ส่องบัญชีเงินฝากคนไทย ส่วนใหญ่ไม่ถึง 5 หมื่น แต่เงินดิจิทัล 10,000 ต้องลุ้น
เปิดตัวเลข บัญชีเงินฝากคนไทย ส่วนใหญ่ มีไม่ถึง 5 หมื่น แต่เพราะเหตุใด เงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง ทำไม เข้าเกณฑ์ดิจิทัลวอลเล็ต ยากมาก ทั้งที่ ตอนพรรคเพื่อไทย หาเสียง บอกไว้ว่า 16 ปีขึ้นไป ได้ทุกคน
เรื่องเงินเรื่องทองนับเป็นเรื่องใหญ่ของคนทุกคน เพราะหากไม่มีเงิน ชีวิตคงจะพุ่งชนกับปัญหาอุปสรรคมากมาย เพราะโลกแห่งทุนนิยม เงินเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิต นี่คือความจริงอันเป็นสัจนิรันดร์
ใครบอกว่าเงินไม่สำคัญ อันนั้นก็สุดแต่ใจ แต่หากลอง ร้องไห้บนกองเงินล้าน กับ ร้องไห้บนกองเศษเงินหลักสิบดูสิ ...มันเสียใจเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกันในพื้นฟูกที่รองรับอารมณ์ที่ต่างกัน
ณ เวลานี้ หากจะพูดเรื่องเงินๆ ทองๆ ในสังคมไทย มันคงหนีไม่พ้นเรื่อง เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่กลายเป็นกระแส แทรกซอนแทรกไซ้ไปในทุกวงสนทนา ไม่ว่าจะเป็นหลังแก้วกาแฟ หรือ หลังแก้วน้ำสีอำพัน
ในช่วงแรกๆ ก่อนการเลือกตั้ง 2566 พรรคเพื่อไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้หาเสียงไว้อย่าง หรูหรา ระบุว่า "เงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาทจะให้กับ ประชาชนคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปใช้จ่ายใกล้บ้านในรัศมี 4 กิโลเมตรผ่าน Digital Wallet โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับหมู่บ้าน ระดับชุมชน ในตลาดท้องถิ่น สร้าง ธุรกรรมระหว่างรายย่อย โดยคาดว่าจะใช้ได้ กุมภาพันธ์ 2567"
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา เงินดิจิทัล 10,000 บาท ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากซับซ้อนในเงื่อนไขขึ้นมาอีก เมื่อ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดแนวทางเงื่อนไขโครงการเเงินดิจิทัล 10,000 หมื่นบาท ด้วยการจำกัดกลุ่มผู้รับเงิน
โดยมีแนวทาง คนรวยหมดสิทธิ โดยได้ออกแนวทางตัดสิทธิผู้ที่มีเงินเดือน 2.5-5 หมื่นบาท หรือ แจกเฉพาะถือบัตรคนจน โดยจะชงข้อเสนอ 2 ทางเลือก ได้แก่
1. จำกัดเฉพาะผู้ถือบัตรคนจนที่มีอยู่ประมาณ 15-16 ล้านคน
2. ตัดกลุ่ม ที่มีรายได้สูงออกไป
โดยกลุ่มนี้ มีข้อเสนอ 2 ทางเลือก คือ
2.1. ตัดคนที่มีเงินเดือนมากกว่า 2.5 หมื่นบาท
และหรือมีเงินฝาก 1 แสนบาท
เมื่อตัดกลุ่มนี้ออกไปจะเหลือคนที่จะได้รับแจก 43 ล้านคน
2.2. ตัดคนที่มีเงินเดือนมากกว่า 5 หมื่นบาท
และหรือมีเงินฝากมากกว่า 5 แสนบาท
เมื่อตัดกลุ่มนี้ออกไปจะเหลือคนที่ได้รับแจก 49 ล้านคน
โดยหากรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะพิจารณาเกณฑ์เงินในบัญชีเงินฝากมาตีความถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย นั้น เรื่องนี้ ถือว่าเป็น "นามธรรม" มากๆ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า การพิจารณาจากเงินฝากในบัญชี จะสามารถคัดคนรวย และคนจน ออกจากกันได้หรือหรือไม่ ?
