SHORT CUT
เปิดวิธีสังเกตรอยแตกบนผนังทั้ง 4 แบบ บอกระดับความเสี่ยงของอาคาร เร่งเช็กด่วนหลังเกิดแผ่นดินไหว ก่อนเกิดอันตรายซ้ำสอง...
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมียนมา ที่ระดับ 8.2 ในวันที่ 28 มีนาคม 20255 ส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงผืนแผ่นดินในไทยด้วย อาคารน้อยใหญ่ต่างก็เผชิญกับเคราะห์กรรมที่แตกต่างกันไป รวมไปจนถึงร่องรอยบาดแผลที่ปรากฏให้เห็นตามผนัง ในหลายๆที่ ราวกับเป็นเครื่องหมายแห่งความเสียหายที่ธรรมชาติได้ทิ้งไว้
รอยแตกบนผนัง อาคารเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ริ้วรอยธรรมดา หากแต่เป็นดั่งภาษาที่อาคารถ่ายทอดความแข็งแกร่ง และระดับความอันตรายที่ซ่อนอยู่ภายใน การทำความเข้าใจถึงลักษณะของรอยแตกแต่ละประเภท จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสถานการณ์ และดำเนินการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ซึ่งรอยแตกที่พบบ่อยสามารถจำแนกได้เป็น 4 รูปแบบหลัก ดังนี้
รอยแตกประเภทนี้มีความละเอียดอ่อน ประหนึ่งเส้นผม หรือมีความกว้างไม่เกินขอบบัตรเครดิตที่เราคุ้นเคย โดยส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตรายร้ายแรงนัก ทว่าก็ไม่ควรละเลย เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต
ระดับความฉุกเฉิน: ต่ำ
รอยแตกที่ปรากฏในแนวตั้ง อาจมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ หากแต่สิ่งที่ต้องพึงระวังเป็นพิเศษคือ รอยแตกที่มีความกว้างตั้งแต่ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งบ่งชี้ถึงความผิดปกติของโครงสร้างที่ต้องการการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน
ระดับความฉุกเฉิน: ต่ำถึงปานกลาง
ภาพจาก National Association of Realtors
รอยแตกที่ทอดตัวในแนวราบตามผนัง ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด ล้วนเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่ซับซ้อนในส่วนรับน้ำหนักของอาคาร การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ระดับความฉุกเฉิน: สูง
รอยแตกที่เฉียงทำมุม 30-70 องศากับผนัง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ ไม่ว่ารอยแตกนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดถี่ถ้วนจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้
ระดับความฉุกเฉิน: สูง
ที่มา nar.realtor
ข่าวที่เกี่ยวข้อง