ชัยชนะ เผย กมธ.การตำรวจ ได้ขึ้นชั้น 14 รพ.ตำรวจ แต่ไม่ได้เข้าไปพบตัว ‘ทักษิณ’ ชี้ เป็น พรบ.ส่วนบุคคล ไม่ผิดหวังได้มาทำหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย โยน กรมราชทัณฑ์ ตอบ ”ทักษิณ“ รักษาตัวอยู่จริงหรือไม่ ฝากนายกฯ เศรษฐา โยนงบติดกล้องวงจรปิดอาคาร หลังเสียหลายปี
นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ บอกภายหลังขึ้นไปยังชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ และภายหลังการศึกษาดูแลและตรวจสอบข้อเท็จจริง ของขั้นตอนการดูและรักษานักโทษ ว่า จากการตรวจสอบ มีนักโทษมาค้างคืนแค่คนเดียว คือนายทักษิณ ชินวัตร และที่เหลือเป็นผู้ป่วยที่มารักษาเช้าเย็นกลับจากเรือนจำมีนบุรี 2 คน
โดยวันนี้ทาง โรงพยาบาลตำรวจ ได้อนุญาตให้ขึ้นไปชั้น14 ซึ่งหลังจากขึ้นไป บริเวณหน้าวอร์ดพยาบาล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่และสันติบาล รวม 8 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ 2 นาย และ ตร.ท้องที่ 3 นาย
จากนั้น ได้มาดูนักโทษที่มารักษาโรคต้อกระจก บริเวณชั้น 7 โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวมา 2 นาย และนักโทษหญิง ก็มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว มาคุม 2 คนเช่นกัน ซึ่งเห็นได้ว่า การปฏิบัติของราชทัณฑ์อย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ยืนยันว่า ได้ขึ้นไปชั้น14 เจอเจ้าหน้าที่จริง ส่วนได้เจอนักโทษหรือไม่ ขอเป็นเรื่องของ พรบ.ส่วนบุคคล ไม่สามารถเปิดเผยได้ และการเดินทางมาวันนี้ เป็นการมาตามกรอบของกฎหมาย และทำหน้าที่เพื่อให้สังคมคลายข้อสงสัย
ส่วน นายทักษิณ รักษาตัวที่นี่หรือไม่นั้น กรมราชทัณฑ์ได้แจงว่าเป็น พรบ.ส่วนบุคคล ที่ นักโทษมีสิทธิจะอนุญาตให้เยี่ยมหรือไม่ให้เยี่ยมก็ได้ แต่การมาวันนี้เราไม่ได้เจาะจงแค่คนเดียว
ส่วนการรักษาโรคและขั้นตอนการรักษาของนายทักษิณ ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ ชี้แจงไปแล้ว ส่วนตนเองมาดูว่ามีการควบคุมตัวอย่างไรเท่านั้น ซึ่งก็พบว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะมีเวร 24 ชม. เวรละ 2 คน สับเปลี่ยนกัน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะต้องรายงานผู่บังคับบัญชาทุก 2 ชม. โดยการถ่ายภาพส่งทางไลน์ และห้องที่ผู้ป่วยพักอยู่ก็ไม่ได้ล็อก ผู้คุมสามารถเดินเข้าได้ตลอดเวลา
ส่วนการรักษาไม่ก้าวล่วง เพราะหน้าที่ของ กมธ. มาหาข้อเท็จจริง และตรวจสอบดูเพียงขั้นตอนปฏิบัติกับนักโทษเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ภาพการรักษา ก็ไม่สามารถนำมาชี้แจงไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
นายชัยชนะ ยังบอกอีกว่า เราถามขั้นตอนการปฏิบัติทางกฎหมายว่าเข้าไปแล้วมีวิธีการขั้นตอนอย่างไร รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาล ที่มีการแจ้งว่าใช้สิทธิ์ สปสช. หากเกินสิทธิ์สามารถใช้ส่วนตัวได้หรือไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ข้อใด รวมไปถึงสำเนา “รท101” กรอกประวัติก่อนเข้าเรือนจำได้มีการมีการทำแล้วหรือไม่ แต่ส่วนของโรงพยาบาลตำรวจได้ทำครบถ้วนตามกระบวนการแล้ว พร้อมกับระบุว่า สิ่งใดที่กรมราชทัณฑ์ให้ได้ก็ขอให้ตอบมา เพราะขอเพียงขั้นตอนการปฏิบัติตามกฏหมาย
นายชัยชนะ ไม่ขอระบุว่า เชื่อได้หรือไม่ ที่นายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ต้องให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้ยืนยันเอง เพราะตนเองไม่เห็น ระบุว่าไม่มีข้อข้องใจกับโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เหลือเพียงกรมราชทัณฑ์ที่ตนขอเอกสารไป กรรมาธิการการตำรวจต้องได้รับ และการมาในวันนี้ถือว่าไม่ผิดหวัง เพราะถือว่าได้ไปชั้น 14 ย้ำว่ากรอบอำนาจหน้าที่ให้ไว้ และความตั้งใจที่จะมาทำงาน เป็นไปตามแผน
“การมาวันนี้ไม่ได้ผิดหวัง เพราะถือว่าได้ชึ้นไปชั้น14 ไปดูการทำงาน และได้เจอนักโทษที่มารักษาตัว2คน เป็นไปตามกรอบของกฎหมายและอำนาจหน้าที่”
แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ต้องการเป็นจำเลยสังคมในเรื่องนี้ กรมราชทัณฑ์ก็ต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจ ถ้าเมื่อไหร่ที่ชี้แจงไม่เข้าใจจำไว้เลย ว่าจำเลยของสังคมก็คือกรมราชทัณฑ์ ส่วนโรงพยาบาลตำรวจ ต้องยอมรับว่า สิ่งที่โรงพยาบาลทำในวันนี้ถูกต้องที่สุด ทั้งให้ความร่วมมือให้ข้อเท็จจริง จึงอยากฝากสื่อมวลชนไปถามอธิบดีกรมราชทัณฑ์
“วันนี้กลับหน้าที่แทนเราทำได้ของโรงพยาบาลตำรวจครบถ้วนแล้วเหลือเพียงแค่เอกสารที่ได้สอบถามไปกับทางกรมราชทัณฑ์ที่ต้องรอการตอบกลับมาเท่านั้น”
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย นายชัยชนะ ยังได้ ฝากไปถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงจัดสรรงบประมาณมาให้โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากพบว่า มีกล้องวงจรปิดของอาคาร มหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ทั้งตึกเสียทั้งหมด และเสียมานานเป็นปีๆแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง