แพทองธาร นายกฯ แถลงด่วน ‘แผ่นดินไหว’ ประกาศ ‘กทม.’ พื้นที่ฉุกเฉิน

เฝ้าระวังอีก! จะมีอาฟเตอร์ช็อกภายใน 2 ชม ความแรงจะน้องลงเรื่อย ๆ ใน 24 ชม. มีสิทธิเกิดได้อีก สุวรรณภูมิ ยัน ไม่มีเหตุการร์น่าเป็ฯห่วง เป็ฯปกติ 

แพทองธาร สั่งการด่วน รับมือแผ่นดินไหว เน้นย้ำความปลอดภัยประชาชน 

ภายหลังการประชุมเร่งด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ จังหวัดภูเก็ต นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อรับมือสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมสั่งการให้ทุกภาคส่วนบูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่
 

มาตรการเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

• ระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้รับมอบหมายให้พัฒนาระบบเตือนภัยผ่านโทรศัพท์มือถือ (Cell Broadcast) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ประชาชนสามารถรับทราบข้อมูลและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
• การดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบ: กระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ได้รับคำสั่งให้สนับสนุนกำลังพลและหน่วยงานความมั่นคง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มกำลัง
• การคาดการณ์และป้องกันผลกระทบ: กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จะดำเนินการคาดการณ์ผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงมาตรการป้องกันอาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้นตามมา
• การบัญชาการเหตุการณ์และประสานงาน: กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเป็นหน่วยงานหลักในการบัญชาการเหตุการณ์ โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
• การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข: กระทรวงสาธารณสุขได้รับมอบหมายให้เตรียมโรงพยาบาลและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้การช่วยเหลือทางการแพทย์เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
• การรายงานสถานการณ์ที่ถูกต้อง: สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) จะเป็นช่องทางหลักในการรายงานสถานการณ์ที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันแก่ประชาชน เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและการเผยแพร่ข่าวลือ
ขอความร่วมมือประชาชน
 

นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือประชาชนทุกท่านในการรับฟังข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการโดยตรง ผ่านศูนย์ปฏิบัติการทางราชการเท่านั้น เพื่อป้องกันการสร้างความตื่นตระหนกและลดการเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง

การติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่จังหวัดภูเก็ต นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด