เทรนด์เจนภาพสไตล์ Studio Ghibli เต็มโซเชียล ทำไมสไตล์จิบลิถึงฮิต
ChatGPT จุดกระแสภาพสไตล์ Ghibli สุดไวรัลทั่วโซเชียล แต่เบื้องหลังความสนุกคือคำถามเรื่องลิขสิทธิ์ "จริยธรรม" ?
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกออนไลน์ต่างพูดถึง “Ghibli-style images” ที่กลายเป็นไวรัลแบบฉุดไม่อยู่ หลัง ChatGPT เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดภาพถ่ายของตัวเอง และใช้ AI แปลงภาพนั้นให้ออกมาเป็นลายเส้นสไตล์อนิเมะคลาสสิกในแบบ Studio Ghibli จนเกิดกระแสแชร์ภาพ "Ghiblified" กันทั่วทั้งโซเชียล
ทำไมสไตล์ของ Ghibli ถึงน่าดึงดูดขนาดนี้ ?
การที่ ฟีเจอร์ใหม่นี้ของ ChatGPT สามารถสร้างงานภาพในหลายสไตล์ แต่สไตล์ Ghibli กลับได้รับความนิยมมากที่สุด สิ่งนี้ก็บ่งบอกชัดเจน ว่าลายเส้นต้นฉบับของ Ghibli นั้น เป็นที่ชื่อชอบของคนทั่วโลกอย่างแท้จริง
Studio Ghibli ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยสองผู้กำกับในตำนานอย่าง ฮายาโอะ มิยาซากิ และ อิซาโอะ ทาคาฮาตะ จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นสตูดิโอภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก Ghibli ได้สร้างผลงานอันเป็นที่จดจำ เช่น My Neighbor Totoro, Princess Mononoke, Spirited Away และ Howl's Moving Castle
สิ่งที่ทำให้ สไตล์ของ Ghibli ไม่เหมือนใคร คือ “ความรู้สึก” ที่แฝงอยู่ในทุกเฟรม ลายเส้นตัวละครของ Ghibli มีความดูเรียบง่ายแต่คนดูจำได้ทันทีที่เห็น ตัวละครมักถูกวาดด้วยดวงตาขนาดใหญ่ที่แสดงความรู้สึกได้อย่างชัดเจน และมีการใช้รายละเอียดบนใบหน้าแค่เพียงเล็กน้อย แต่สามารถสื่อสารอารมณ์มาถึงคนดูจนเราเข้าใจพวกเขาได้
หนึ่งในจุดเด่นของ Studio Ghibli คือความมุ่งมั่นในการใช้เทคนิคแอนิเมชันวาดมือ ซึ่งยังคงโดดเด่นในยุคที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่หันไปใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก เทคนิคแบบดั้งเดิมนี้ช่วยเติมความอบอุ่นและความรู้สึกเป็นธรรมชาติให้กับภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือฉากโรงอาบน้ำใน Spirited Away ซึ่งเต็มไปด้วยรายละเอียดอันน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน ไอน้ำที่ลอยขึ้นจากบ่ออาบน้ำ หรือเหล่าวิญญาณที่เคลื่อนไหวอยู่เต็มไปหมด ทุกฉากล้วนถูกวาดอย่างประณีต
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมคือฉากบินใน Howl's Moving Castle การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล การเปลี่ยนมุมมองอย่างไร้รอยต่อ และรายละเอียดของปราสาทเครื่องกล ล้วนแสดงให้เห็นถึงความชำนาญขั้นสูงในการใช้แอนิเมชันวาดมือของสตูดิโอ
AI ‘สร้างสรรค์’ หรือ ‘ทำลาย’ ?
อย่างไรก็ตามการที่ ChatGPT สามารถสร้างภาพในสไตล์ Ghibli ได้เหมือนมาก ก็ทำให้เกิดคำถามตามมาถึง “ความเหมาะสม” โดยเฉพาะในประเด็นเรื่อง ลิขสิทธิ์และจริยธรรม แม้ภาพเหล่านี้จะไม่ได้คัดลอกจากต้นฉบับโดยตรง แต่การเลียนแบบลายเส้นที่ชัดเจนและใช้ชื่อ "Ghibli" อ้างอิง ก็อาจถูกมองว่าเป็นการละเมิดแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ของศิลปินต้นฉบับ เพราะ ‘ฮายาโอะ มิยาซากิ’ ผู้กำกับ Ghibli ก็ต่อต้านการใช้ AI สร้างสรรค์ผลงานอยู่แล้ว
รายการของช่อง NHK ตอนหนึ่งในปี 2016 เขาเคยกล่าวหลังดูสื่อ AI ว่า "ผมรู้สึกขยะแขยงอย่างรุนแรง… นี่คือการดูหมิ่นชีวิตมนุษย์" และคำกล่าวของเขาถูกอ้างอิงอย่างแพร่หลายในการถกเถียงเรื่องศิลปะ vs เทคโนโลยี จนถึงทุกวันนี้
แต่ปัญหาไม่ใช่การที่คนทั่วไปสร้างภาพน่ารัก ๆ เพื่อความสนุกของตัวเอง แต่ปัญหาคือเมื่อบริษัทใหญ่ ๆ ขโมยผลงานของทุกคนไปฝึก AI แล้วนำมาใช้แทนแรงงานมนุษย์ จนคนต้องตกงาน และเมื่อสไตล์ ของ Studio Ghibli และ Pixar ซึ่งยึดแนวทางสันติภาพมาตลอด ถูกนำไปใช้สร้าง สุนทรพจน์แห่งความเกลียดชัง หรือ โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ก็จะเจตนารมณ์ของต้นฉบับอย่างสิ้นเชิง
แม้ OpenAI จะยังไม่ชี้แจงว่าการฝึก AI ให้สร้างภาพสไตล์ Ghibli ได้รับอนุญาตหรือไม่ แต่ประเด็นนี้กำลังถูกจับตามองท่ามกลางการผลักดัน กฎหมาย AI Act ของสหภาพยุโรป ที่เน้นให้ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์มากกว่าทดแทน เหตุการณ์นี้สะท้อนความขัดแย้งระหว่างนวัตกรรมไร้ขอบเขตกับจริยธรรม ในวันที่ AI เริ่มเข้าไปแตะพื้นที่ละเอียดอ่อนอย่าง “ความคิดสร้างสรรค์” ของมนุษย์
ที่มา : bangkokbiznews,morphstudio
