แต่เดิม 'นิวยอร์ก' ถึงสถานที่แห่งโอกาส ความเจริญรุ่งเรือง และน่าอยู่อาศัย แต่ตอนนี้ไม่ใช่ไม่อีกต่อไป เพราะเมืองที่มั่งคั่งแห่งนี้กำลังสูญเสียประชากรมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะค่าครองชีพแพงเกินไป
สำนักข่าว นิวยอร์ก โพสต์ รายงานว่าในปี 2022 นิวยอร์กสูญเสียประชากรกว่า 50,000 คน และสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกายังเผยอีกว่า มีชาวนิวยอร์กมากถึง 27 % ที่เตรียมจะย้ายถิ่นฐานในอีก 5 ปีข้างหน้า และอีก 31% ขอทำงานถึงเกษียณก่อน แล้วจึงค่อยย้ายออก
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของนิวยอร์กแต่อย่างใด เพราะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีรายงานว่าชาวนิวยอร์กอพยพออกไปแล้วกว่า 1 ล้านคน โดยเฉลี่ยมีคนย้ายออก 300 คนในทุกๆ วัน แต่ในปี 2022 ถือว่าตัวเลขสูงขึ้นจนน่าตกใจ
ถึงแม้ไลฟ์สไตล์ในนิวยอร์กจะน่าดึงดูด แต่ก็ต้องแลกมากับค่าครองชีพที่สูงลิ่ว ซึ่งสิ่งนี้ถูกซ้ำเติมด้วยการแพร่ระบาดของโควิด 19 และสงครามรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานและอาหารพุ่งสูงขึ้นไปอีก และถึงแม้นิวยอร์กจะมีงานที่มั่นคงให้ทำมากมาย แต่เพราะมีการแข่งกันสูงกว่าเมืองอื่น ทำให้หลายคนต้องดิ้นรนหาที่ทางของตัวเอง และถ้าจะหางานที่ได้ค่าตอบแทนสูง ก็ต้องมีเส้นสายและความอดทนมากกว่าคนที่อยู่ในรัฐอื่น ทำให้นิวยอร์กมีทั้งคนย้ายเข้ามา และคนย้ายออกจำนวนมาก
ส่วนใครที่คิดว่าจะทำงานในธุรกิจขนาดเล็ก ก็ลืมไปได้เลย เพราะนิวยอร์กขึ้นชื่อเรื่อง การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างธุรกิจท้องถิ่นมาก เนื่องจากมีร้านอาหาร ร้านขายของเก่า และร้านค้าอื่นๆ อยู่แทบทุกหัวมุมเมืองที่ต่างก็แย่งลูกค้ากัน ทั้งหมดนี้ทำให้มีความไม่แน่นอนในอาชีพการงานสูง จึงทำให้มีคนเสี่ยงตกงานสูงขึ้นตามเช่นกัน จึงเป็นเรื่องใหญ่มาก หากจะใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดอยู่ในนิวยอร์ก
นั่นนำมาสู่ปัญหาต่อไปคือ ค่าบ้านและค่าเช่าที่พักยังคงสูงขึ้นทุกปี โดยค่าเช่าที่อยู่อาศัย ในแมนฮัตตันเวลานี้อยู่ที่ 5,249 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 184,161, บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และนิวยอร์กยังได้รับขนานนามว่าเมืองที่ไม่เคยหลับใหล หากอยู่ในชุมชนแออัดก็เป็นเรื่องยากที่จะไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ ซึ่งทำให้ชาวนิวยอร์กไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เหมือนนั่งอยู่ในบาร์หรือร้านปิ้งย่างที่วุ่นวายตลอดเวลา
อีกเหตุผลคือนิวยอร์ก ไม่เหมาะกับการเลี้ยงเด็ก เพราะไม่มีครอบครัวไหนอยากให้ลูกของพวกเขาเติบโตในเมืองที่มีแต่ความแออัด อากาศไม่ปลอดโปร่ง แถมโรงเรียนท้องถิ่นก็ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของครู แทนที่จะให้กับเด็ก นอกจากนี้นิวยอร์กยังไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย เนื่องจากเมื่อมีคนตกงานมากขึ้น ก็ย่อมมีการก่ออาชญากรรมขึ้นเช่นกัน โดยจากรายงานพบว่าในแมนฮัตตันมีคดีปล้นจี้ ข่มขืน และทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นในปี 2022 ซึ่งมากกว่าปี 2021 ถึง 60 %
สรุปแล้ว ชาวนิวยอร์กมองว่าทุกอย่างรอบตัวแพงไปหมด ตั้งแต่ค่าอาหาร ที่พัก พลังงาน การศึกษา ภาษี แต่คุณภาพชีวิตที่ได้กลับไม่คุ้มกัน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ต่อไปในระยะยาว
จากข้อมูลการย้ายถิ่นฐานจากสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาปี 2022 พบว่าชาวนิวยอร์กมากกว่าครึ่งล้านคนได้ย้ายไปยังรัฐต่อไปนี้
ฟลอริดา: 91,201 คน
นิวเจอร์ซีย์: 75,103 คน
คอนเนตทิคัต: 50,670 คน
เพนซิลเวเนีย: 44,807 คน
แคลิฟอร์เนีย: 31,255 คน
เท็กซัส: 30,890 คน
นอร์ทแคโรไลนา: 25,024 คน
แมสซาชูเซตส์: 21,186 คน
เวอร์จิเนีย: 17,516 คน
จอร์เจีย: 16,535 คน
เซาท์แคโรไลนา: 15,537 คน
อิลลินอยส์: 12,072 คน
แมริแลนด์: 9,453 คน
โคโลราโด: 8,526 คน
โอไฮโอ: 8,431 คน
มิชิแกน: 6,161 คน
เทนเนสซี: 5,821 คน
ดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย: 5,647 คน
แอริโซนา: 5,071 คน
วอชิงตัน: 4,732 คน
เดลาแวร์: 4,603 คน
อินเดียนา: 4,124 คน
อลาบามา: 3,827 คน
เนวาดา: 3,795 คน
ออริกอน: 3,712 คน
มินนิโซตา: 3,196 คน
เวอร์มอนต์: 3,196 คน
ลุยเซียนา: 2,946 คน
เมน: 2,885 คน
เปอร์โตริโก: 2,847 คน
มิสซูรี: 2,742 คน
นิวเม็กซิโก: 2,467 คน
อลาสก้า: 2,430 คน
โรดไอส์แลนด์: 2,324 คน
ยูทาห์: 2,236 คน
เคนตักกี้: 2,200 คน
นิวแฮมป์เชียร์: 1,939 คน
แคนซัส: 1,865 คน
โอคลาโฮมา: 1,840 คน
วิสคอนซิน: 1,626 คน
ฮาวาย: 982 คน
เวสต์เวอร์จิเนีย: 949 คน
ไอดาโฮ: 880 คน
อาร์คันซอ: 666 คน
เนแบรสกา: 554 คน
นอร์ทดาโคตา: 526 คน
ไวโอมิง: 463 คน
มอนแทนา: 441 คน
ไอโอวา: 381 คน
มิสซิสซิปปี้: 113 คน
เซาท์ดาโคตา: 52 คน
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเมืองนิวยอร์กเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างลอสแอนเจลิส ชิคาโก และวอชิงตัน ดีซี เช่นกัน เพราะคนหลายล้านกำลังมองหาย่านอยู่อาศัยแถบชานเมือง ที่ค่าครองชีพไม่สูงเท่าในเมืองใหญ่
อ้างอิง abc7ny.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง