เริ่มแล้วงานแสดงนิทรรศการระดับโลก EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น Thailand Pavilion ขึ้นแท่นไฮไลท์ นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ แห่ร่วมงาน
อลังการสมการรอคอยสมกับเป็นงานแสดงนิทรรศการระดับโลก สำหรับงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมงานจำนวน 158 ประเทศ สำหรับอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ตั้งอยู่ในพื้นที่ A13 โซน Connecting Lives เป็นหนึ่งในอาคาร Self-Build Pavilion มีการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างเอง โดยนำศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณผสานเข้ากับวิธีก่อสร้างสมัยใหม่ที่งามสง่า โดดเด่นด้วยการออกแบบหลังคาที่เป็นลักษณะ "ทรงจอมแห" ให้เป็นทรงครึ่งจั่วประกอบกับการใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ขนาบข้างอาคารยาวตลอดแนวเป็นการสร้างเทคนิคภาพสะท้อน ทำให้เห็นความเป็นสถาปัตยกรรมของไทย อันสมบูรณ์และงดงามแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ถือเป็น 1 ในพาวิลเลี่ยนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
โดยวันแรกของการเปิดตัว "อาคารแสดงประเทศไทย" (Thailand Pavilion ) ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างท่วมท้นและเนื่องด้วยวันที่ 13 เมษายน เป็นวันแรกที่เปิดให้เข้าชมงานตรงกับวันสงกรานต์ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย จึงได้หยิบยก "เทศกาลสงกรานต์" มรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก มาเป็นการแสดงสุดยิ่งใหญ่ ชุด "อาทิตย์อุทัย กึกก้องทั่วหล้า มหาสงกรานต์" ผ่านการแสดง "นาฏลีลาทุงษะเทวีศรีสงกรานต์" เพื่อเชื่อมต่อคนทั้งโลกให้เข้าถึงประเทศไทย ซึ่งสร้างความประทับใจ และได้รับเสียงปรบมือดังจากผู้ชมอย่างกึกก้อง พร้อมกันนี้ผู้เข้าชมงานส่วนมากได้ให้ความสนใจกับการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารทั้ง 3 ห้องจัดแสดง
จุดถ่ายภาพเพื่อแชร์ "ดินแดนแห่งความกินดียู่ดี" ให้ทั่วโลกได้รู้จัก โดยสแกน QR Code จากบอร์ดนิทรรศการเพื่อเล่น AR ทำการปักหมุดเฉลว ณ อาคารนิทรรศการไทย ให้ทั่วโลกได้รู้จักประตูบานแรกที่เปิดให้ก้าวเข้ามาสัมผัสดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดีสไตล์ไทยๆ
เข้าถึงภูมิวิถีแบบไทย ๆ ผ่านวิถีการอยู่กับธรรมชาติ การกินตามฤดูกาล รวมไปถึงแง่งามของวัฒนธรรมประเพณี และยิ้มสยามเอกลักษณ์ที่ทั่วโลกยอมรับและคุ้นเคย โดยถ่ายทอดผ่านแอนิเมชันเเละสื่อ Interactive พร้อมเดินทางตามหาเคล็ดลับอายุวัฒนะในประเทศไทย ดินแดนแห่งความมั่งคั่งด้านสุขภาพ ผ่านการจัดแสดงแบบ Immersive Experience ภายในโรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater มหรสพรูปแบบใหม่ที่ถ่ายทอดความงดงามของภูมิวิถี, ธรรมชาติ, ความเป็นเลิศด้านการแพทย์, การบริการเเละรอยยิ้มของผู้คน ด้วยจอฉายภาพขนาดยักษ์ สูงกว่า 5 เมตร พร้อมระบบแสงสีเสียงสุดล้ำแบบจัดเต็ม มอบประสบการณ์ที่สมจริง เกินจินตนาการ ที่ช่วยสร้างภูมิทางกายและภูมิทางใจให้แข็งแกร่ง
ซึ่งทั้งหมดนี้คือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณในแบบเฉพาะของคนไทย เป็นอีกหนึ่งโซนที่ผู้ชมต่างพากันให้ความสนใจต่อแถวเพื่อเข้าชม
นำเสนอผ่าน Projection Mapping พร้อมวัตถุจัดแสดงรอบห้องกว่า 100 สิ่ง ที่สื่อถึงระบบสาธารณสุขที่ดี โครงการที่ดี ความร่วมมือที่ดี ภายใต้นโยบาย Thailand Medical hub อาทิ โครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติ, งานวิจัยที่โดดเด่น, นวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยที่โดดเด่น อาทิ นวัตกรรม AI คัดกรองเบาหวานที่ตา ฟองน้ำห้ามเลือด จากแป้งข้าวเจ้า ผลิตผลจากเกษตรกรรมไทย กระดูกทดแทนจากเทคโนโลยี 3 มิติ หุ่นยนต์ดินสอ ช่วยดูแลผู้สูงวัย ฯลฯ
นำเสนอศักยภาพทางการแพทย์และการบริการ ของไทยที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ผ่านทัชสกรีนที่สามารถเข้าถึงการรักษา 15 กลุ่มโรคที่นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นิยมมารักษาที่ไทย ผ่านโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ตลอดจนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่นำเสนอสปา เวลเนส รวมทั้งบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ได้รับมาตรฐาน Thai World Class Spa และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทย
