พิธา วิเคราะห์ รัฐบาล 90 วัน ยังสอบไม่ผ่านหลายเรื่อง เศรษฐาสวน 'ผลงานชัดเจน'

ระหว่างนายกฯ ไม่อยู่ไทย ก้าวไกลขอเปิดศึกซักฟอกนอกสภา วันที่ 15 ธ.ค. 2023 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จัดงานแถลงข่าวว่าด้วย “วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐาในวาระ 90 วัน” โดยนายพิธาย้ำว่าไม่ได้มาให้คะแนนรัฐบาล แต่เน้นวิเคราะห์ผลงานที่ผ่านมามากกว่า เพราะดูๆ แล้ว รัฐบาลยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน

ทั้งนี้ นายพิธา ได้ชื่นชมสิ่งที่รัฐบาล ‘คิดดี ทำได้’ ซึ่งได้แก่ การช่วยเหลือตัวประกันและการเยียวยาแรงงานไทยจากอิสราเอล การจัดหาวัคซีน HIV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดสและการพักหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งเห็นได้ว่ารัฐบาลเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น

แต่หลังจากชื่นชมผลงานรัฐบาลเสร็จ นายพิธา ก็ได้ยกสิ่งที่รัฐบาลยังทำแล้วยังไม่เข้าท่า และให้นำไปเปลี่ยนตามข้อเสนอแนะของตน

โดยสิ่งที่รัฐบาลยังสอบไม่ผ่าน นายพิธาได้แบ่งเป็นหัวข้อดังนี้

คิดไปทำไป

การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ของนโยบายเงินดิจิทัล ทั้งที่มาของเงิน เทคโนโลยีที่ใช้ และผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต และการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ รวมถึงเรื่องของโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งในนโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีกรรมเปลี่ยนมาแล้ว 4 ครั้ง จะเป็นการใช้งบประมาณที่เรา และลูกหลานต้องมาชดใช้ในอนาคต

นอกจากนี้ยังเป็นการเบียดบังงบประมาณที่สามารถใช้แก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ ในระยะยาวต่อได้ ซึ่งการที่รัฐบาลไม่คิดอย่างรอบคอบและเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้เกิดความสับสนในสังคม ซึ่งสิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาลคือ ต้องมีแผน 2 หากจะเอา ดิจิทัลวอลเล็ต ก็ไม่ควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนอีกแล้ว แต่หากจะไม่เอาดิจิทัล วอลเล็ต ก็จะต้อง มีความชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว

คิดสั้นไม่คิดยาว

เรื่องค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าไฟ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง และการลดค่ารถไฟฟ้า ที่มีแต่มาตรการระยะสั้นและยังไม่เห็นมาตรการการแก้ปัญหาระยะยาว เช่นเรื่องของการลดค่าไฟฟ้า ให้อยู่ที่ 3.99 บาท ต่อหน่วย หรือลดค่าโดยสาร รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ตอนนี้ยังไม่เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต้นต่อ

คิดใหญ่ทำเล็ก

เรื่องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ หรือการบริหารการท่องเที่ยวผ่านวีซ่าฟรี และการลดความเหลื่อมล้ำให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินส.ป.ก. และค่าแรงซึ่งเราเห็นนายกรัฐมนตรีสั่งการ เมื่อไม่ได้ตัวเลขที่ควรจะเป็น หรือตัวเลขที่ได้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ ซึ่งมีการแสดงออกถึงความไม่พอใจ โดยสิ่งที่รัฐบาลทำแล้วก็เป็นเรื่องที่ดี และมีความคล้ายคลึงกับนโยบายที่ก้าวไกลเคยเสนอไว้ ว่าคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ การเคาะงบประมาณ 5 พันล้านบาท สนับสนุน 11 อุตสาหกรรม หรือการทำ Winter festival และสงกรานต์ตลอดเมษายน

แต่สิ่งที่ควรจะเป็นคือ อยากเห็นการเสนอแก้กฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เพิ่มเสรีภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน หรือการแก้กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ เพื่อลดขั้นตอนขออนุญาตกองถ่ายหรือจัดเฟสติวัล หรือการสนับสนุนการรวมตัวของแรงงานฟรีแลนซ์ รวมไปถึงการแก้กฎกระทรวงสุราก้าวหน้า เป็นต้น

