ก่อนที่ทักษิณจะได้รับการ "พักโทษ" เขาต้องนอนรักษาตัวที่ รพ. ตำรวจ เพื่อคอยเวลานั้นนานถึง 6 เดือน ทำให้ระหว่างนั้นมีหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวแสดงความกังวลกันไม่น้อย
ณ เวลานี้ คงไม่มีประเด็นไหนจะร้อนแรงไปกว่าเรื่อง นักโทษชาย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการ “พักโทษ” อีกแล้ว
สำหรับนายทักษิณนั้น เดินทางกลับไทยมาตั้งแต่ 22 ส.ค. 66 พร้อมกับรับโทษ 3 คดี ซึ่งโทษรวม 10 ปี แต่หลังจากอยู่ในกระบวนการยุติธรรมได้ไม่นาน เขาก็ถูกย้ายจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครกลางดึก เพื่อเดินทางไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยทางราชทัณฑ์ชี้แจงว่า นายทักษิณมีอาการแน่นหน้าอก และความดันสูง จึงต้องส่งรักษาเร่งด่วน
ในเวลาต่อมาจึงมีการเปิดเผยว่า ห้องพักที่นายทักษิณใช้รักษาตัวนั้น อยู่บนชั้น 14 ของอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ซึ่งระหว่างรักษาตัวอยู่ที่นั่นเขายังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จากการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่ว่าด้วยการ “คุมขังนอกเรือนจำ” ซึ่งถูกเขียนออกมาอย่างเร่งรีบ
ซึ่งประเด็นนี้ก็มาถึงจุดพีคที่สุดในเดือน ก.พ. 67 โดยก่อนวันวาเลนไทน์แค่วันเดียว (14 ก.พ. 67) นายทักษิณ ชินวัตร ก็สอบติด 1 ใน 930 รายชื่อ ที่จะได้รับการพักโทษในรอบที่จะมาถึง และในที่สุด วันที่ 18 ก.พ. 67 เขาก็ได้รับการปล่อยตัวไปพักที่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า” แล้ว หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตแบบนักโทษอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมานาน
เมื่อกระบวนการออกมาเป็นดังนี้ จึงเป็นที่แน่ชัดว่า ตั้งแต่นายทักษิณกลับมาประเทศไทยตัวของเขาก็ไม่ได้ติดคุกตั้งแต่วันเดียว และตลอดเวลากว่า 6 เดือนที่เขาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจนั้น ก็มีความเคลื่อนไหวจากหลาย ฝ่าย ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ และมองว่าอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นนักโทษเทวดามากไปหรือไม่ ซึ่งมีหลักๆ ดังนี้
ศรีสุวรรณ ร้อง 3 หน่วยงานรัฐ ทำให้ ‘ทักษิณ’ เป็นเทวดา?
วันที่ 30 ส.ค.67 นาย ศรีสุวรรณ จรรยา หรือว่า “พี่ศรี” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินเข้ามายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยขอให้ตรวจสอบ ตำรวจ โรงพยาบาล กรมราชทัณฑ์ และกรมราชทัณฑ์ ว่าทั้ง 3 หน่วยงานรัฐนั้น ปฏิบัตินอกเหนือจากหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย
ต่อมา ในวันที่ 24 ต.ค. 66 นายศรีสุวรรณได้ตามประเด็นนี้ต่อ โดยยื่น ร้องแพทย์สภา ให้ตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจ ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณเกินไปหรือไม่ และ ในวันที่ 19 ธ.ค. 66 ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ฟ้อง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ที่ปล่อยให้นายทักษิณมีสิทธิพิเศษ พร้อมขอให้นำนายทักษิณกลับมานอนคุก
คปท. บุกโรงพยาบาลตำรวจ
วันที่ 22 ต.ค.66 กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคล นัดรวมพลขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ของอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ หลังอยู่มานานจนครบ 60 วัน แต่ยังไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่ พร้อมกับขู่ว่าจะทำกิจกรรมหน้า รพ.ตำรวจ ต่อไป หากอาการป่วย “ทักษิณ” ไม่ชัดเจน
หลังจากนั้นก็มีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันที่ 14 ธ.ค. 66 นายพิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ ตัวแทน คปท. เข้ายื่นเอกสารต่อ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้ นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร กลับเรือนจำให้ได้
ส่วนในวันที่ 12 ม.ค. 67 กลุ่ม คปท. ได้ทำพิธีบวงสรวง และปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบฯ เพื่อส่งเสียงไปถึงรัฐบาลให้ออกมาชี้แจงว่า นายทักษิณป่วยในระดับไหน
