SHORT CUT
ใครคือ หลิว จงอี้? เปิดประวัตินักสืบดัง ทำไมการปรากฏตัวของเขาจึงเป็นที่จับตามอง? ชายผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่คือหนึ่งใน "สุดยอดนักสืบอาชญากรรม" ที่เปรียบได้ดั่งเชอร์ล็อกโฮมของจีนเลยทีเดียว!
หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาเยือนไทยโดยมาพร้อมกับความตั้งใจปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานอยู่ในเมียนมา แสดงถึงความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในการกวาดล้างหนึ่งในเครือข่ายอาชญากรรมใหญ่ที่สุดบนโลก
‘หลิว จงอี้ (Liu Zhongyi)’ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนคดีอาญาที่มีประสบการณ์ในวงการตำรวจกว่า 34 ปี เกิดในเดือนสิงหาคม ปี 1965 และสำเร็จการศึกษาจาก วิทยาลัยตำรวจมณฑลเฮยหลงเจียง ในปี 1985 หลังจากจบการศึกษา เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพตำรวจจากการเป็น ตำรวจสายตรวจ ในสำนักงานตำรวจเมืองเหอกั่ง ก่อนจะค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นตามลำดับด้จากความสามารถที่โดดเด่น
ตลอดระยะเวลาการทำงานในเมืองเหอกั่ง หลิว จงอี้ ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ เช่น ตำรวจฝ่ายรักษาความสงบ, ตำรวจฝ่ายสืบสวนคดีอาญา,รองสารวัตรสถานีตำรวจ, รองหัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีอาญาประจำสถานีตำรวจเขต และ หัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีอาญาประจำกองตำรวจเมือง ตำแหน่งเหล่านี้ทำให้เขาได้รับประสบการณ์ทั้งงานสอบสวนภาคสนามและการบริหารงานคดีสำคัญหลายคดี
ปี 2001 หลิว จงอี้ ได้รับการแต่งตั้งให้ย้ายไปทำงานที่ ‘กองบัญชาการตำรวจสืบสวนคดีอาญา สังกัดสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ' โดยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ และต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้บัญชาการเต็มตัว และทำคดีอาญาระดับประเทศ เป็นกำลังสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ จนได้รับสมญานามว่า "ยอดนักสืบแห่งเมืองจีน"
‘หลิว จงอี้’ ป็นลูกศิษย์คนโปรดของ ‘อู๋ กั๋วชิ่ง (Wu Guoqing)’ 1 ใน 8 ผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนคดีอาญาที่เก่งที่สุดในจีน และเมื่อ อู๋ กั๋วชิ่ง เกษียณอายุ เขาได้แนะนำหลิว จงอี้ ให้กับผู้นำกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ โดยกล่าวว่าหากใครจะมาแทนเขาได้ คนคนนั้นคือ หลิว จงอี้
ระหว่างปี 2004 ถึง 2012 แดนมังกรต้องเผชิญกับคดีสะเทือนขวัญ และตกอยู่ในความหวาดกลัว เมื่อ ‘โจว เค่อหัว (Zhou Kehua) ’ พ่อค้าอาวุธชาวจีน ก่อเหตุฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ถึง 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 8 ปี โดยใช้วิธีลอบยิงอย่างอุกอาจ
โจว เค่อหัว เป็นอาชญากรที่แสนอันตราย เขาไม่เพียงสังหารเหยื่อเพื่อปล้นเงิน แต่ยังลักลอบค้าอาวุธเถื่อน และมีทักษะการหลบหนีที่เก่งกาจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามล่าตัวเขาอย่างหนักแต่ก็ยังจับไม่ได้ จนกระทั่งในปี 2011 ทางการจีนแต่งตั้ง หลิว จงอี้ มาเป็นหัวหน้าชุดสืบ และมอบทีมงานให้เขาอี้กกว่า 100 นายเพื่อตามหา โจว เค่อหัว โดยเฉพาะ
มือปราย หลิว จงอี้ ได้ใช้วิธีตรวจสอบไฟล์วิดีโอวงจรปิด (CCTV) จากหลายเมือง ทำงานทั้งวันทั้งคืนร่วมกับทีมงานเป็นปี ในที่สุดสามารถ ค้นพบเบาะแสของโจว เค่อหัว จากนั้น จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานงานกับตำรวจท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อตามล่าตัวอาชญากรรายใหญ่นี้
ในเดือนสิงหาคม ปี 2012 โจว เค่อหัว เตรียมปรากฏตัวเพื่อก่อเหตุอีกครั้ง แต่คราวนี้ตำรวจจีนเตรียมพร้อมแล้ว และเปิดปฏิบัติการล่าตัวเขานาน 4 วัน จนสามารถวิสามัญ โจว เค่อหัวในที่เกิดเหตุได้ เป็นการปิดฉากคดีสะเทือนขวัญที่ยืดเยื้อมายาวนาน และ สร้างชื่อเสียงให้ หลิว จงอี้ ในฐานะนักสืบมือหนึ่งที่คลี่คลายคดีหฤโหดระดับประเทศได้สำเร็จ
ปี 2017 หลิว จงอี้ ได้รับรางวัล "ต้นแบบตำรวจแห่งชาติ" จากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ แม้คนจะมองว่าไม่มีคดีไหนที่เขาไขไม่ได้ แต่เขาก็ยังถ่อมตัว ครั้งหนึ่งจงอี้เคยกล่าวว่า ตนไม่ได้เก่งอะไร แค่โชคดีที่เกิดในยุคที่มีความพร้อม และให้โอกาสตนได้ตั้งใจทำงานและทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ หลิว จงอี้ ไม่ได้ทำงานโดยเลือกคดีจากความง่าย แต่ถือคติยิ่งยากยิ่งต้องไขให้ได้ โดยให้เหตุผลว่า “ถ้าผู้เคราะห์ร้ายเป็นน้องสาวหรือลูกสาวของเราเอง เราจะทำอย่างไร? เรายังจะทำงานแบบขอไปทีหรือเพิกเฉยต่อเบาะแสเพียงเพราะกลัวความเหนื่อยอย่างนั้นหรือ?”
ปัจจุบัน หลิว จงอี้ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ด้วยผลงานที่นับไม่ถ้วน ทำให้ชีวิตเขาถูกดัดแปลงเป็นซีรีส์เรื่อง ‘ข้าคือนักสืบ’ ที่ผลิตโดย China Central Television ซึ่งออกฉายในปี 2024 โดยมีจำนวนตอนมากถึงเกือบ 40 ตอน เรียกได้ว่าฮิตเหมือนเรื่อง Sherlock Holmes ของอังกฤษเลยทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง