SHORT CUT
ไม่มีคนอเมริกาที่แท้จริง ต้นตระกูล “ทรัมป์” ยังมาจากยุโรป สะท้อนชัดไม่มีคนอเมริกาที่แท้จริงในผืนดินสหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ก่อนที่ชาวยุโรปจะเดินทางมาถึงในศตวรรษที่ 15 ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้เป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอเมริกันหรือที่เรียกว่าอินเดียนแดง ซึ่งมีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
ความพิเศษของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่การเป็น "melting pot" หรือหม้อหลอมรวมวัฒนธรรม ที่ซึ่งผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม มาอยู่ร่วมกันและสร้างอัตลักษณ์ใหม่ร่วมกัน ความแข็งแกร่งของประเทศเกิดจากการผสมผสานของความหลากหลายนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ดนตรี ศิลปะ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ล้วนได้รับอิทธิพลและการพัฒนาจากผู้คนที่มาจากต่างถิ่น
แต่ในขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมประกาศใช้ นโยบายการเข้าเมืองที่เข้มงวด โดยมีเป้าหมายหลักคือการ ขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมาย ออกจากสหรัฐอเมริกา ทรัมป์มองว่าผู้อพยพเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ
มาตรการสำคัญ ภายใต้นโยบายนี้ประกอบด้วย ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติที่ชายแดนทางตอนใต้ ยุติการเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหมดในทันที เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคนกลับประเทศต้นทาง ส่งกองกำลังทหารไปประจำการที่ชายแดนใต้ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง
นโยบายดังกล่าว ก่อให้เกิด เสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยถูกมองว่าเป็นนโยบายที่ กีดกันและไร้มนุษยธรรม
ด้วยเหตุนี้ การพูดถึงการขับไล่ผู้อพยพโดยอ้างว่าพวกเขาไม่ใช่ "คนอเมริกันแท้" จึงเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับรากฐานของประเทศ เพราะแท้จริงแล้ว นอกเหนือจากชนพื้นเมือง ทุกคนในสหรัฐอเมริกาล้วนมีบรรพบุรุษเป็นผู้อพยพทั้งสิ้น ความยิ่งใหญ่ของประเทศนี้เกิดขึ้นได้เพราะการเปิดรับผู้คนที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตใหม่
อย่างไรก็ตาม การจัดการเรื่องการอพยพย้ายถิ่นในปัจจุบันเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและต้องการการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงทั้งความมั่นคงของประเทศและการรักษาไว้ซึ่งค่านิยมพื้นฐานของการเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับผู้แสวงหาโอกาสและอิสรภาพ การหาจุดสมดุลระหว่างสองสิ่งนี้คือความท้าทายที่สำคัญของยุคสมัยปัจจุบัน
ขณะที่ต้นตระกูลทรัมป์มีรากเหง้ามาจากฝั่งยุโรปทั้งฝั่งพ่อและฝั่งแม่ กล่าวคือฝั่งบิดาที่มาจากเยอรมนี และฝั่งมารดาที่มาจากสก็อตแลนด์
ฝั่งบิดาของเขาเริ่มต้นมาสหรัฐฯ โดย ฟรีดริช ทรัมป์ (Friedrich Trump) ปู่ของโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดในหมู่บ้านคัลล์ชตัดท์ (Kallstadt) แคว้นไรน์แลนด์-พฟัลซ์ ประเทศเยอรมนี ในปี ค.ศ. 1869 เขาอพยพมาสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1885 ขณะอายุเพียง 16 ปี เพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารในเยอรมนี ฟรีดริชเริ่มต้นชีวิตในนิวยอร์กด้วยการเป็นช่างตัดผม ก่อนจะย้ายไปแสวงโชคในช่วงตื่นทองที่รัฐวอชิงตันและแคนาดา เขาสร้างธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมจนประสบความสำเร็จ
ขณะที่ฝั่งแม่ตระกูลแมคลีโอด มาจากจากสก็อตแลนด์ แมรี แอนน์ แมคลีโอด (Mary Anne MacLeod) มารดาของโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดในหมู่บ้านทอง (Tong) บนเกาะลิวิส (Isle of Lewis) ประเทศสก็อตแลนด์ ในปี ค.ศ. 1912 เธอเดินทางมาสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1930 ขณะอายุ 18 ปี โดยเริ่มต้นชีวิตในนิวยอร์กด้วยการทำงานเป็นแม่บ้าน ที่นี่เธอได้พบกับเฟร็ด ทรัมป์ (Fred Trump) บุตรชายของฟรีดริช และแต่งงานกันในปี ค.ศ. 1936เฟร็ด ทรัมป์ บิดาของโดนัลด์ สานต่อและขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก จนสร้างรากฐานความมั่งคั่งให้กับตระกูลทรัมป์ในเวลาต่อมา
จะเห็นได้ว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ก่อนที่ชาวยุโรปจะเดินทางมาถึง ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองอเมริกัน หรืออินเดียนแดง แท้จริงแล้ว นอกเหนือจากชนพื้นเมือง ทุกคนในสหรัฐอเมริกาล้วนมีบรรพบุรุษเป็นผู้อพยพ ความยิ่งใหญ่ของประเทศนี้เกิดขึ้นได้เพราะการเปิดรับผู้คนที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตใหม่
ประธานาธิบดีทรัมป์มีนโยบาย ขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมาย โดยมองว่าพวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า กีดกันและไร้มนุษยธรรม การพูดถึงการขับไล่ผู้อพยพโดยอ้างว่าพวกเขาไม่ใช่ "คนอเมริกันแท้" จึงเป็นแนวคิดที่ขัดแย้งกับรากฐานของประเทศ
แม้แต่ต้นตระกูลของทรัมป์เองก็มีรากเหง้ามาจากยุโรป ปู่ของเขาอพยพมาจากเยอรมนี ส่วนย่าของเขาอพยพมาจากสก็อตแลนด์ การจัดการเรื่องการอพยพเป็นประเด็นที่ซับซ้อน ต้องคำนึงถึงทั้งความมั่นคงและการรักษาไว้ซึ่งค่านิยมของการเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับผู้แสวงหาโอกาส
อ้างอิง
โพสทูเดย์ / BBC / Achive / Time / Never Enough: Donald Trump and the Pursuit of Success /