีเพื่อให้แนวทางการทำงานชัดเจนมากขึ้น
นายพิธา กล่าวว่า จะต้องรอดูว่า หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่มีรายละเอียดหรือผลการอภิปรายไม่น่าพอใจ ผู้นำฝ่ายค้านคงจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 จะใช้โอกาสนั้นในการชำแหละเรื่องของงบประมาณว่าตรงกับสิ่งที่เสนอไว้ในเรื่องวิสัยทัศน์หรือไม่ ขณะเดียวกันยังติดตามเรื่องการทุจริต การใช้งบประมาณ ก็มีหากมีหลักฐานที่ชัดเจนก็อาจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลในต้นปีหน้า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตที่พรรคประชาธิปัตย์อาจจะย้ายขั้วไปร่วมรัฐบาล นายพิธายืนยันว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน พรรคก้าวไกลก็ยังเป็นพรรคอันดับหนึ่งและมีประธานกรรมาธิการอยู่หลากหลายชุด ดังนั้นพรรคก็ยังพร้อมที่จะทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประชาชนได้ เป็นความหวังของประชาชนได้ ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านที่จ้องจะล้มรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้นายพิธายอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ส. หลายคนของพรรค เป็น ส.ส. ใหม่ซึ่งก็จะพยายามพัฒนาบุคลากรของพรรคให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่