ปภ. ลดระดับสาธารณภัยแผ่นดินไหวเป็นระดับ 2 ส่งจังหวัดจัดการต่อ

วันที่ 30 มี.ค. 68 นายภาสกร บุญญลักษม์​ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมา ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 18 จังหวัด มีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 591 หลังคาเรือน วัด 55 แห่ง โรงพยาบาล 86 แห่ง อาคาร 9 แห่ง โรงเรียน 52 แห่ง และสถานที่ราชการ 25 แห่ง โซนภาคเหนือเสียหายไม่รุนแรงมาก เช่น อาคารร้าว ตึกร้าว ผนังปูนร่วง ส่วนกทม. พื้นที่เสียหายมากที่สุดคือ อาคาร สตง.แห่งใหม่

ได้ประเมินแล้ว สรุปว่าความรุนแรงไม่ขยายวงกว้าง สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ได้ประกาศเพื่อให้ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ลดระดับความรุนแรงของสาธารณภัยจากขนาด 3 (การจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่) ลงเป็นระดับ 2 (การจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง) เพื่อ คืนอำนาจให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ได้

ด้าน รศ.ทวิดา กลมเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การกู้ภัยที่ตึก สตง.ยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยมีทีมจากนานาชาติร่วมด้วย เพื่อค้นหาและรักษาความปลอดภัย จะจำกัดให้ผู้ที่เข้าออกในพื้นที่ค้นหาต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น

สถานการณ์ใน กทม. มียอดผู้เสียชีวิตรวมทุกพื้นที่ 18 คนและผู้บาดเจ็บ 33 คน ส่วนเรื่องความมั่นคงของตัวอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯ ข้อมูล ณ เวลา 18.00 น.วันที่ 30 มี.ค. มีประชาชนแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue และสายด่วน 1555 รวมกัน 12,872 เรื่อง ได้ตรวจสอบแล้ว 315 อาคาร ประกาศระงับใช้ 2 อาคาร

ในวันที่ 31 มี.ค. จะเปิดทางด่วนดินแดงได้ในเวลา 05:00 น. ต่ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยง 2 เส้นทาง คือ บริเวณบางโพ ซึ่งยังปิดการสัญจรเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยจากเหตุการณ์เครนถล่ม และถนนกำแพงเพชร 2 เพื่อค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์อาคารถล่ม

รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการแล้ว แต่สายสีชมพูต้องตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม เรือด่วนเจ้าพระยาจะเพิ่มเที่ยวเรือ 20 เที่ยวที่ 3 ท่าเรือใหญ่คือ ท่าเรือสาทร ท่าเรือสี่พระยาและท่าเรือเทเวศน์ ส่วนการสัญจรในคลองแสนแสบยังเดินเรือตามปกติ