อิสราเอล-ฮามาสจะจบอย่างไร เมื่ออิสราเอลประกาศจะต้องกวาดล้างฮามาสให้สิ้นซาก เนทันยาฮู ลั่น "ถ้าเราไม่จำกัดพวกเขาให้หมด พวกเขาก็จะกลับมา"
สำนักข่าว CNN รายงานว่า นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ย้ำชัดว่า อิสราเอลจะทำสงครามต่อกลุ่มฮามาสให้ถึงที่สุด เพราะนี่ไม่ใช่เพียงแค่ปฏิบัติการหรือการลาดตระเวน แต่เป็นความพยายามที่จะกำจัดภัยคุกคามจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้หมด
“นี่มันไม่ใช่ปฏิบัติการหรือการลาดตระเวน แต่มันคือสงครามจนถึงที่สุด มันสำคัญต่อผมที่คุณจะต้องทราบเรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่การพูดปากเปล่า แต่มันมาจากหัวใจและจิตใจ ถ้าเราไม่จำกัดพวกเขาให้หมด พวกเขาก็จะกลับมา”
หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเป้าหมายของอิสราเอลที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า อิสราเอลจะเข้าไปยึดกาซาหรือไม่ แต่อิสราเอลยังคงเน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือการเอาชนะกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้ได้ก่อน
อิสราเอลเผยแพร่เอกสารเป้าหมายของสงครามครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 ประการ
- ต้องไม่มีรัฐบาลฮามาสในฉนวนกาซา ทำลายองค์กรฮามาส
- ทำลายศักยภาพการบริหาร ความเคลื่อนไหว และกองทัพของฮามาสและแนวร่วมปาเลสไตน์อิสลามญิฮัด (PIJ)
- สร้างระยะห่างและทำลายภัยคุกคามทั้งหมดบริเวณริมชายแดนฉนวนกาซา
- สลายองค์กรฮามาสไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
- ป้องกันและควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือจากการยกระดับเป็นสงคราม ดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพในแคว้นยูเดียและซามาเรีย และคงไว้ซึ่งความมั่นคงในอิสราเอล
ขณะที่ปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลในกาซาเวลานี้ ถูกระบุว่า เพื่อปราบปรามและกวาดล้างกลุ่มฮามาส โดยประเด็นที่อิสราเอลถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักคือการโจมตีโรงพยาบาล ซึ่งทางอิสราเอลอ้างว่า แกนนำและสมาชิกของกลุ่มฮามาส ใช้โรงพยาบาลหรือพื้นที่ใต้ดินของโรงพยาบาลเป็นแหล่งกบดาน เป็นแหล่งซ่องซุ่มและเก็บอาวุธ
ทางฝั่งปาเลสไตน์ กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์อัพเดทตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง นับจากวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอล โดยระบุว่า การโจมตีจากอิสราเอลทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้ว 11,180 ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็ก 4,609
คนไข้ 15 คนเสียชีวิตในโรงพยาบาลอัลชิฟา ทางตอนเหนือของกาซา หลังเกิดปัญหาไม่มีไฟฟ้า ไม่มีเชื้อเพลิง และขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และยา
นอกจากการทำสงครามในกาซาแล้ว เวลานี้ สงครามกำลังดำเนินรอบด้านอิสราเอล ทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นางออร์นา ซากิฟ เปิดเผยว่า อิสราเอลกำลังเผชิญสงครามรอบด้าน นอกจากฮามาสในกาซาแล้ว ยังมีฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีการปะทะกันกับกองทัพอิสราเอลตามแนวชายแดนทางตอนเหนือ ติดกับเลบานอน
แต่ไม่ใช่เพียงเท่านั้น นางซากิฟชี้ว่าในภูมิภาคตะวันออกกลางเวลานี้ มีเครือข่ายก่อการร้าย ทั้งกลุ่มติดอาวุธในซีเรีย กองกำลังทหารที่สนับสนุนอิหร่าน กลุ่มกบฏฮูธีในเยเมน และอิสราเอลเชื่อว่า กลุ่มต่างๆเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอิหร่าน
ปัจจุบันมีหลายประเทศพยายามเข้ามาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ เช่น อียิปต์ กาต้าร์ เป็นต้น และยังมีหน่วยงานระหว่างประเทศ อย่างเช่นสหประชาชาติที่ต้องการเรียกร้องให้เกิดการหยุดยิง
สำนักข่าวอัลจาซีราห์รายงานเกี่ยวกับความพยายามบนโต๊ะเจรจาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่จะหาข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา แต่ความพยายามดังกล่าวค่อนข้างซับซ้อน และยังไม่มีร่างมติตัวไหนบรรลุความเห็นชอบจากทุกฝ่าย
โดยร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก่อนหน้านี้ ถูกตีตกไป และสองร่างมติจากรัสเซียไม่ได้รับเสียงโหวตสนับสนุนมากพอ เพราะสหรัฐฯเป็นหนึ่งในประเทศที่โหวตไม่เห็นด้วย ขณะที่อีกร่างมติจากบราซิล ได้รับเสียงโหวตสนับสนุนจาก 15 ประเทศ แต่สหรัฐฯใช้สิทธิ์วีโต้ ส่วนร่างมติจากสหรัฐฯ ก็ถูกจีนและรัสเซียวีโต้เช่นกัน
ตามปกติแล้ว ห้าชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ มีสิทธิ์วีโต้ ที่ใช้คัดค้านมติใดก็ได้ที่พวกเขาไม่เห็นด้วย แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วยก็ตาม ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียเป็นสองชาติที่มักใช้สิทธิ์วีโต้บ่อยที่สุด และล่าสุด สหรัฐฯก็ใช้สิทธิ์วีโต้เพื่อปกป้องชาติพันธมิตรที่สำคัญอย่างอิสราเอล
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า วิกฤตอิสราเอลเวลานี้ มีตัวแปรและผู้เล่นมากหน้าหลายตา มากกว่าอิสราเอล ฮามาส หรือปาเลสไตน์ เพราะยังมีพี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ และอิหร่านเข้ามามีบทบาทสำคัญ อิสราเอลเองก็ทราบดี จึงเตรียมความพร้อมรับมือกับความยืดเยื้อของการทำสงครามครั้งนี้เอาไว้แล้ว แต่ตรงกันข้าม ประชาชนในกาซา พวกเขาไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเตรียมตัวรับมือสถานการณ์อะไร ในเวลานี้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปเท่านั้น ท่ามกลางสงครามที่ปะทุขึ้นตลอดทั้งวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง