svasdssvasds

โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวข้องกับ PROJECT 2025 หรือไม่ และแผนนี้มีอะไรบ้าง!

โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวข้องกับ PROJECT 2025 หรือไม่ และแผนนี้มีอะไรบ้าง!

เปิดแผน ‘PROJECT 2025’ นโยบายอนุรักษนิยมสุดขั้ว ที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น! ฝ่ายตรงข้ามหวั่น แผนนี้กระทบระบอบประชาธิปไตยหากทรัมป์ ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

SHORT CUT

  • PROJECT 2025 เป็นเอกสารที่มีความยาวกว่า 900 หน้า และเต็มไปด้วยนโยบายสุดขั้วของฝ่ายขวา เช่น ปฏิรูปรัฐบาลกลาง ปฏิรูปการศึกษา เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดจัดการผู้ลี้ภัย ไปจนถึงยุบหน่วยงานที่เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน เป็นต้น
  • เป็นแนวคิดของมูลนิธิเฮอริเทจ (The Heritage Foundation) ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่สนับสนุนนโยบายแบบค่านิยมอเมริกันดั้งเดิม และมีคนจากสมัยรัฐบาลของทรัมป์หลายสิบคนเกี่ยวข้องด้วย
  • เปิดไฮไลท์บางส่วนจาก PROJECT 2025 ที่น่าสนใจ และหากมันเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ข่าวลือ จะทำให้ ‘ทรัมป์’ เป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจล้นเหลือแน่นอน

เปิดแผน ‘PROJECT 2025’ นโยบายอนุรักษนิยมสุดขั้ว ที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น! ฝ่ายตรงข้ามหวั่น แผนนี้กระทบระบอบประชาธิปไตยหากทรัมป์ ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา PROJECT 2025 เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง เพราะถูกแฉว่า เป็นพิมพ์เขียวการบริหารประเทศของฝ่ายอนุรักษนิยม ที่เอาไว้ให้ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนต่อไปใช้ในการบริหารประเทศ ซึ่งก็คือ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ที่สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่า เขาจะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้แน่นอน

โดย PROJECT 2025 เป็นเอกสารที่มีความยาวกว่า 900 หน้า และเต็มไปด้วยนโยบายสุดขั้วของฝ่ายขวา ที่หวังให้ ทรัมป์ ใช้วาระที่ 2 ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัดระเบียบประเทศใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ.ปฏิรูปรัฐบาลกลาง ปฏิรูปการศึกษา เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดจัดการผู้ลี้ภัย ไปจนถึงยุบหน่วยงานที่เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน เพื่อทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่ตามอุดมการณ์ของขั้วอนุรักษนิยม

โปรเจกต์นี้เป็นของ มูลนิธิเฮอริเทจ (The Heritage Foundation) ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่สนับสนุนนโยบายแบบค่านิยมอเมริกันดั้งเดิม และมีคนจากสมัยรัฐบาลของทรัมป์หลายสิบคนเกี่ยวข้องด้วย แต่หลังจากแผนสุดโต่งของ PROJECT 2025 ถูกฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะพรรคเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ทาง ‘ทรัมป์’ ก็ได้ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น! และโกรธจัดที่สื่อเอาเขาไปเชื่อมโยงกับ โปรเจกต์นี้ และในวันที่ 30 ก.ค. 2024 ‘พอล แดนส์ (Paul Dans) ’ แกนนำของ PROJECT 2025 ก็ได้ลาออกจากมูลนิธิเฮอริเทจ โดยอ้างว่า วางแผนจะลาออกมานานแล้ว

การกระทำนี้ อาจสะท้อนถึงจุดสิ้นสุดของ PROJECT 2025 ที่ฉาวโฉ่ในแวดวงการเมืองอเมริกามานาน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่า ทรัมป์จะยังคงนำแนวคิดแบบอนุรักษนิยมสุดขั้วต่อไปหรือไม่ เนื่องจากแนวคิดหลายอย่างในโปรเจกต์นี้ ก็มาจากอดีตที่ปรึกษาใกล้ชิดหรือบุคคลที่เคยทำงานในฝ่ายบริหารของเขาทั้งสิ้น

และนี่คือ ไฮไลท์บางส่วนจาก PROJECT 2025 ที่น่าสนใจ และหากมันเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ข่าวลือ จะทำให้ ‘ทรัมป์’ เป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจล้นเหลือแน่นอน

โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวข้องกับ PROJECT 2025 หรือไม่ และแผนนี้มีอะไรบ้าง! PHOTO REUTERS