เพราะในความเป็นจริง คนรวย สามารถสะสมความมั่งคั่ง ได้หลายรูปแบบ ทั้งเงินฝาก (ซึ่งก็มีหลากหลายประเภท) การลงทุน คริปโท หรือ แม้กระทั่งการครอบครองทรัพย์สินในรูปแบบอสังหาริมทรัพย์และอื่นๆ
โดย ข้อมูลการฝากเงินออมทรัพย์ของคนไทย จากธนาคารแห่งประเทศไทย พบจากข้อมูลในปัจจุบัน (28 ต.ค.66)
1.เงินฝาก ไม่เกิน 50,000 จำนวนบัญชี 104.1 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 4.3 แสนล้าน
2.เงินฝาก 50,000 - 100,000 จำนวนบัญชี 3.6 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 2.9 แสนล้าน
3.เงินฝาก 100,000 - 200,000 จำนวนบัญชี 2.8 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 4.6 แสนล้าน
4.เงินฝาก 200,000 - 500,000 จำนวนบัญชี 2.6 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 9.9 แสนล้าน
5.เงินฝาก 500,000 - 1 ล้าน จำนวนบัญชี 1.2 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 1.1 ล้านล้าน
6.เงินฝาก 1 ล้าน - 10 ล้าน จำนวนบัญชี 1.2 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 4.4 ล้านล้าน
7.เงินฝาก 10 ล้าน - 25 ล้าน จำนวนบัญชี 59,671 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 1.5 ล้านล้าน
8.เงินฝาก 25 ล้าน - 50 ล้าน จำนวนบัญชี 18,239 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 1.1 ล้านล้าน
9.เงินฝาก 50 ล้าน - 100 ล้าน จำนวนบัญชี 8,302 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 1 ล้านล้าน
10.เงินฝาก 100 ล้าน - 200 ล้าน จำนวนบัญชี 3,663 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 8.9 แสนล้าน
11.เงินฝาก 200 ล้าน - 500 ล้าน จำนวนบัญชี 1,996 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 1 ล้านล้าน
12. เงินฝาก มากกว่า 500 ล้าน จำนวนบัญชี 964 บัญชี ยอดเงินฝากรวม 2.3 ล้านล้าน
รวม จำนวนบัญชี 115.8 ล้านบัญชี ยอดเงินฝากรวม 15.6 ล้านล้าน
ตัวเลขและสถิติ ไม่เคยโกหกใครอยู่แล้ว , จากข้อมูล จะพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ มีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาทในบัญชี โดยมีจำนวนบัญชีรวม 104.1 ล้านบัญชี รวมยอดเงินฝาก 4.3 แสนล้านบาท
ส่วนกรณีถ้ารัฐบาลเพื่อไทย เลือกใช้เกณฑ์ตัดสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท คนที่มีบัญชีเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออกไป จะมีบัญชีที่เข้าเกณฑ์ คือ กลุ่มไม่ได้รับสิทธิ์ในกลุ่ม 3 - กลุ่ม 12 หรือ คิดเป็นผู้ได้สิทธิราว 43 ล้านคน
แต่ถ้าหากรัฐบาลขยับขึ้นมา เลือกใช้เกณฑ์ตัดสิทธิเงินดิจิทัลคนที่มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก จะมีบัญชีที่เข้าเกณฑ์ คือ กลุ่มไม่ได้รับสิทธิในกลุ่ม 5 - กลุ่ม 12 หรือ คิดเป็นผู้ได้สิทธิ์ราว 49 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะที่จริงแล้ว โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท มันยังไม่สะเด็ดน้ำ ยังไม่นิ่ง และคำตอบของเรื่องนี้ ยังไม่มีการฟันธง อาจจะ คงแบบเดิม เหมือนตอนหาเสียง ก็เป็นได้...
.
แต่ที่แน่ๆ คนจำนวนไม่น้อย รอใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท จนแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว...
ที่มา bot.or.th
• รู้หรือไม่ 10 จังหวัด เงินฝากสูงสุด มีจังหวัดอะไรบ้าง
เมื่อแบ่งรายจังหวัดที่มียอดเงินฝาก-เงินกู้สูงสุด 10 อันดับแรกในประเทศไทย ข้อมูล ณ สิงหาคม 2566 เช่นกัน พบว่า จังหวัดที่มีเงินฝากสูงสุด และเงินกู้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร โดยจังหวัดที่มีเงินฝากสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่
กรุงเทพมหานคร จำนวน 10,452,078 ล้านบาท
นนทบุรี จำนวน 624,391 ล้านบาท
สมุทรปราการ จำนวน 560,399 ล้านบาท
ชลบุรี จำนวน 554,478 ล้านบาท
ปทุมธานี จำนวน 334,499 ล้านบาท
เชียงใหม่ จำนวน 297,453 ล้านบาท
นครปฐม จำนวน 226,360 ล้านบาท
สมุทรสาคร จำนวน 198,283 ล้านบาท
สงขลา จำนวน 192,693 ล้านบาท
ระยอง จำนวน 192,353 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
