svasdssvasds

ห้องอาบน้ำ ตัวบ่งบอกสถานะจากภาษีประชาชนที่มีตั้งแต่ยุคโรมัน

ห้องอาบน้ำ ตัวบ่งบอกสถานะจากภาษีประชาชนที่มีตั้งแต่ยุคโรมัน

ห้องอาบน้ำ ตัวบ่งบอกสถานะจากภาษีประชาชนที่มีตั้งแต่ยุคโรมัน จนถึงปัจจุบัน สตง. ไทยก็ทำตาม หรือนี่จะเป็นวัฒนธรรมของมนุษย์ทั่วโลก

SHORT CUT

  • ในยุคโรมัน ห้องอาบน้ำไม่ได้เป็นเพียงที่ชำระล้างร่างกาย แต่เป็นพื้นที่แสดงสถานะ ความมั่งคั่ง และอำนาจทางสังคม สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมที่หรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
  • ปรากฏการณ์ "ห้องอาบน้ำบ่งบอกสถานะ" ยังคงมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน แม้แต่ในอาคารราชการของประเทศไทย ก็มีการตั้งงบประมาณสำหรับห้องอาบน้ำในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งอาจสะท้อนแนวคิดเดียวกับยุคโรมัน
  • คำถามสำคัญคือ "ใครเป็นคนจ่าย" สำหรับห้องอาบน้ำเหล่านี้ หากมาจากภาษีของประชาชน ก็ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความคุ้มค่า เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในการสร้าง Thermae ในสมัยโรมัน

ห้องอาบน้ำ ตัวบ่งบอกสถานะจากภาษีประชาชนที่มีตั้งแต่ยุคโรมัน จนถึงปัจจุบัน สตง. ไทยก็ทำตาม หรือนี่จะเป็นวัฒนธรรมของมนุษย์ทั่วโลก

เมื่อพูดถึง “ห้องอาบน้ำ” ในยุคปัจจุบัน เราอาจนึกถึงพื้นที่ส่วนตัวเล็ก ๆ ที่มีไว้เพื่อชำระล้างร่างกายหลังวันอันเหน็ดเหนื่อย ทว่าในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะยุคโรมัน ห้องอาบน้ำไม่ได้เป็นแค่ที่ทำความสะอาด แต่คือพื้นที่แสดงสถานะ ความมั่งคั่ง และอำนาจทางสังคมอย่างชัดเจน ความหรูหราของสถาปัตยกรรม น้ำพุร้อน ระบบทำความร้อนใต้พื้น ไปจนถึงการออกแบบที่วิจิตร คือสิ่งที่สะท้อนถึงระบบชนชั้นในอาณาจักรโรมัน

แม้เวลาจะผ่านมากว่าสองพันปี แต่ปรากฏการณ์ “ห้องอาบน้ำบ่งบอกสถานะ” ก็ยังไม่จางหายไปจากสังคมมนุษย์ แม้แต่ในบางอาคารราชการของประเทศไทยก็ตาม

ห้องอาบน้ำในอาณาจักรโรมัน ที่ซักล้างร่างกายหรือสื่อวัดฐานะ?

กำเนิดของสปาโรมัน

ชาวโรมันให้ความสำคัญกับการอาบน้ำเป็นอย่างมาก การมีสุขลักษณะที่ดีไม่ได้เป็นแค่เรื่องสุขภาพ แต่เป็น “จริยธรรมของพลเมืองที่ดี” ห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือ Thermae ถูกสร้างขึ้นด้วยงบประมาณมหาศาลจากรัฐหรือนักการเมืองผู้ร่ำรวย ซึ่งต้องการแสดงตนว่าเป็นผู้อุปถัมภ์ที่เปี่ยมด้วยบารมี

สถาปัตยกรรมที่หรูหรา

Thermae ไม่ใช่เพียงห้องน้ำ หากแต่เป็น “คอมเพล็กซ์” ที่ประกอบไปด้วย ห้องอบไอน้ำ (Laconicum) ห้องอาบน้ำเย็น (Frigidarium) ห้องอาบน้ำอุ่น (Tepidarium) ห้องอาบน้ำร้อน (Caldarium) ห้องออกกำลังกาย (Palaestra) ห้องอ่านหนังสือ และสวนกลางแจ้ง

โดยผนังประดับด้วยหินอ่อนและโมเสก ระบบน้ำและความร้อนถูกออกแบบซับซ้อน และในบางกรณีมีการจัดแสดงงานศิลปะและประติมากรรมเพื่อเสริมบารมีให้เจ้าภาพผู้จัดสร้าง

ชนชั้นและสิทธิ์ในการเข้าถึง

แม้ว่าห้องอาบน้ำจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ แต่ “ระดับ” ของห้องอาบน้ำก็แตกต่างกัน บางแห่งมี “โซนพรีเมียม” สำหรับผู้มั่งคั่งหรือขุนนาง บางแห่งแยกห้องอาบน้ำสำหรับเพศชายและหญิง บางแห่งมีบริการพิเศษ เช่นการนวดน้ำมันจากทาส หรือการบำบัดสุขภาพจากแพทย์ส่วนตัว

จากน้ำร้อนโรมัน สู่โครงการไทยในโลกแห่งการจัดงบ

ในสังคมร่วมสมัย ห้องอาบน้ำก็ยังคงสะท้อนสถานะอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในหมู่อาคารราชการหรือโครงการงบประมาณที่ชวนตั้งคำถาม เช่น กรณี ตึกของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ถล่มจนเป็นข่าวใหญ่

แม้ตึกจะถล่ม แต่สิ่งที่ไม่ถล่มคือ “งบประมาณการสร้างห้องอาบน้ำ” ที่ปรากฏว่ามีการตั้งงบไว้ในระดับสูงจนน่าสนใจ ห้องอาบน้ำในตึก สตง. นั้นถูกออกแบบอย่าง “ใส่ใจในรายละเอียด” จนอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า หรือว่านี่จะเป็น Thermae สมัยใหม่ของข้าราชการไทย?

จะว่าไปก็เข้ากับแนวคิดแบบโรมันดีอยู่เหมือนกัน เมื่อรัฐมั่งคั่ง (ด้วยภาษีประชาชน) ห้องอาบน้ำของขุนนางก็ต้องสมฐานะ! แม้กำแพงจะร้าว แต่ห้องน้ำห้ามร้าว เพราะสถานะทางสังคมต้องไม่แตกหักตามปูนปะหน้า!

ห้องอาบน้ำในอาณาจักรโรมันไม่ใช่แค่สถานที่ทำความสะอาด แต่คือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและสถานะทางสังคมที่แท้จริง เมื่อเวลาผ่านไป หลักการเดียวกันนี้ก็ยังดำรงอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ทั่วโลก แม้กระทั่งในระบบราชการไทย ที่บางครั้งห้องอาบน้ำอาจมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารเสียอีก

สุดท้ายแล้ว คำถามสำคัญไม่ใช่ว่า “ห้องอาบน้ำหรูหรือไม่?” แต่คือ “ใครเป็นคนจ่ายเพื่อห้องอาบน้ำนั้น?” หากคำตอบคือประชาชนผู้เสียภาษี ก็ชวนให้ย้อนกลับไปมองสมัยโรมันอีกครั้งว่า แม้พวกเขาจะสร้าง Thermae จากภาษีของประชาชน แต่ก็อย่างน้อย...ตึกไม่ถล่ม

อ้างอิง

สารคดี / ชาญไพบูลย์ / Thailibrary / Britannica / EnglishHistory / WorldHistory / HistoryCooperative /

related