PROJECT 2025 มีอะไรบ้าง

ปฏิรูปรัฐบาลกลางให้เป็นหน่วยงานการเมือง

แทนที่คนในรัฐบาลกลาง ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ให้ดำเนินนโยบายที่เกี่ยวกับทุกอย่างตั้งแต่สุขภาพไปจนถึงการศึกษาและสภาพอากาศ ไปในแนวทางที่ทรัมป์ต้องการ และทำให้แน่ใจว่าหน่วยงานและแผนกต่างๆ มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการเมืองที่เข้มแข็ง และพรรคดีต่อ ทรัมป์ นั่นหมายความว่าการตัดสินใจเกือบทุกอย่างที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางทำสามารถส่งเสริม วาระทางการเมืองได้ เช่น ไม่จ่ายเงินให้หน่วยงานที่เอนเอียงไปทาง ทางพรรคเดโมแครต เป็นต้น

ยุบกระทรวงการศึกษา

ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อระบบการศึกษาของรัฐ โดยตัดโปรแกรมของรัฐบาลที่มีไม่สร้างรายได้ และตัดการศึกษาฟรีในช่วงปฐมวัยออกไป ส่วนนโยบายการศึกษาของรัฐบาลกลางควรจำกัดอยู่เพียงบางส่วน และท้ายที่สุดกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางก็ควรถูกยุบ ซึ่งนโยบายนี้คล้ายกับคำปราสัยของ ทรัมป์ ที่เคยหาเสียงไว้ในวันที่ 22 มิ.ย. 2024 ว่า “ควรยุบกระทรวงการศึกษา เพื่อย้ายทุกอย่างกลับไปยังรัฐนั้นๆ แทน”

ให้ทรัมป์มีอำนาจสอบสวนเต็มที่

ย้ายกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด เช่น เอฟบีไอ ไปอยู่ภายใต้การควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรง และเรียกร้องให้มีการ ปฏิรูปเอฟบีไอทั้งหมด เพื่อตัดหน่วยงานที่ไม่จำเป็น กล่าวคือเป็นการ จะลดความเป็นองค์กรอิสระลง เพื่อให้อยู่ภายใต้ทรัมป์ ซึ่งจะทำให้เขามีอำนาจโจมตีฝ่ายตรงข้าม และป้องกันตนเองได้ดีขึ้น

ฟื้นฟูกำแพงชายแดน

จะมีหน่วยงานที่ตรวจคนเข้าเมืองแบบเข้มข้นขึ้น ฟื้นฟูกำแพงชายแดน สร้างค่ายกักกันเด็กและผู้อพยพผิดกฎหมาย รวมถึงใช้กองกำลังทหารในการดูแลมากกว่าเดิม และมีการเสนอว่าควรปิดชายแดนไปเลยเพื่อแก้ปัญหาผู้อพยพอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแผนดังกล่าวจะเป็นการ เนรเทศผู้อพยพหลายล้านคนทั่วประเทศออกไปในเวลาอันสั้น แต่ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกัน

ห้ามคนข้ามเพศเป็นทหาร 

ภาวะสับสนทางเพศไม่สอดคล้องกับการเกณฑ์ทหาร” ซึ่งผู้เขียนแผนส่วนนี้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกระทรวงกลาโหมสมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี และเขายังสนับสนุนการบังคับเกณฑ์ทหารอย่างจริงจังอีกด้วย

จำกัดการทำแท้ง

การทำแท้งอย่างทั่วถึง เป็นหนึ่งในนโยบายที่สมาชิกพรรคเดโมแครตคู่แข่งของฝั่งอนุรักษ์สนับสนุนมาตลอด แต่แผนนี้จะเรียกร้องให้มีการควบคุมการทำแท้ง รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่ส่งยาทำแท้งทางไปรษณีย์ และทำให้ผู้ให้บริการทำแท้งทั่วไปกลายเป็นอาชญากร นอกจากนี้ทางรัฐบาลกลางจะยุติการดูแลกับบุคคลที่เข้ารับบริการทำแท้ง

เรื่องโลกร้อนไว้ก่อน 

ยุบหรือลดบทบาท องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) และเพิ่มการขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิล (นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นปัจจัยหนึ่งของโลกร้อน) เพราะอุตสาหกรรมเหล่านี้ส่วนใหญ่ดำเนินการอยู่ในรัฐที่เป็นฐานเสียงของทรัมป์ เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐดาโกต้าเหนือ เป็นต้น ซึ่งสร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับชาวสหรัฐฯ มหาศาล

โดนัลด์ ทรัมป์ กับ PROJECT 2025 PHOTO REUTERS

ที่มา : The Washington Post และ Reuters 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

related