นายกฯ แพทองธาร สั่งทบทวนตรวจสอบตึก สตง. ถล่ม ดึง 4 สถาบันด้านวิศวกรรม ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง จำลองเหตุ หาคนรับผิดภายใน 90 วัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังรับฟังรายงานจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 11 แล้ว
นายกรัฐมนตรีระบุว่า จากการพูดคุยและสรุปในที่ประชุม พบว่ามีหลายประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยสิ่งแรกที่รัฐบาลต้องการสื่อสารกับประชาชนคือ ขอให้เชื่อมั่นในกฎหมายและมาตรฐานการก่อสร้างอาคารของไทย ซึ่งถูกออกแบบมาให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในระดับที่เกิดขึ้นได้จริง อย่างไรก็ตาม อาคารที่สามารถยืนหยัดได้ภายใต้แรงแผ่นดินไหวจะต้องก่อสร้างตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนดไว้จริง ๆ
ในกรณีของตึก สตง. ที่เกิดการถล่มนั้น ถือเป็นจุดเดียวที่เกิดความเสียหายร้ายแรง รัฐบาลจึงตั้งคำถามหลายข้อ ตั้งแต่ต้นทางของการก่อสร้าง ไปจนถึงกระบวนการอนุมัติและการควบคุมคุณภาพตลอดโครงการ ซึ่งขณะนี้ได้มีคำสั่งให้เคลียร์พื้นที่ไซต์ก่อสร้าง โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะสามารถตรวจสอบเชิงลึกเพิ่มเติมได้
เพื่อหาคำตอบว่าเหตุใดอาคารจึงพังถล่มลงมาอย่างไม่คาดคิด รัฐบาลได้มอบหมายให้ 4 สถาบันการศึกษา ทำโมเดลจำลองเหตุการณ์จริง โดยแต่ละสถาบันจะวิเคราะห์ในแนวทางของตนเองอย่างเป็นอิสระ เพื่อเปรียบเทียบและหาข้อสรุปร่วมกันที่เชื่อถือได้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า แม้กระบวนการนี้จะใช้เวลาราว 90 วัน แต่ก็ได้สอบถามไปยังทีมงานว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเร่งรัดให้เร็วกว่านั้น ทว่าด้วยความซับซ้อนของปัจจัยต่าง ๆ ทำให้ต้องใช้เวลาตามกรอบดังกล่าว เพื่อความแม่นยำและความโปร่งใสต่อสาธารณชน
ในระหว่างที่รอผลจากการจำลองเหตุการณ์ รัฐบาลยังได้สั่งการให้มีการทบทวนกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติอาคารใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเคยมีประสบการณ์สร้างอาคารในภาคเอกชนมาก่อน จึงทราบดีว่ามีขั้นตอนการตรวจสอบจำนวนมากที่ต้องผ่าน ซึ่งครั้งนี้จึงจะนำมาทบทวนใหม่ทั้งหมดว่า ระบบการอนุมัติและการตรวจสอบอาคารเหล่านั้น มีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ และเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือเปล่า โดยเป้าหมายคือการปรับปรุงให้กระบวนการมีความคล่องตัวขึ้น แต่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือเรื่องของวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะคุณภาพของเหล็กที่ใช้ในโครงการดังกล่าว นายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด ร่วมกับสถาบันวิศวกรรมที่เข้าร่วมการวิเคราะห์ เพื่อหาว่าองค์ประกอบใดของวัสดุหรือโครงสร้างที่อาจนำไปสู่การพังถล่มของอาคาร
สุดท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าเกิดการละเมิดกฎหมาย ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน หรือมีการปล่อยปละละเลยในกระบวนการใด ๆ ก็ตาม จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายควบคู่ไปกับการแถลงผลการตรวจสอบในอีก 90 วันข้างหน้า โดยรัฐบาลจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดจนกว่าทุกอย่างจะกระจ่างชัด