SHORT CUT
ในช่วงเวลาที่คนทั่วโลกเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยเสียงหัวเราะและเสียงเพลง อาจมีบางคนที่กลับรู้สึกว่างานฉลองเหล่านั้นห่างไกลจากหัวใจของตนเอง หากคุณรู้สึกแบบนั้น ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และมีวิธีแก้
ในช่วงเวลาที่คนทั่วโลกเฉลิมฉลองปีใหม่ด้วยเสียงหัวเราะและเสียงเพลง อาจมีบางคนที่กลับรู้สึกว่างานฉลองเหล่านั้นห่างไกลจากหัวใจของตนเอง เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีแต่เรื่องราวที่ทดสอบจิตใจอย่างหนักหน่วง จนอาจทำให้ผิดหวัง และไม่เบิกบานในช่วงสิ้นปี
หากคุณรู้สึกแบบนั้น ขอให้รู้ไว้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และอาจลองปรับมุมมองชีวิตใหม่ดูไม่เสียหาย เพราะปีใหม่ไม่ได้มีไว้เพื่อเฉลิมฉลองเพียงอย่างเดียว แต่มันคือโอกาสที่จะหยุดพัก ทบทวน และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะฉลองปีใหม่นี้อย่างไรให้เหมาะกับหัวใจที่ยังเจ็บปวด และสร้างความหมายที่แท้จริงให้กับการเริ่มต้นครั้งใหม่ในชีวิต?
คนเรามักยึดติดกับค่านิยม ใหม่ต้องมีภาพความสำเร็จ ซื่อของใหม่ จัดงาน ปาร์ตี้ใหญ่โต กินของแพง แต่คุณไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องเหล่านี้ และสามารถมีปีใหม่ที่และอบอุ่นในแบบของคุณเองได้ เช่น อาจอยู่บ้านและจัดงานปาร์ตี้เล็กกับครอบครัว หรือไม่ก็ไปใช้เวลากับเพื่อนที่สนิทจริงๆ หรือถ้าขี้เกียจก็อยู่ใส่ชุดนอนอยู่ในห้องส่วนตัวและทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้
ทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิด หรือเป็นการต่อต้านสังคม แต่คือการ ซื่อสัตย์กับตัวเอง เพราะสำหรับบางคน ในช่วงที่รู้สึกแย่แล้วต้องมาฉลองปีใหม่ตามค่านิยมของสังคมที่วุ่นวาย อาจทำให้คุณไม่มีความสุขกว่าเดิม แต่การทำสิ่งที่แตกต่างจะทำให้คุณสัมผัสกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นของคุณเอง
แม้ว่าสิ่งแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดปี จะยังคงส่งผลกระทบต่อคุณในช่วงปีใหม่ แต่คุณยังสามารถกล่าวคำอำลากับบางส่วนของมันได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจทำรายการสิ่งที่เลวร้ายที่ต้องอดทนในปีที่ผ่านมา เพื่อเตือนตัวเองว่าจะไม่ต้องเผชิญอีกในปีใหม่ หรือปีที่ผ่านมามีเรื่องเลิกกับคนรักอย่างเจ็บปวดหัวใจ และคุณเลือกที่จะปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีต หรือหากถูกเลิกจ้าง ก็ให้เชื่อมั่นว่าคุณจะรักงานใหม่มากกว่าก็ได้
แม้ฟังดูเหมือนการปลอบใจเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่การไม่ต้องแบกรับสิ่งที่แย่ ๆ เหล่านั้นอีกครั้งในอนาคตอันใกล้สามารถทำให้ชีวิตคุณในปีใหม่มีความหมายมากขึ้น หากวิธีนี้ไม่เหมาะกับคุณ คุณอาจลองทำรายการสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณในปีที่ผ่านมาแทนก็ได้
คุณอาจตั้งเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จในปี 2025 เช่น การเลื่อนตำแหน่งในที่ทำงาน หรือเป้าหมายอื่น ๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่คุณอาจเกิดความสนุกมากขึ้นหากลองตั้งเป้าหมายที่เน้นธีม เช่น "มีความสุขให้มากที่สุด" หรือ "หัวเราะให้เยอะขึ้น" แม้ฟังดูไม่ชัดเจนและวัดผลไม่ได้ แต่นั่นแหละคือจุดสำคัญ! เพราะการเลือกเป้าหมายที่คลุมเครือคือการเปิดพื้นที่ให้ความสุขและเรื่องดีๆ ที่ไม่คาดคิดพุ่งเข้ามา ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความล้มเหลวและความผิดหวัง
ลองเปลี่ยนมุมมองจากการคิดถึงเป้าหมายคุณพลาด หรือโครงการที่คุณยังทำไม่เสร็จ มาเป็นการประเมินสิ่งที่คุณได้ลงมือทำไปแล้วบ้าง หรือใช้ปีใหม่นี้เป็นโอกาสในการทบทวนว่าคุณต้องการเดินหน้าต่อในสิ่งที่คุณเริ่มไว้หรือไม่
ตัวอย่างเช่น ปีนี้คุณเขียนนิยายที่ตั้งใจไว้ไม่ทันกำหนดการ แต่คุณก็ยังสามารถกลับไปอ่านซ้ำ และตั้งเป้าหมายใหม่ได้ว่าปีหน้าจะเขียนอย่างไรต่อไป หรือปีนี้คุณอาจยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งในสายงาน แต่ก็คุณก็สามารถใช้ช่วงเวลาปีใหม่ทบทวนตัวเอง หาข้อดี ข้อเสีย เพื่อปรับปรุงใหม่ การปฏิบัติแบบนี้จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น เพราะมันเปิดโอกาสให้คุณได้ชื่นชมความก้าวหน้าของตัวเองในมุมต่างๆ และช่วยลดความกดดันที่ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จก่อนสิ้นปี
จำไว้ว่า ทุกปีไม่จำเป็นต้องเป็นปีที่ดีขึ้นเสมอไป แนวคิดที่ว่าคุณสามารถจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและเข้าสู่ปีใหม่แบบไร้ความเครียดโดยสิ้นเชิงนั้นค่อนข้างจะดูเกินจริงไปหน่อย โปรดอย่าลืมว่า ยังไงคุณก็จะมีเทศกาลวันหยุดอีกในปีหน้า ปีนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นปีที่ดีที่สุดเสมอไป” แถมยังเป็นเรื่องปกติที่การพยายามทำให้บางสิ่งให้ดีที่สุดเสมอ มักจะจบลงด้วยความผิดหวังครั้งใหญ่
นอกจากนี้ เพียงเพราะดูเหมือนทุกคนรอบตัวกำลังมีช่วงเวลาที่ดีไม่ได้แปลว่าพวกเขารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ บางทีพวกเขาอาจกำลังอิจฉาคุณอยู่ก็ได้ที่ได้ใช้ชีวิตเรียบง่าย เพราะสุดท้ายท้าย ชีวิตมนุษย์ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อน ใครจะรู้ว่าชีวิตปีใหม่ของคุณอาจดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากผ่านคืนวันที่ 31 ธันวาคม ไปแล้วก็ได้ เพราะคุณสามารถเริ่มต้นใหม่ตามที่คุณต้องการ และไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่พร้อมคนอื่นเสมอไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง