svasdssvasds

"สัญญาณควันขาว" การเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หลังตำแหน่งว่างลง

"สัญญาณควันขาว" การเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หลังตำแหน่งว่างลง

การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทำให้ต้องมีการประชุมลับของพระคาดินัลเพื่อเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก 

SHORT CUT

  • การเลือกตั้งโป๊บพระองค์ใหม่ โดยพระคาดินัลทั่วโลกจะเดินทางมาประชุมลับที่นครวาติกัน ภายใน 15-20 วันหลังตำแหน่งว่างลง
  • สัญญาณควันสีขาวที่จะปล่อยผ่านปล่องของโบสถ์ซิสตีน บริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เป็นสัญญาณของการได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่
  • พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ไม่มีสิทธิ์เลือกตั้งเนื่องจากอายุเกินกว่า 80 ปี

การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทำให้ต้องมีการประชุมลับของพระคาดินัลเพื่อเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก 

หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขสูงสุดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก จำเป็นต้องมีการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า “การประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปา (Conclave)” ที่จะจัดขึ้นภายใน 15 ถึง 20 วันหลังจากตำแหน่งว่างลง โดยพระคาร์ดินัลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะเดินทางมายังกรุงโรมและประชุมลับในห้องปิดผนึก ณ วัดน้อยของพระสันตะปาปา (โบสถ์ซิสตีน) เพื่อเลือกตั้งผู้ที่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งองค์พระประมุขแห่งคริสตจักรองค์ใหม่

ทันทีที่การประชุมลับเริ่มขึ้น สมเด็จพระคาร์ดินัลทั้งหมดจะพักอยู่ ณ บ้านพักนักบุญมาร์ธาและไม่ปรากฎตัวนอกเขตวาติกันจนกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่จะได้รับเลือก โดยผู้ได้รับเลือกจะต้องได้รับคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ทั้งนี้พระคาร์ดินัลที่เข้าร่วมประชุมจะเขียนชื่อผู้ที่เห็นว่าเหมาะสมลงไปในบัตรเลือกตั้ง แล้วใส่เข้าไปในอ่างทองคำ

ถ้ายังไม่มีผู้ที่ได้รับเลือกเกิน 2 ใน 3 บัตรเลือกตั้งทั้งหมดจะถูกเผาในเตา พร้อมด้วยสารเคมีพิเศษที่ทำให้เกิดควันสีดำ (Fumata nera) ผ่านปล่องควันของวัดน้อยซิสติน แต่ถ้ามีผู้ได้คะแนนถึงข้อกำหนด บัตรเลือกตั้งของพระคาร์ดินัลก็จะถูกเผาเช่นกัน แต่จะใช้สารเคมีที่ก่อให้เกิดควันสีขาว (Fumata bianca) ผ่านปล่องเพื่อให้ประชาชนเห็นได้จากบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เป็นสัญลักษณ์ว่าการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่สำเร็จแล้ว

ในแต่ละวันจะมีการลงคะแนนมากสุด 4 ครั้ง หากยังไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงเพียงพอ จะมีการลงคะแนนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้พระสันตะปาปา แต่ถ้าเลือกถึง 3 วันแล้วยังไม่ได้ก็จะพัก 1 วัน ถ้าหลังจากการเลือกตั้งต่อกันอีก 7 ครั้งแล้วยังไม่ได้ ก็ให้หยุดพัก โดยทุก 7 ครั้งถ้าไม่ได้ต้องพักและให้สวดภาวนาและมีอภิปรายเล็กน้อยเพื่อให้เข้าใจ

อย่างไรก็ตาม การประชุมลับเพื่อเลือกตั้งองค์โป๊ปที่ยาวนานที่สุด คือ ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี (ตั้งแต่ปี ค.ศ.1268–1271) แต่โดยปกติแล้วจะใช้เวลาเลือกกันแค่เพียง 1-3 วันก็จะได้องค์พระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันองค์ใหม่ 

เมื่อการเลือกสำเร็จ เขาจะได้รับการถามว่า “คุณยอมรับหรือไม่?” หากตอบตกลง ก็จะถูกถามต่อว่า “คุณจะใช้พระนามใด?” จากนั้นเขาจะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดพระสันตะปาปา พระคาร์ดินัลอาวุโสก็จะเดินออกสู่ใจกลางมุขแห่งโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ และประกาศต่อสาธารณชนเป็นภาษาละติน โดยมีความหมายว่า "ข้าขอประกาศต่อทุกคนถึงความน่ายินดีอันยิ่งใหญ่ว่า พวกเรามีพระสันตะปาปาแล้ว" จากนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ก็ปรากฏตัวสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ และอีกไม่กี่วันถัดมาจึงมีการประกอบพิธีเฉลิมฉลององค์พระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

 

พระคาร์ดินัลไทยที่มีสิทธิ์เลือกตั้งโป๊บ 

พระคาดินัลที่มีสิทธิ์เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดโดยสังฆธรรมนูญ ดังนี้:

1. ต้องเป็นพระคาร์ดินัล (Cardinal) ที่แต่งตั้งโดยพระสันตะปาปา อาจเป็นพระสังฆราช (Bishop) หรือเป็นพระสงฆ์หรือแม้แต่สังฆานุกรได้ ถ้าได้รับอนุญาตพิเศษ

2. ต้องมีอายุต่ำกว่า 80 ปี พระคาร์ดินัลที่มีอายุ 80 ปีบริบูรณ์ก่อนวันว่างตำแหน่งพระสันตะปาปา จะหมดสิทธิ์ในการเข้าร่วมการเลือกตั้ง

3. ต้องไม่ถูกระงับหน้าที่ หรืออยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องผิดวินัย 

ในปี ค.ศ.2025 มีพระคาร์ดินัลที่มีสิทธิ์เลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่จำนวน 135 พระองค์ และพระคาร์ดินัล 14 พระองค์ที่จะมีอายุครบ 80 ปีและจะสูญเสียสิทธิ์ในการเลือกตั้ง  ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลดลงในช่วงปลายปี เช่นเดียวกับพระคาร์ดินัลของไทยในปัจจุบันคือ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู (Michael Michai Kitbunchu) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1983 ปัจจุบันมีอายุ 96 ปี หมดสิทธิ์ในการลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปา

ขณะที่สมเด็จพระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ปัจจุบันอายุ 75 ปี ดำรงตำแหน่งอัครมุขนายกมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ ได้รับแต่งตั้งโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เป็นพระคาร์ดินัลองค์ที่ สองของประเทศไทย ต่อจากพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู

 

ที่มา

Bangkok Archdiocese อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

related