"ใครไม่อาย ผมอาย" รู้จัก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตำรวจล้านคอนเนคชั่น

รู้จักบิ๊กอ๊อด นายตำรวจผู้กว้างขวางในวงการการเมืองและธุรกิจ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หรือ บิ๊กอ๊อด อดีต ผบ.ตร.คนที่ 10 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งสมัย คสช. (ปี 2557-2558) นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา มีผลงานด้านคดีความมั่นคงช่วงการชุมนุมทางการเมืองช่วงปี 2557

 

เคยเป็นนายตำรวจติดตาม มนตรี พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคมและ รมว.คมนาคม มาอย่างยาวนาน จนได้รับความไว้วางใจเสมือนเลขานุการส่วนตัว

 

พล.ต.อ.สมยศ สนิทชิดเชื้อกับนักการเมืองหลายกลุ่ม เช่น นายเนวิน ชิดชอบ เป็นลูกน้องพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และเพื่อนร่วมงานของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และมีความสัมพันธ์อันดีกับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจคิง เพาเวอร์ และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ชวน หลีกภัย และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

พล.ต.อ.สมยศ ถือเป็นนายตำรวจนักธุรกิจตัวยง มีชื่อเสียงในแวดวงหุ้นและปิโตรเลียมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เวิลด์แก๊ส (WP Energy) ทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมในประเทศไทย รวมถึงถือหุ้นคิง เพาเวอร์ ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ที่เปิดกระจายอยู่ตามสนามบิน ครอบคลุมไปถึงต่างประเทศ

จากผู้อาสามาล้างบางวงการฟุตบอล สู่ข้อสงสัยว่าหากินกับวงการฟุตบอลเสียเอง?

“ใครไม่อายผมอาย” วลีเด็ดของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กล่าวหลังทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติญี่ปุ่นในยุค “ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” เฮดโค้ชผู้เรียกคืนความนิยมและศรัทธาฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างสุดขีดในช่วงหนึ่ง ทำให้ “ซิโก้” ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจในสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมถอนบริษัทที่ภรรยาซิโก้เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของทีมชาติออกไป

 

“หากผมได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ลงคะแนนให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สิ่งที่ไม่ดีในวงการฟุตบอล ทั้งแนวคิด ทัศนคติ การกระทำ และพฤติรรมที่แย่ๆ ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นที่ยอมรับของสโมสรส่วนใหญ่ และแฟนฟุตบอล ผมจะกำจัดให้หมดสิ้นไป” เป็นคำสัญญาของ พล.ต.อ.สมยศ ก่อนเข้ามารับตำแหน่งนี้

 

อีกกรณีสำคัญคือการฉีกสัญญา บ.สยามสปอร์ต และสมาคมฯ เอกชนที่เข้ามาลงทุนถ่ายทอดการแข่งขันไทยลีก อ้างว่าการแบ่งผลประโยชน์ไม่เป็นธรรม แต่สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาให้สมาคมฯ เป็นฝ่ายผิดต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 360 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย)

“อิจฉาคนเข้ามาเป็นนายกสมาคมคนใหม่ ที่เข้ามาแล้วมีพร้อมทุกอย่าง แถมไม่ต้องสร้างอะไรใหม่เลย คนเราวาสนาไม่เท่ากันจริงๆ” พล.ต.อ.สมยศ กล่าวก่อนลงจากตำแหน่งเมื่อเดือน ก.พ. 67

 

สวนทางกับข้อมูลที่นายกสมาคมคนใหม่ “นวลพรรณ ล่ำซำ” ออกมาแถลงฯ ในวันที่ 11 มี.ค. 68 หลังเข้ามารับตำแหน่งครบ 1 ปี พบความผิดปกติในประเด็นต่างๆ ดังนี้

 

• สมาคมฯ มีเงินสด 27.7 ล้านบาท แต่มีหนี้สิน 132.47 ล้านบาท กู้ยืมจาก FIFA อีก 170 ล้านบาท ต้องผ่อนจ่ายปีละ 17 ล้านบาท
• สมาคมฯแพ้คดีต้องชำระคืนสยามสปอร์ตราว 500 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย
• สมาคมฯเคยขายสิทธิถ่ายทอดไทยลีกให้ต่างประเทศ ปัจจุบันซื้อกลับมาแล้ว
• สมาคมฯ ขายข้อมูล Data Rights และ Gaming Rights ของฟุตบอลไทยลีกและทีมชาติไทยให้บริษัทต่างชาติ ซึ่งเอกชนต่างชาติไม่ยอมขายคืน
• พล.ต.อ.สมยศ รับเงินเดือนตำแหน่งนายกฯ สมาคมและประธานไทยลีก เดือนละ 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส

 

อดีตนายกฯ สมยศ เตรียมโต้กลับ หลังถูกขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย

หลังจากมาดามแป้ง นวลพรรณ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ออกมาเปิดโปงข้อมูลภายในสมาคมต่อสาธารณะ และจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งต่ออดีตนายกสมาคมฯ ที่สร้างความเสียหายจากการฉีกสัญญาโดยมิชอบ

 

มีรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ ทราบเรื่องการถูกพาดพิงแล้ว คาดว่าจะมีการออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณะภายใน 1-2 วันนี้ ต้องติดตามต่อไป