คิดอย่างทำอย่าง

ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเมือง เช่น ร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติที่มาของสสร. และไม่ชัดเจนว่าจะมี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่ การปฏิรูปกองทัพ ทั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่สภาฯ สมัยที่แล้ว ในการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยมีความคิดที่เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับพรรคก้าวไกล แต่การกระทำตอนนี้ค่อนข้างตรงข้ามกับสิ่งที่เคยคิดไว้

ทั้งนี้ นายพิธา เสนอว่า รัฐบาลควรมี โรดแมปที่ชัดเจน ที่ต้องการเห็นแผนการทำงานของรัฐบาล 1 ปี ต้องมีการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ และในฐานะรัฐบาลผสมก็ต้องทำงานให้มีเอกภาพมากกว่านี้ และควรศึกษารายละเอียดของโครงการที่จะทำให้ดีเสียก่อนที่จะประกาศออกไป และต้องเป็นแผนที่ประชาชนและสื่อมวลชน สามารถติดตามกับการทำงานของรัฐบาลได้ และมี KPI ที่ชัดเจน

 

หลังนายพิธาวิเคราะห์ผลงาน 90 วันของรัฐบาล เสร็จสิ้นลง ในวันเดียวกันนั้นเอง ทางฝั่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างภารกิจเยือนญี่ปุ่นเพื่อฟื้นฟูการลงทุนให้กับไทย ก็ ได้ออกมา ‘สวน’ นายพิธาว่า ยืนยันรัฐบาลทำงานชัด และมีผลงานที่จับต้องได้

โดยนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ ที่โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว ว่าเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้เดินทางไปประชุมระดับโลก รวมถึงพบผู้นำอาเซียนก็ไปมาเกือบหมดแล้ว อะไรที่ค้างคาใจก็ได้คุยกัน ส่วนเรื่อง ดิจิทัลวอลเล็ตก็ส่งเรื่องไปยังสำนักงานกฤษฎีกาแล้ว

ส่วนเรื่อง FTA ก็ยังเดินหน้าต่อ มั่นใจว่าหลายเรื่องเรามีความ กฎหมายเราก็ขับเคลื่อนต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ.อากาศสะอาด และสมรสเท่าเทียม

หากในสายตาท่าน อาจจะช้า ก็แค่ 1-2 สัปดาห์เท่านั้น เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเรามีโรดแมปที่ชัดเจน และคณะรัฐมนตรี กับคณะทำงานในที่นี้ มีความตั้งใจยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งผมพร้อมรับฟัง อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่ยังไม่ได้ทำ หรือเป็นที่ไม่พอใจฝ่ายค้านเรารับฟัง เพราะฝ่ายค้านคือตัวแทนประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์แล้วทำได้ หรืออะไรที่ยังไม่ได้ทำจะเร่งทำให้ นายกฯ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ได้ทำงานตลอด และเรื่องนี้ให้ประชาชนตัดสินดีกว่า

นายกลาพักผ่อน

ทั้งนี้ทั้งนั้น นาย เศรษฐา ทวีสิน ได้ขอลาพักจากการทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศ ตั้งแต่วันที่ 19 - 22 ธ.ค.66 โดยขอไปใช้เวลากับครอบครัว แต่ยืนยันว่าสามารถติดต่อได้ เพราะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้

ขอชาร์จแบตพลังชีวิตหน่อย! เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เผย ลาพักร้อน จากการทำหน้าที่ ผู้นำประเทศ คนที่ 30 ใน วันที่ 19 - 22 ธ.ค.66 โดย "นายกฯ" ขอไปใช้เวลากับครอบครัว แต่ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ เพราะยืนยันยังสามารถติดต่อได้ และอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้

 

ข่าวที่เกี่ยวก้อง 

• 'พิธา' วิเคราะห์ผลงาน 90 วันรัฐบาล คิดดีทำได้ แต่ยังคิดไปทำไป-คิดใหญ่ทำเล็ก  
• เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ขอลาพักร้อน 19-22 ธ.ค. 66 ให้ครอบครัว แต่ยังตามงานได้ตลอด
• อาหารไทย ผงาดคว้าอันดับ 17 ที่ดีที่สุดในโลกปี 2023 เมนูไหนเด็ดส่องเลย