เทรนด์อนาคตของโลกหลังจากนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของนวัตกรรม (innovation) ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการและความสะดวกสบายให้กับมนุษย์มากขึ้น แน่นอนว่าประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ต่างเร่งเดินหน้างานวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ตัวเองเป็น "ประเทศที่มีนวัตกรรมดีที่สุดในโลก"
เว็บไซต์ insidermonkey.com ได้จัดลำดับ “ประเทศที่มีนวัตกรรมดีที่สุดในโลก” โดยพิจารณาจาก ดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index) ที่จัดอันดับโดย World Intellectual Property Organization (WIPO) จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเหมือนมาตรวัดในการแข่งขันด้านนวัตกรรมของแต่ละประเทศทั่วโลก และทาง insidermonkey.com ยังพิจารณาจากข้อมูลของธนาคารโลกเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์ของ GDP ที่จัดสรรให้กับการวิจัยและพัฒนา หรือพูดง่ายๆก็คือ การลงทุนของแต่ละประเทศในส่วนของการวิจัยและพัฒนา ซึ่งลำดับก็จะแตกต่างจากลำดับของดัชนีนวัตกรรมโลก เพราะมีข้อหลังมาเกี่ยวด้วย
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนวัตกรรมระดับโลกก็มีการพิจรณาลักษณะหลายอย่าง รวมถึงลักษณะที่ไม่รวมอยู่ในนวัตกรรมด้วย ดัชนีนวัตกรรมระดับโลกจัดอันดับให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุด
นอกจากนี้ สวิสเซอร์แลนด์ยังมีความเป็นอยู่ที่มั่นคงและปลอดภัย มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่ดีและระบบการป้องกันอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารจัดการที่ดีและการสนับสนุนการผลิตที่ดีของทรัพยากรทางธรรมชาติ
ง่ายๆเลยก็คือ "สวิสเซอร์แลนด์" เป็นประเทศที่นำเสนอนวัตกรรมที่ดีที่สุดในโลก ด้วยมาตรฐานที่โดดเด่นและคุณภาพชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด
แต่แม้ว่ารัฐบาลสวิสจะทุ่มเทความพยายามและเงินจำนวนมากให้กับนวัตกรรม แต่ก็เทียบไม่ได้กับสหรัฐอเมริกาในเรื่องนวัตกรรม โดยพบว่า 10 จาก 15 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา
Platforms, Inc. เป็นบริษัทอเมริกันที่ใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนามากกว่า 35 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 ซึ่งมากกว่าการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของสวิตเซอร์แลนด์ 33 พันล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นไม่แปลกที่จะสงสัยว่าจริงๆแล้วประเทศไหนมีนวัตกรรมที่สูงที่สุดกันแน่
สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก 61 แห่ง และใช้เวลามากกว่าประเทศอื่นๆ ในด้านการวิจัยและพัฒนา ซานฟรานซิสโกของสหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่งนวัตกรรมของโลก ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง
สหราชอาณาจักร อยู่อันดับที่ 2 ในรายชื่อประเทศที่ใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนามากที่สุด เหตุผลประการหนึ่งก็คือยุทธศาสตร์เทคโนโลยีระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อยู่แถวหน้าด้านนวัตกรรม
จีนได้สถาปนาตัวเองเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรม 9 ใน 100 บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดเป็นของจีน นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน 3 ประเทศชั้นนำตามเงินที่ใช้ไปกับการวิจัยและพัฒนา จากรถไฟความเร็วสูงไปจนถึงวิธีการชำระเงินแบบดิจิทัล ซึ่งจีนกำลังกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว
สิ่งประดิษฐ์ของชาวเยอรมันในอดีต เช่น กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน ได้เปลี่ยนแปลงโลกของเรา ขณะนี้เยอรมนีกำลังใช้กลยุทธ์ไฮเทคใหม่ปี 2025 ตามแผนที่จะเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาจาก 3% ของ GDP เป็น 3.5% แนวโน้มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในเยอรมนีบางส่วนเกี่ยวข้องกับ AR หรือที่รู้จักกันในเรื่องของการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาผสมผสานเข้ากับโลกความเป็นจริงนั่นเอง
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากเป็นอันดับ 5 เป็นหนึ่งใน 5 ประเทศชั้นนำที่ใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ของญี่ปุ่นในอดีต เช่น รถไฟหัวกระสุน ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นเป็นผู้นำในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ โดยบริษัทอย่าง FANUC กำลังปูทางไปสู่อนาคต
แคนาดาเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับตามเงินที่ใช้ไปกับนวัตกรรม เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งจาก 100 แห่ง ซึ่งรวมถึง Shopify แคนาดายังเป็นที่ตั้งของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีมากมาย เช่น Hootsuite
เมื่อไม่นานนี้ ฝรั่งเศสได้เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในปี 2021 บริษัทสตาร์ทอัพสามารถระดมทุนได้ 12.4 พันล้านดอลลาร์ บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด 2 ใน 100 แห่งเป็นของฝรั่งเศส ปัจจัยที่กำหนดนวัตกรรมฝรั่งเศสในยุคที่กำลังจะมาถึงคือ "การทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยและภาคอุตสาหกรรม"
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากเป็นอันดับ 8 ของโลก โดย 4 ใน 100 บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นของประเทศเนเธอร์แลนด์ และชาวดัตช์ยังเป็นที่รู้จักกันอีกว่าเป็นผู้นำด้านดิจิทัลที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เกาหลีใต้เป็นอาณานิคมเกษตรกรรมของญี่ปุ่น แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ปัจจุบันก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก การปฏิรูปอย่างเป็นระบบที่ได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก และมีถึง 3 ใน 100 บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Samsung หนึ่งในบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก
ถึงแม้ว่า Global Innovation Index จัดอันดับให้สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก แต่เมื่อพิจารณาจากการลงทุนในเรื่องของการพัฒนาวิจัยแล้ว สวิสเซอร์แลนด์ก็ยังเป็น 1 ใน 10 อันดับต้นๆของโลกที่มีนวัตกรรมที่ดีที่สุด แม้ว่าจะอยู่ในอันดับ10 ก็ตาม
ผลการจัดอันดับของ Insider Monkey พบว่าประเทศไทย อยู่ที่อันดับที่ 17 โดยมีคะแนน 0.20
ประเทศไทยติด 1 ใน 30 ประเทศแรกตามปริมาณการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา ใช้เงิน 5.6 พันล้านดอลลาร์ในการวิจัยและพัฒนา ในปี 2564 ประเทศไทยมีเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ที่กว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ยังมีโซนไฮเทคขนาด 13,000 ตารางกิโลเมตรนอกกรุงเทพฯ และยังมี Delta Electronics Thailand PCL ผู้ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นบริษัทในเครือของ Delta Electronics ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับโลก
ผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก ประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 43 (ปี 2020 อันดับ 44) ถือเป็นอันดับ 3 ในอาเซียนรองจากสิงคโปร์ อันดับ 8 , มาเลเซีย อันดับ 36 และแซงเวียดนามที่ตามมาในอันดับ 44
อ้างอิงข้อมูล
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