พรรคก้าวไกล ชี้ กรมราชทัณฑ์ 2 มาตรฐาน
วันที่ 19 ธ.ค. 67 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความกังวล โดยกล่าวว่า เวลานี้สังคมต่างจับตามองไปที่ระเบียบใหม่กรมราชทัณฑ์ ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณหรือไม่ รวมถึงชี้ว่ากระบวนยุติธรรมไทยมี 2 มาตรฐานมาตลอด ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง และฝ่ายค้านจะทำการตรวจสอบแน่นอน
ปชป. ชี้ ‘คุกมีไว้ขังคนจน’ คือผลงาน รบ.เศรษฐา
วันที่ 19 ธ.ค. 66 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลที่สำเร็จมากสุด คือการทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไม่มีชิ้นดี เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของตระกูลชินวัตร จากกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่ติดคุกเหมือนประชาชนนักโทษรายอื่น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการใช้ทฤษฎีเลือกปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐาน และประชาชนทั้งประเทศต้องจำไว้ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน”
สว.เจตน์ กรมราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ เอื้อนักโทษเทวดา
ระหว่างการประชุมวุฒิสภาวันที่ 19 ธ.ค. 66 นพ.เจตน์ ศิรธารานนท์ สว.ตั้งคำถามไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อการออกระเบียบของกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการคุมขังนอกเรือนจำ ว่าเป็นการออกระเบียบเพื่อช่วยเหลือคนคนเดียวหรือไม่
เพราะที่ผ่านมาระเบียบดังกล่าวไม่เคยมีมาก่อน และส่อเอื้อประโยชน์กับนักโทษเทวดา ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้จะครบกำหนดการพักรักษาตัวนอกเรือนจำ 120 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค. ซึงถือว่าเป็นอภิสิทธิชนที่แม้จะได้รับการลดโทษ แต่ไม่ถูกติดคุก อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีคำชี้แจงว่าป่วยหนักอย่างไรถึงได้นอนนอกเรือนจำ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นความเสื่อมของกระบวนการยุติธรรมและขัดต่อหลักนิติธรรมที่ต้องปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเสมอภาค
กมธ. ตำรวจฯ ไปดูงานที่ รพ.ตำรวจ
วันที่ 12 ม.ค. 37 นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ บอกภายหลังขึ้นไปยังชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ และภายหลังการศึกษาดูแลและตรวจสอบข้อเท็จจริง ของขั้นตอนการดูและรักษานักโทษ ว่า จากการตรวจสอบ มีนักโทษมาค้างคืนแค่คนเดียว คือนายทักษิณ ชินวัตร และที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่มารักษาเช้าเย็นกลับจากเรือนจำมีนบุรี 2 คน
แต่อย่างไรก็ตาม นายชัยชนะ ไม่ได้เข้าไปพบตัวนายทักษิณ เพราะเป็นเรื่องสิทธิของนักโทษและขอฝากไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงจัดสรรงบประมาณมาให้โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากพบว่า มีกล้องวงจรปิดของอาคาร มหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ทั้งตึกเสียทั้งหมด และเสียมานานเป็นปีๆ แล้ว
คปท.-ศปปส. เตรียมชุมนุมยาว
วันที่ 14 ก.พ. 67 กลุ่ม คปท.-ศปปส. กองทัพธรรม นัดรวมตัวกันที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อคัดค้านการพักโทษของทักษิณ หลังหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีการปล่อยตัวทักษิณในคืนวันที่ 18 ก.พ. 67 เพื่อกลับไปอยู่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า”
และต่อมาในวันที่ 16 ก.พ 67 ทางกลุ่มได้เคลื่อนขบวนมายื่นจากสะพานชมัยมรุเชฐ มายังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือขอให้อายัดตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
และยืนยันว่าหลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว จะนำมวลชนไปปักหลักชุมนุมที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐต่อ เพื่อรอฟังความคืบหน้า
ติดคุกมันเครียด ใครๆ ก็ป่วยได้
