svasdssvasds

มาตรการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 5 หมื่นบาท

มาตรการ Easy E-Receipt  ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 5 หมื่นบาท

ครม.อนุมัติมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 50,000 บาท เช็กเงื่อนไขสินค้าที่เข้าร่วม-ไม่ร่วมโครงการ มีอะไรบ้าง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการของขวัญปีใหม่ 2568 เพื่อช่วยในการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน คือ โครงการ Easy E-Receipt 2.0 เพื่อให้ประชาชนใช้จ่ายตามเงื่อนไขโครงการ และสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท โดยคาดว่าระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่ 15 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2568


 

สำหรับการใช้จ่ายผ่านโครงการ Easy E-Receipt ต้องซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และนำใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt วงเงิน 50,000 บาท ในวงเงิน 50,000 บาท โดยแบ่งการใช้จ่ายเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1.วงเงิน 30,000 บาท ใช้จ่ายสำหรับซื้อสินค้าและบริการที่กำหนด และขยายสิทธิให้ซื้อแพ็กเกจทัวร์ โรงแรม ที่พัก รถเช่าได้ด้วย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

2.วงเงิน 20,000 บาท ใช้จ่ายสำหรับร้านวิสาหกิจชุมชน SME และร้านค้า OTOP ที่อยู่ในระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์


 

สำหรับสินค้าที่ไม่เข้าร่วมมาตรการ Easy E-Receipt

  1. ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
  2. ค่าซื้อยาสูบ
  3. ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  4. ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
  5. ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาวซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2568 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ก็ตาม
  6. ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 70,000 ล้านบาท และทำให้รัฐสูญเสียการจัดเก็บรายได้ราว 10,000 ล้านบาท และจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ หรือเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มราว 20% จากปีก่อน


 

related