เหตุผลที่ฮิตเลอร์เกลียดชังชาวยิว-ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2

พลันข่าว คนอิสราเอลล้นอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ “ยิว ยึด ปาย” ได้สร้างกระแสและเป็นที่สนใจของคนไทยทั่วประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์คนอิสราเอลที่เรียกได้ว่าเข้ามาสร้างอาณาจักร ในพื้นที่ประเทศไทย ทำเอาเกิดการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ทำไมคนอิสราเอล หรือ ยิว สามารถตั้งชุมชนที่ไม่สนใจคนในประเทศไทยได้ และใช้ชีวิตได้อิสระ

ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตความชาตินิยมของเยอรมนีในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อคนเยอรมนีเกิดอาการคลั่งชาติ รวมถึงมีบุรุษนาม อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ สามารถใช้ความชาตินิยมรวมความเป็นหนึ่งของคนในชาติ โดยมุ่งเป้าไปที่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ที่เขาเชื่อว่าเป็นคนทำให้เยอรมนีตกต่ำได้สำเร็จ

ความเกลียดชังชาวยิว (Antisemitism) เป็นปรากฏการณ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง และทวีความรุนแรงขึ้นในยุคของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซีเยอรมัน ความเกลียดชังนี้ นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Holocaust) ที่คร่าชีวิตชาวยิวไปกว่าหกล้านคน บทความนี้จะสำรวจถึงเหตุผลที่ฮิตเลอร์และชาวเยอรมันเกลียดชาวยิว รวมถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้น

"ต้นกำเนิดความเกลียดชังชาวยิวในเยอรมนี"

อิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์: ต้องบอกว่าในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ ค่อนข้างแพร่กระจายไปทำั่วยุโรป

ฮิตเลอร์ต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ และมองว่าชาวยิวมีอิทธิพลในแวดวงคอมมิวนิสต์ ทำให้ฮิตเลอร์เชื่อว่าชาวยิวสนับสนุนการต่อสู้ทางชนชั้น

ความเชื่อเรื่องการสมคบคิด: ฮิตเลอร์เชื่อว่าชาวยิวกำลังวางแผนที่จะครองโลก และควบคุมกลไกเศรษฐกิจในประเทศเยอรมนี เขามองว่าชาวยิวเป็น "ปีศาจร้าย" ที่เป็นคู่แข่งของชาวอารยัน

ความอิจฉาริษยา: ฮิตเลอร์อิจฉาชาวยิวที่ร่ำรวยและมีอำนาจควบคุมเศรษฐกิจ พ่อค้าส่วนใหญ่มักเป็นชาวยิวที่ได้รับผลประโยชน์จากการทำธุรกิจ

ทฤษฎี Master Race: ฮิตเลอร์เชื่อว่าเชื้อชาติอารยันของตนเป็นเชื้อชาติที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ที่สุด และมองว่าชาวยิวเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความแข็งแกร่งของชนเผ่าอารยัน

ความเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับชาวยิว: ฮิตเลอร์เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าชาวยิวกำลังควบคุมโลก

การเมืองและนโยบายชาตินิยม: ในช่วงที่ฮิตเลอร์เข้าสู่วงการการเมือง ประเทศเยอรมนีมีนโยบายชาตินิยม ฮิตเลอร์มองว่าชนเผ่าของตนเป็นคนส่วนน้อยในประเทศ แต่ชาวยิวกลับมีอำนาจในการควบคุมการเงินและเศรษฐกิจ

อิทธิพลจากนักเขียนและนักการเมือง: ฮิตเลอร์ได้รับอิทธิพลจากนักเขียนและนักการเมืองหลายคนที่มีแนวคิดต่อต้านชาวยิว เช่น ยอร์จ ลันซ์ ฟอน บีเบนเฟล, ชาลส์ ดาร์วิน และจอร์จ ฟอน เชิร์นเนอร์

ความเชื่อทางศาสนา: ความขัดแย้งระหว่างชาวคริสเตียนและชาวยิวที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยชาวคริสเตียนมองว่าชาวยิวเป็นสาเหตุที่ทำให้พระเยซูถูกตรึงกางเขน

เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Holocaust)

การกีดกันและแบ่งแยก: พรรคนาซีได้ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อกีดกันชาวยิวออกจากชีวิตของชาวเยอรมัน เช่น ห้ามทำงานในหน่วยงานรัฐ ห้ามถือสัญชาติเยอรมัน และห้ามแต่งงานกับชนชาติอื่น

การกักกันในชุมชนแออัด (Ghetto): ชาวยิวถูกบังคับให้ย้ายไปอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด

การสังหารหมู่: หน่วย Einsatzgruppen ซึ่งเป็นหน่วยฆาตกรรมเคลื่อนที่เร็ว ได้เริ่มสังหารชาวยิวและคนกลุ่มอื่น ๆ ที่นาซีมองว่าไม่พึงประสงค์อย่างเป็นระบบ

การแก้ปัญหาครั้งสุดท้าย (Final Solution): ในปี 1942 นาซีได้ตกลงกันว่าจะดำเนิน "การแก้ปัญหาครั้งสุดท้าย" โดยการส่งชาวยิวไปยังค่ายมรณะ

ค่ายมรณะ: ค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์-เบียเคอเนา, เคล์มโน, เบลเซค, โซบิบอร์ และทรีบลินกา ถูกสร้างขึ้นเพื่อฆ่าชาวยิวจำนวนมาก ชาวยิวถูกนำตัวไปยังห้องประหารที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และถูกรมแก๊สพิษจนเสียชีวิต

การปกปิด: เมื่อกองทัพสัมพันธมิตรทำการรุกคืบ นาซีพยายามปกปิดอาชญากรรมของตนโดยการเผาทำลายเอกสารและรื้อค่ายกักกัน

ผลกระทบและความสูญเสียของชาวยิวในยุคของฮิตเลอร์

ชาวยิวประมาณหกล้านคนถูกฆาตกรรมในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผู้รอดชีวิตจำนวนมากต้องสูญเสียครอบครัวและบ้านเกิด รวมไปถึงความสูญเสียและความเสียหายทางจิตใจที่ไม่อาจประเมินค่าได้

ความเกลียดชังชาวยิวของฮิตเลอร์และพรรคนาซี เป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ทั้งความเชื่อทางการเมือง เศรษฐกิจ และเชื้อชาติ ความเกลียดชังนี้ นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้โลกตระหนักถึงอันตรายของความเกลียดชังและการแบ่งแยก และจำเป็นต้องมีการศึกษาประวัติศาสตร์ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

อ้างอิง

Medium / ประวัติศาสตร์ย่อยง่าย / 101 World / เมล็ดพันธุ์ความเกลีดชัง / NgThai / SilpaMag /