SHORT CUT
สรุปมหากาพย์ #อุยกูร์ ชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในจีน ที่ถูกจับกุมในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557 แล้วถูกกักขังในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายไว้ที่ห้องกักของ ตม.นานกว่า 11 ปี ไทยเคยส่งกลับไปจีนแล้วรอบหนึ่งท่ามกลางการประณามของชาวโลก สู่กระแสข่าวว่าจะมีการส่งกลับอีกเร็วๆนี้?
ชาวอุยกูร์เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ชาวอุยกูร์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในซินเจียง มีวัฒนธรรมและศาสนาที่คล้ายคลึงกับกลุ่มชาติพันธุ์เอเชียกลางอื่นๆ เช่น กลุ่มอุซเบกและกลุ่มคาซัก ทั้งยังใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับภาษาอุซเบก และมีความคล้ายคลึงกับภาษาคาซัก ภาษาคีร์กีซ และภาษาเตอร์กิก
พวกเขาถูกรัฐบาลจีนดำเนินมาตรการเด็ดขาดกับวัฒนธรรมและศาสนา โดยลงโทษชาวอุยกูร์ที่พูดภาษาอุยกูร์ ดำรงรักษาวัฒนธรรม หรือปฏิบัติตามหลักศาสนาของตน เช่น การอดอาหารระหว่างเดือนถือศีลอด หรือการงดเว้นจากการรับประทานหมูและดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
13 มีนาคม 2014 ชาวอุยกูร์หลายร้อยคนถูก ตม.ของไทย จับกุมได้ในป่าใกล้พรมแดนไทย-มาเลเซีย โดยข้อมูลทางการไทยระบุว่าได้ควบคุมตัวไว้ทั้งหมด 220 คน ที่ห้องกักคนต่างด้าวของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ใน กทม. โดยกลุ่มคนเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่มากกว่าผู้ถูกคุมขังในเรือนจำเสียอีก เพราะพื้นที่ห้องกักนั้นคับแคบ การเยี่ยมลำบาก และมองไม่เห็นทางออกของชีวิต
ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 (ปี 2558) ไทยเคยส่งตัวผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์กว่า 170 คน ลี้ภัยยังประเทศที่สามคือประเทศตุรกี
แต่ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทางการไทยกลับบังคับส่งตัวชายชาวอุยกูร์กว่า 100 คนกลับไปให้ทางการจีน เดินทางโดยเครื่องบินไปยังประเทศจีน
ซึ่งขัดต่อพันธกรณีหลักการไม่ส่งกลับไปเป็นเหยื่อของการประห้ตประหาร ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญานี้ รวมทั้งเป็นหลักการตามกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
มูฟเม้นครั้งนั้นทำให้ไทยถูกประณามจากทั่วโลกที่เลือกส่งกลับบุคคลเหล่านี้ไปเผชิญอันตราย
จากนั้นก็มีรายงานว่าเราเลือก "แช่แข็ง" เรื่องนี้ไว้ กักชาวอุยกูร์ที่ยังเหลือกว่า 58 คนไว้ในห้องกัก ไม่มีการส่งกลับและไม่มีการส่งต่อไปยังประเทศที่สามอีก จนเวลาผ่านมาเกือบ 11 ปี มีหลายรายเสียชีวิตลงในห้องกัก
จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม 2025 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าชาวอุยกูร์ได้ส่งจดหมายว่า "รัฐบาลไทยจะส่งพวกเขากลับไปประเทศจีน" ทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนและสื่อมวลชนออกมาคัดค้าน และเรียกร้องความชัดเจนจากรัฐบาล
จนวันที่ 17 มกราคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันหลังเป็นประธานประชุม สมช. ว่า ยังไม่มีแผนส่งกลับชาวอุยกูร์ในเวลาอันใกล้นี้ แต่มีการหารือ ว.5 (วาระลับ) เพื่อดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหากับประเทศไทย
ด้าน วุฒิสมาชิกมาร์โค รูบิโอ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในรัฐบาลโดนัล ทรัมป์ ได้แสดงท่าทีชัดเจนเมื่อวันที่ 15 มกราคม ประกาศว่า จะกดดันรัฐบาลไทยไม่ให้ส่งตัวชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกคุมตัวในไทยกลับไปยังประเทศจีน