ภายในส่วนจัดแสดงนี้ผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์ผ่อนคลายผ่านห้องจัดแสดง RHYTHM OF THAI NATURE THERAPY นำเสนอสุขภาพดีแบบไทย ผ่านธาตุทั้ง 4 ตามหลักเเพทย์เเผนไทยที่สื่อถึงการป้องกัน เสริมสุขภาพ เเละการรักษาสมดุลทั้งทางร่างกายเเละจิตใจ ผ่านเสียงเเละทัศนียภาพธรรมชาติจากดินเเดนไทย ด้วยภาพ Visual ธรรมชาติผสมผสานเสียงบรรยากาศทั้ง 3 ฤดูกาลของประเทศไทย เพื่อพาผู้เข้าชมมาผ่อนคลายผ่านประสาทสัมผัส ได้แก่ การมองเห็น, การได้กลิ่น, การได้ยิน และการสัมผัส เสมือนยกเมืองไทยมาไว้ในงาน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ รอบห้องจัดแสดงยังนำเสนอศักยภาพทางการแพทย์ของไทยผ่านการจัดอันดับที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น ประเทศที่ฟื้นตัวและรับมือสถานการณ์ โควิด-19 ได้ดีที่สุด ประเทศที่มีกิจกรรมเชิงสุขภาพและสถานบริการเพื่อสุขภาพดีติดอันดับโลก ฯลฯ เสมือนข้อพิสูจน์ว่าประเทศไทยเป็นหมุดหมายปลายทางด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างแท้จริง
เรียนรู้เรื่องราววัตถุดิบและอาหารไทย ผ่านโซนจัดแสดงต่าง ๆ ได้แก่ "เกมรังสรรค์เมนูสุขภาพสไตล์คุณ" ที่สามารถเลือกรังสรรค์เมนูไทย เช่น แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ต้มยำ ฯลฯ ในสไตล์ของตัวเองได้ผ่าน Art Wall Installation โดยมีหลากหลายวัตถุดิบไทยให้เลือกรังสรรค์ เช่น พริก หอมแดง กระเทียม ข้าวโพดอ่อน มะเขือม่วง ฯลฯ สอดคล้องไปกับแนวทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ส่งเสริมให้ทั่วโลกบริโภคผักและผลไม้ให้หลากหลาย ครบ 5 สี รับชม "อาหารไทยติดอันดับโลก" ซึ่งผู้ชมสามารถเลือกดูเมนูอาหารติดอันดับผ่าน Interactive Table เช่น ผัดกะเพรา ผัดไทย มัสมั่น ฯลฯ ทั้งยังต่อยอดเป็นเมนูฟิวชั่นต่าง ๆ เช่น พิซซ่ากะเพราไข่ดาว เกี๊ยวซ่าผัดไทย สเต็กซอสมัสมั่น ฯลฯ พร้อมรู้จักกับ "สำรับอาหารไทย 4 ภาค" ที่จำลองเมนูสุขภาพของแต่ละภูมิภาคซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบไทย เช่น น้ำพริกปลาทู (ภาคกลาง) ขนมจีนน้ำเงี้ยว (ภาคเหนือ) แกงอ่อมปลาดุก (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) แกงขมิ้นไตปลา (ภาคใต้) และ"Display อาหารแห่งอนาคต" ที่จัดแสดงนวัตกรรมอาหาร ที่พัฒนาเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ใหม่ในอนาคต ซึ่งผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากสนุกสนานไปกับการรังสรรค์เมนูไทยตามสไตล์ของตัวเอง ถึงขนาดต้องถ่ายคลิปวีดีโอเก็บไว้เพื่อนำไปลองทำเป็นสูตรอาหารของตนเอง
พบกับ Open kitchen Experience โชว์ทำอาหารที่คัดสรรอาหารไทยยอดนิยม อาทิ ส้มตำไทย, ต้มยำกุ้ง, ข้าวเหนียวไก่ย่าง, แกงเขียวหวานไก่, แกงมัสมั่นไก่, ผัดไทยกุ้งสด, ข้าวมันไก่, ข้าวซอยไก่, ต้มข่าไก่, ข้าวกระเพราไก่, แกงแพนงหมู และ ข้าวผัดกุ้ง มาสลับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดการจัดงาน และแน่นอนว่าในโซนนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากจนต้องเข้าคิวเพื่อรอชมโชว์และทานอาหารไทย ในส่วนพื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยได้คัดสรรสุดยอดสินค้าดี สินค้าเด่นของไทย รวมถึงโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ทั้งยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปทำถุงหอม ที่สามารถรังสรรค์กลิ่นจากสมุนไพรไทย มาทำเป็นถุงหอมในแบบฉบับของตนเอง เมื่อทำเสร็จสามารถนำกลับไปใช้ หรือเป็นของฝากได้ นับเป็นเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมเวิร์คช็อปจะหมุนเวียนมาให้ผู้เข้าชมงานได้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แต่งกายชุดไทย, สาธิต การทำอาหารไทย, ธรรมชาติไทยบำบัด และนวดไทย
พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้มให้กับคนทั่วโลก พร้อมลุ้นรับส่วนลดที่พัก สปา&เวลเนส เเละห้องอาหาร ให้ไปสัมผัสวิถีไทยครบทุก 5 สัมผัส
นอกเหนือจากนั้น บริเวณด้านหน้าอาคารมีเวทีกิจกรรมจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยนำเสนอภายใต้แนวคิด "ยิ้มสยามงามสู่สังคมโลก" เผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณี และเสน่ห์ที่หลากหลายผ่านการแสดงที่สลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน สร้างความสนุกและประทับใจให้แก่ผู้มาเข้าชมจากทั่วโลก รวมถึงการแสดงแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับประเทศต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ประเทศไทยกับนานาประเทศ ทั้งยังมี "น้องภูมิใจ" มาสคอตประจำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ทำหน้าที่เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทย พร้อมต้อนรับผู้ชมจากทั่วโลกด้วยยิ้มสยามอย่างเป็นอบอุ่น จริงใจ อีกด้วย