วันที่ 20 ธ.ค. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ตอบคำถามกรณีที่ทำไม นายทักษิณ ชินวัตร ถึงป่วยหลังกลับไทยเพียงแค่วันเดียว ทั้งที่ตอนอยู่ต่างประเทศมีสุขภาพแข็งแรงดี โดยตอบว่า ใครไม่เคยติดคุกไม่รู้หรอก มันมีความเครียด และความเครียดเป็นเหตุของโรคภัยต่างๆ ไม่เชื่อก็ลองติดคุกสัก 2-3 วันดูก็ได้ พร้อมยืนยันว่าระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน
ภูมิธรรมย้ำคนวัยนี้ ป่วยกันทั้งนั้น
วันที่ 21 ธ.ค.67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวถึงกรณีที่ครบ 120 วัน การรักษาตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจว่า หลังจากนี้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ที่คุมขังนักโทษ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า หลังจากนี้แพทย์จะลงความเห็นว่าจะสามารถรักษาตัวต่อได้หรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะมีแนวทางการรักษามาตรการอย่างไร แต่ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการ และระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่
นายภูมิธรรม อธิบายเพิ่มเติมว่าส่วนตัวไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเรื่องการที่จะให้นักโทษที่ไม่มีความรุนแรง หรือเวลาที่ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก ซึ่งระเบียบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นเพราะว่าในเรือนจำมีความแออัดเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งก็อยากให้นักโทษได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติไม่แออัด แต่ก็ต้องมีระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ เพราะนายทักษิณเข้ามาตามกระบวนการ และคำพิพากษาก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม การเจ็บป่วยก็มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็มีหน้าที่ดูแลอยู่ ขอยืนยันว่าไม่มีใครไปเกี่ยวข้อง หรือแทรกแซง เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของแพทย์
ทวี ยกทักษิณเป็นนักสร้างสันติภาพ
วันที่ 3 ม.ค. 67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า การเป็นรัฐบาลต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม และรัฐธรรมนูญยังเขียนไว้ในมาตรา 53 ว่ารัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ปี 2560 เกิดขึ้นก่อนจะมีรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญที่ต่างไปจากเดิมคือ กฎหมายเดิมไม่สามารถจัดการหรือบริหารนักโทษ ผู้ต้องขังเฉพาะรายหรือเฉพาะคดีได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติให้ดำเนินการ และไม่สามารถที่จะใช้สถานที่ควบคุมหรือที่คุมขังประเภทอื่น รวมถึงยังไม่สามารถนำระบบพัฒนาพฤตินิสัยมาบริหารกับนักโทษหรือผู้ต้องขังหรือผู้ต้องราชทัณฑ์ได้ จึงต้องแก้กฎหมายฉบับนี้
พ.ต.อ.ทวี ยังชี้เพิ่มเติมว่า ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ฆ่าคน หากใครป่วยก็ออกไปรักษาตัว รพ. ได้ ยก ‘ทักษิณ’ เป็นนักสร้างสันติภาพ ยอมกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดความปรองดอง ชี้ติดในห้องสี่เหลี่ยมออกไปไหนไม่ได้ แค่นี้ก็เสียอิสรภาพแล้ว
นายกฯ เศรษฐาเชื่อ เป็นไปตามกฎหมาย
ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ. 67 ก่อนวันที่คาดว่าจะมีการปล่อยตัวนายทักษิน 1 วัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระบวนการปล่อยตัวว่า รับทราบว่าจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งตนเชื่อว่าขั้นตอนทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ในการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลตำรวจ ย้ำกระบวนการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฏหมายซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีการรายงานอะไรเพิ่มเติม
ยังมีการถกเถียงประเด็น "ทักษิณ" นักโทษเทวดาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายของฝ่ายค้านในการประชุมสภาที่ผ่านมา รายการวิเคราะห์ข่าว บนเวทีการชุมนุม ไปจนถึงการแสดงความไม่พอในบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ต้องรอติดตามว่าเร็วๆ นี้สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง